รัฐเร่งเดินหน้าประกันข้าวรับผลผลิตนาปี

 นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการประกันพืชผลเกษตรกรว่า จะเร่งดำเนินการให้ทันการประกันข้าวนาปีในฤดูกาลผลิตนี้ โดยในหลักการยังยืนยันที่จะใช้เบี้ยประกันในราคาเดียวกันทั่วประเทศ เพราะเป็นการประกันทั้งหมด บริษัทประกันภัยสามารถใช้เฉลี่ยต้นทุนได้ เบื้องต้นจะเป็นการดำเนินการกับเกษตรกรลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งหมด และส่วนที่เหลือรัฐบาลจะเป็นผู้เข้าซื้อประกันแทน เพื่อให้โครงการประกันภัยพืชผลเกษตรสามารถเดินหน้าไปได้

 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ลงพื้นที่ดูการประเมินความเสียหายนาข้าวใน จ.สุพรรณบุรี และสิงห์บุรีที่มีปัญหาโรคระบาด เพื่อนำข้อมูลมาประเมินความเสี่ยงในการจัดเก็บค่าเบี้ยประกันและการจ่ายชดเชยให้เกษตรกร ก่อนสรุปให้คณะกรรมการชุดของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 12 เมษายนนี้ เพื่อให้ทันใช้ในฤดูกาลผลิตนี้หรือเดือนพฤษภาคมนี้

 ทั้งนี้ เบื้องต้นสมาคมประกันภัยเห็นด้วยในหลักการรับทำประกันภัยพืชผล แต่ติดที่การจ่ายเบี้ยประกันอาจจะไม่ครอบคลุมความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร หรือนาข้าวทั่วประเทศ หากมีเกษตรกรเข้าโครงการไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 57 ล้านไร่ เมื่อคิดเบี้ยประกันอัตราเดียว กระทรวงการคลังเห็นว่าในส่วนลูกค้าของ ธ.ก.ส. ที่มีประมาณ 37 ล้านไร่ น่าจะเข้าโครงการ โดยที่ธ.ก.ส.มีมาตรการจูงใจทั้งการลดดอกเบี้ยหรือจ่ายค่าเบี้ยประกันให้

 ส่วนที่เหลือนั้นรัฐบาลจะรับภาระการจ่ายเบี้ยประกันทั้งหมด แต่หากเกิดความเสียหายขึ้นบริษัทประกันก็จ่ายคืนให้รัฐแทนที่จะจ่ายให้เกษตรกร ซึ่งส่วนนี้อาจจะใช้เงินปีละประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าการดำเนินงาน เพราะการจ่ายชดเชยความเสียหายให้เกษตรกรแต่ละปีก็เป็นเงินประมาณ 4,800 ล้านบาท ขณะที่การคำนวณค่าเบี้ยประกัน 140 บาทต่อไร่นั้น อาจจะปรับเพิ่มขึ้นหากเอกชนมองว่าต้องครอบคลุมทั้งภัยแล้ง น้ำท่วมและโรคระบาด โดยเฉพาะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง