
ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์พระราชทานสัมภาษณ์วูดดี้
ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ พระราชทานสัมภาษณ์รายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" ทรงเปิดใจถึงตัวตนที่แท้จริง ไม่อยากให้ไปฟังข่าวลือ เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ไม่ได้สุขสบายอย่างที่หลายคนคิด พร้อมทรงอยากให้ทั้ง 2 พระองค์ได้รับความยุติธรรม
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานพระวโรกาสพิเศษแก่รายการโทรทัศน์ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" โดย "วู้ดดี้" วุฒิธร มิลินทจินดา เฝ้ากราบทูลสัมภาษณ์ ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ถ.วิภาวดีรังสิต
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฉลองพระองค์เสื้อกาวน์สีขาว ด้านในยังทรงชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลศิริราช ทรงเปิดใจพระราชทานสัมภาษณ์ในครั้งนี้ว่า อยากให้คนที่ติดตามชมรายการได้รู้จักตัวตนอย่างแท้จริง ไม่อยากให้ไปฟังข่าวลือ หรือข่าวที่พูดๆ กันไป ณ วันนี้ คือตัวตนที่แท้จริงไม่มีบิดเบือน 15 ปีที่ผ่านมาเป็นเด็กวัด กินนอน ทำสมาธิอยู่ในกุฏิเล็กๆ ที่วัดกับหลวงตามหาบัว ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเด็กวัด
"แม้ว่าหลวงตาปลงสังขารไปแล้ว มีกระแสข่าวมากมาย มีคำกล่าวว่ามากมาย มันย่อมมีผลกระทบกับชีวิตคนเราแน่นอน แต่อยากให้มองย้อนกลับไปพิจารณาคำนินทาว่ากล่าวนั้นว่าตรงกับตัวเราหรือไม่ ถ้ามันเป็นจริงเราก็ต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเองเสียก่อน แต่ถ้าไม่ตรงกับเรา ต้องปล่อยวางกับสิ่งเหล่านี้ทันที หลวงตาท่านสอนไว้ ตอนแรกเริ่มจะทำยากมาก แต่ก็พยายามสงบจิตใจและนึกถึงคำสอนของหลวงตา กำหนดลมหายใจ ทุกวันนี้สามารถทำได้อย่างสบายใจและสงบ"
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระดำรัสด้วยว่า เรื่องในอดีตให้มันผ่านไป อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าไปฟุ้งซ่านคาดเดา ให้อยู่กับปัจจุบัน การเกิดมาเป็นลูกของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีมีหน้าที่มากมาย ไม่ได้สุขสบายอย่างที่หลายคนคิดหรือนึกภาพตามจินตนาการนิทานเจ้าหญิงเจ้าชาย ชีวิตถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน ต้องทำงานตั้งแต่อายุ 14 จนถึงเรียนจบปริญญาเอก
"ทุกวันนี้พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ท่านยังทรงงานแม้ว่าจะมีอาการเจ็บป่วย เห็นท่านตรากตรำทำงานเพื่อประชาชนของท่านมาตั้งแต่เด็กๆ เดินทางไปในแหล่งที่ไม่มีแม้กระทั่งถนน ช่วยเหลือประชาชน เด็กยุคใหม่ไม่รู้แล้วว่าท่านทำอะไรให้บ้านเมืองบ้าง ใจจริงของฉันอยากจะขอเวลาจากรายการทีวีช่วงสั้นๆ แค่ 5 นาที 10 นาที ฉายพระราชกรณียกิจที่ท่านทำ สงสารท่านเถอะ ท่านทุ่มเทเต็มที่ เอาใจใส่ทุกรายละเอียดทุกงานที่ทำทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องความสามัคคีของคนไทย อยากให้กลมเกลียว คนไทยต้องเข้มแข็ง ชาติจะได้เจริญก้าวหน้าต่อไป ฉันอยากให้ทั้ง 2 พระองค์ได้รับความยุติธรรมตามที่ท่านควรจะได้รับ"
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระดำรัสถึงพระอาการประชวรว่า หลังจากที่ผ่าตัดแล้วต้องพักถึง 3 เดือน แต่นี่ก็เลยช่วง 3 เดือนมาแล้ว ยังเดินไม่ค่อยสะดวก แต่ก็ยังต้องทำงานเพราะช่วงที่พักฟื้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีเสด็จฯ ไปเยี่ยมเอง จนทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เราต้องรีบหาย ต้องรีบแข็งแรงตั้งใจที่จะหายและสามารถเดินได้ ทำงานได้ปกติ มาถวายงานท่านทั้ง 2 พระองค์ให้ได้เหมือนเดิม ช่วงนี้ได้รับมอบหมายให้ดูงานคณะแพทย์ พอ.สว. ก็จะต้องเข้าไปรายงานความคืบหน้าให้ทั้ง 2 พระองค์ได้ทราบด้วย งานในส่วนของสถาบันวิจัยกับงานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ก็ยังดำเนินต่อไป เมื่อมีปัญหา หรือมีเรื่องที่ต้องปรึกษาร่วมกับคณะก็ต้องเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระดำรัสอีกว่า เวลาส่วนตัวของฉันจริงๆ คือ ช่วงที่ไปอยู่วัด เป็นช่วงที่สงบสุขทั้งกายและใจ นั่งสมาธิ สวดมนต์ เคยว้าเหว่เหมือนกัน ช่วงที่หลวงตาปลงสังขารไปใหม่ๆ ก็จะเอาดีวีดีคำสอนของท่านมาเปิดดู อ่านหนังสือของท่าน "หยดน้ำในใบบัว" หลวงตาท่านสอนว่าให้เก็บพ่อไว้ในใจ แล้วท่านจะอยู่กับทูลกระหม่อมลูกตลอดไป (หลวงตาเรียกฟ้าหญิงว่าทูลกระหม่อมลูก) ฉันอยากไปอยู่วัด แต่ไม่เป็นที่ยอมรับของญาติมิตร เพราะเกรงว่าฉันจะหลุดไปจากโลกปัจจุบันนี้
"เวลาที่เหงาหรือเครียด ก็มีคุยหรือระบายกับ "ลูกหมี" สุนัขที่ฉันเลี้ยง ลูกหมีเป็นสุนัขที่เข้าใจภาษาคน เพราะอยู่กับคนมาก เขาก็จะฉลาด เวลามีปัญหา หรือมีเรื่องมากระทบจิตใจไม่ว่าใครจะพูดอะไรข่าวจะออกมาในแง่ไหน หลักใหญ่ๆ คือจิตใจ ทุกอย่างสำคัญที่ใจ เมื่อใจเราคิดดีมีใจเป็นประธานแล้ว ทุกอย่างที่เราคิดก็จะดีตามมาเอง ก่อนที่หลวงตาจะปลงสังขารท่านสั่งไว้ว่าอย่าร้องไห้ ฉันก็จะไม่ร้องไห้ แม้กระทั่งท่านปลงสังขารก็ยังนิ่งอยู่ มีเกือบๆ เหมือนกัน หลวงตาท่านมาโปรดฉัน"
ติดตามชมการพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษ พร้อมประเด็นและมุมมองที่ตรงไปตรงมาจากส่วนลึกของพระทัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รวมถึงพระดำรัสเล่าถึงการดูแลพระอาการประชวรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งทรงพระกรุณาให้ชมโต๊ะทรงงาน และบันทึกพิเศษที่ทรงอักษรจากใจ ความเชื่อเรื่องโลกแตกในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เรื่องสนุกอารมณ์ดีกับเรื่องสุนัขทรงเลี้ยง และสุนัขประจำตึกที่โรงพยาบาลศิริราช ได้ในรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายนนี้ เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี