
แพร่ภาพลูก"กัดดาฟี"สยบข่าวลือตาย
โทรทัศน์ลิเบียเผยแพร่ภาพบุตรชายผู้นำลิเบีย สยบข่าวลือเรื่องถูกลอบสังหาร ด้านผู้นำสหรัฐยืนยันถล่มลิเบียเพื่อปกป้องประชาชน นาโต้รับช่วงบัญชาการต่อพุธนี้ ขณะที่นานาชาติเปิดทางหนีให้ผู้นำลิเบีย
(29มี.ค.) สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของลิเบีย ได้แพร่ภาพที่ระบุว่า เป็นคลิปภาพของนายคามิส หนึ่งในบุตรชายของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ที่บ้านพักในกรุงทริโปลี เพื่อสยบข่าวลือที่ว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว
คลิปภาพของชุดนี้ ได้ถูกนำออกเผยแพร่ หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดหลายวันก่อนว่า นายคามิส ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารกองพลน้อยที่ 32 หรือที่รู้จักกันในชื่อ กองพลน้อยคามิส ที่ได้ชื่อว่า มีอาวุธที่ทันสมัยที่สุดและเชี่ยวชาญการรบมากที่สุดของกองทัพลิเบีย ถูกลอบสังหารโดยการพลีชีพของนักบินที่ลิเบียที่แปรพักตร์ ด้วยการขับเครื่องบินรบชนอาคารที่พักอาศัยของเขา
แต่คลิปภาพที่เผยแพร่ล่าสุด ได้แสดงให้เห็นนายคามิส สวมเครื่องแบบทหาร กำลังยืนอยู่บนหลักรถปิ๊คอัพ ท่ามกลางการอารักขาของเหล่าองครักษ์ ที่แล่นผ่านค่ายทหารบับ อัลอาซิซิยาห์ และโบกมือให้กับผู้สนับสนุน ขณะที่องค์รักษ์คอยกันไม่ให้คนเข้าใกล้เขามากเกินไป
ก่อนหน้านี้ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้กล่าวในรายการของ ABC นิวส์ ว่าเธอได้รับรายงานว่า หนึ่งในบุตรชายของพันเอกกัดดาฟี อาจถูกสังหารจากการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังพันธมิตร แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยัน
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ ได้แถลงต่อเหล่านายทหารที่มหาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ ปกป้องการเข้าร่วมการใช้ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐโจมตีลิเบียว่า เขาไม่ยอมเป็นประธานาธิบดี ที่ต้องรอดูภาพการเข่นฆ่าพลเรือน หรือหลุมศพจำนวนมากเสียก่อน แล้วค่อยลงมือจัดการอย่างแน่นอน ซึ่งการใช้ปฏิบัติการทางอากาศภายใต้การนำของชาติตะวันตกนั้น ได้ช่วยยับยั้งการรุกคืบของกองกำลัง
ฝ่ายพันเอกกัดดาฟี และการเข่นฆ่าประชาชน ที่อาจทำให้เสถียรภาพสั่นคลอนไปทั่วทั้งภูมิภาค
ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า บางชาติอาจจะทำเป็นนิ่งดูดายต่อการกระทำที่โหดร้ายในประเทศอื่นได้แต่ไม่ใช่สหรัฐ การที่สหรัฐเข้าแทรกแซงลิเบีย ก็เพื่อป้องกันการเข่นฆ่าพลเรือน และไม่ได้มีเป้าหมายไปที่ตัวพันเอกกัดดาฟี พร้อมกับเตือนว่า การพยายามใช้กำลังทางทหารโค่นอำนาจผู้นำลิเบียอาจนำไปสู่ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง นอกจากนี้ การถ่ายโอนอำนาจไปสู่รัฐบาลที่ชอบธรรม หลังการลงจากอำนาจของพันเอกกัดดาฟี จะเป็นภารกิจที่ยากลำบากอย่างยิ่ง
ประธานาธิบดีโอบาม่า ประกาศด้วยว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ จะรับช่วงการบัญชาการปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในลิเบีย ในวันพุธนี้ ตามที่เขาได้รับปากไว้ก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐจะวางมือจากการเป็นผู้นำ และไม่ได้ประเมินว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
ผู้นำสหรัฐ ไม่เคยเรียกการใช้ปฏิบัติการทางทหารภายใต้การนำของสหรัฐ เข้าถล่มทางอากาศต่อลิเบียว่า " สงคราม " และไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เพียงแต่อธิบายเหตุผลที่เขาเชื่อว่า เป็นผลประโยชน์จของสหรัฐชาติพันธมิตรที่ต้องเข้าไปพัวพันกับลิเบีย
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโอบาม่าในครั้งนี้ ถือเป็นความมั่นใจอย่างที่สุดของเขา ในความพยายามที่จะรอบทุกคำถามที่รุมเร้า โดยเฉพาะเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝั่งรีพับลีกัน รวมถึงพรรคเดโมแครตของเขาเอง และชาวอเมริกันที่วิตกเรื่องสงคราม ที่กำลังสงสัยว่า เหตุใดสหรัฐถึงต้องเข้าไปพัวพันกับในชาติมุสลิมเพิ่มขึ้นอีก
จากเหตุการณ์ประท้วงและการกวาดล้างในตะวันออกและแอฟริกาเหนือ ประธานาธิบดีโอบาม่าได้อ้างเหตุผลสนับสนุนการที่เลือกเข้าไปยุ่งเกี่ยวเฉพาะแต่ลิเบียว่า เป็นเพราะเห็นโอกาสที่ความรุนแรงจะขยายไปในขั้นที่น่ากลัว และถ้าไม่เข้าไปจัดการแก้ปัญหาในลิเบีย ก็อาจทำให้บรรดาผู้นำประเทศที่กำลังรับมือกับการลุกฮือของประชาชนของตัวเองในภูมิภาคเหล่านี้ หันไปใช้ความรุนแรงกับประชาชนของตัวเอง เพื่อให้สามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้ แต่เขาไม่ได้ระบุชื่อประเทศ
เหล่านี้ออกมา
เว็บไซท์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า กำลังมีความพยายามที่จะเสนอทางหนีออกจากลิเบีย ให้กับพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี โดยอิตาลี ระบุว่า กำลังพยายามหาประเทศในแอฟริกาให้กับเขา ในขณะที่สหรัฐส่งสัญญาณว่า จะไม่พยายามขัดขวางการหลบหนีของผู้นำเผด็จการของลิเบีย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางการกดดันทางการทูตและทางทหารต่อพันเอกกัดดาฟี เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่อังกฤษพยายามทำตามเสียงเรียกร้องส่วนใหญ่ในโลก ที่ต้องการให้เขายอมสละอำนาจ ในขณะที่การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังของเขายังคงเข้มข้น
การประชุมระดับนานาชาติว่าด้วยลิเบีย ที่จัดขึ้นที่กรุงลอนดอนในวันนี้ โดยมีสหประชาชาติ,ชาติอาหรับ , สหภาพแอฟริกัน และรัฐมนตรีต่างประเทศของอีกกว่า 40 ประเทศ เข้าร่วมด้วยนั้น จะมุ่งเน้นไปที่การประสานความช่วยเหลือในกรณีที่ต้องเผชิญหายนะทางมนุษยธรรม และสร้างภาคีนานาชาติ เพื่อประนามระบอบกัดดาฟี รวมถึงสนับสนุนองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เป็นผู้นำการใช้ปฏิบัติการทางทหารในลิเบีย
อิตาลี ได้เสนอตัวขอเป็นผู้ไกล่เกลี่ยการหยุดยิงในลิเบีย ที่รวมถึงการจัดการเรื่องที่ลี้ภัยให้พันเอกกัดดาฟี ในประเทศแอฟริกา ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกัน ได้ส่งสัญญาณว่า ถ้าพันเอกกัดดาฟีจะหนีออกลิเบีย เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกนำตัวขึ้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ ICC เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นอาชญากรสงคราม ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้สำหรับสหรัฐส่วนเรื่องที่ ICC ระบุว่า พร้อมที่จะติดตามตัวผู้นำลิเบียไปดำเนินคดีนั้น ก็เป็นระเบียบของ ICCแต่ก็มีบางประเทศที่ไม่ยอมรับ ICC ด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษ ก็ส่งสัญญาณว่ายอมรับเรื่องนี้ แม้จะอยากเห็นพันเอกกัดดาฟีถูกนำตัวเข้าสู่การพิจารณาคดีก็ตาม ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ และประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โคซี่ ของฝรั่งเศส ได้พยายามกดดันผู้นำลิเบีย ด้วยการออกแถลงการณ์ร่วมว่ายุคของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว และบรรดานายทหารทั้งหลายก็อาจรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีถ้ายอมทิ้งพันเอกกัดดาฟีทันที ก่อนที่จะสายเกินไป