
เกอิชาคนสุดท้ายในเมืองเหล็กกล้า
ภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ คุณยายสึยาโกะ อิโตะ เกอิชาคนสุดท้ายที่ยังคงประกอบอาชีพเก่าแก่ของญี่ปุนอยู่ในเมืองคามาอิชิ จังหวัดอิวาเตะ หนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์และคลื่นสึนามิเมื่อ 1
หญิงชราท่านนี้เคยรอดตายจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสึนามิถึง 3 ระลอกใหญ่ แต่เธอออกปากว่า สึนามิครั้งนี้ นับว่ารุนแรงที่สุด
คลื่นยักษ์เคลื่อนซัดกวาดหลายเมืองตามแนวฝั่งตะวันออกพังราบ รวมทั้งชุดกิโมโน ซามิเซ็ง 2 ตัว ของกระจุกกระจิก และเครื่องประดับผมหายไปกับกระแสน้ำ ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของกำลังเตรียมร้องเพลงและเล่นเครื่องสายซามิเซ็ง ต่อหน้าแขกในภัตตาคารหรูหราแห่งหนึ่ง
บ้านของคุณยายอิโตะในวันนี้คือ ฟูกที่นอนในสนามกีฬาท้องถิ่น เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านวัยเดียวกันอีกเกือบ 100 ชีวิต
"แต่สิ่งที่ฉันยังมีอยู่คือ ฝีมือการแสดงและจิตวิญญาณ นี่คือความภาคภูมิใจ ที่แม้สึนามิก็ไม่อาจพรากสิ่งนี้ไปได้" คุณยายอิโตะบอก ก่อนเล่าต่อว่า ความทรงจำแรกๆ นับแต่ลืมตาดูโลกก็คือ ภัยพิบัติธรรมชาติ แม่เล่าว่า ได้อุ้มเธอไว้บนบ่าและวิ่งหนีสึนามิเมื่อตอนที่ยังเป็นทารก
คุณยายอิโตะเริ่มอาชีพเกอิชาในวัยเพียง 12 ในเมืองคามาอิชิ ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางเหนือ 450 กม. โดยใช้ชื่อเกอิชาว่า ชิกาโนะ ฟูจิมะ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวหลังจากพ่อล้มป่วย แต่พอทำจริง ก็รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่สนุก
เกอิชา ชิกาโนะ ฟูจิมะ เคยเป็นหนึ่งในเกอิชาราวๆ 100 คนที่ทำงานอยู่ในคามาอิชิ เมืองที่นิปปอน สตีล บริษัทเหล็กกล้าใหญ่สุดของญี่ปุ่นยังคงมีเตาหลอมอยู่ที่นั่น
คามาอิชิเคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอันรุ่งเรืองเป็นเวลาหลายปีหลังสงคราม ก่อนค่อยๆ ตกต่ำลงในทศวรรษที่ 1980 เมื่อโรงงานเหล็กกล้าทั้งหลายเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการแข่งขันรุนแรงจากคู่แข่งต่างชาติ
เกอิชาอยู่ไม่ได้เช่นกัน และทยอยล้มหายตายจาก คุณยายอิโตะเป็นเกอิชาสุดท้ายคนเดียวที่เหลืออยู่
หญิงชราวัย 84 กล่าวว่า ตลอดชีวิตไม่เคยเสียใจ เจ้านายของเธอเคยสอนว่า ให้ขยันทำงาน แล้วจะได้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีใครเอาไปจากเธอได้
ลูกค้าประจำของเกอิชานาม ชิกาโนะ ฟูจิมะ คนนี้ เกือบทั้งหมดเด็กกว่าเธอมาก และจำนวนหนึ่งอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตหรือสูญหายในคามาอิชิ 1,250 คน จากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ที่คุณยายบอกว่าเป็นความทรงจำที่สยดสยองที่สุด มีซากรถยนต์และศพหนึ่งรายถูกซัดเข้าไปในบ้านของเธอ แต่เรื่องที่ยากทำใจที่สุดคือ การจากไปของแฟนๆ รุ่นลูกหลานเหล่านั้น
แม้รอบตัวเต็มไปด้วยซากความเสียหาย ชุดกิโมโนและอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหลายที่ยากหาอะไรมาทดแทน สูญหายไปกับคลื่นยักษ์ แต่คุณยายอิโตะ ยังรู้สึกว่าอยากจะแสดงต่อ อยากร้องและเต้นให้แก่คนในศูนย์อพยพชั่วคราวที่เธออยู่ดูด้วยซ้ำ
คุณยายอิโตะบอกด้วยว่า ตั้งใจจะทำงานต่อไปจนถึงอายุ 88 ปีตามที่เคยตั้งใจไว้ และหวังจะทำให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการแสดงของเธอ ทันทีที่เมืองแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่