ข่าว

ครบ1สหัสวรรษวัฏจักรสึนามิถล่มญี่ปุ่น

ครบ1สหัสวรรษวัฏจักรสึนามิถล่มญี่ปุ่น

19 มี.ค. 2554

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนดำเนินไปในลักษณะของวัฏจักร การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นเป็นนิรันดร์ การเกิด แก่ เจ็บ และตาย ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่ยังไม่ลุถึงนิพพาน เช่นเดียวกับวงจรการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่นับเป็นพิบัติภัยแห่งมวลมนุษยชา

 เช่นการเกิดคลื่นสึนามิถล่มเกาะญี่ปุ่น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มีหลักฐานยืนยันว่าเคยมีการเกิดคลื่นสึนามิถล่มเกาะญี่ปุ่นมาแล้วในอดีต ในช่วง 1,000 ปีที่แล้ว และในปีนี้ก็ครบรอบแห่งจุดสูงสุดของวัฏจักรแห่งการเกิดสึนามิอีกครั้ง

 ย้อนเหตุการณ์ไปถึงช่วง 12.40 น. วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม บรรยากาศการใช้ชีวิตในแดนซามูไรก็ยังดำเนินไปตามปกติ จนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าอาคารสูงจนแทบโค่นราบลงมากับพื้น สิ่งของต่างๆ หล่นเกลื่อนพื้นราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกวาดลงมาจากชั้นวาง ผู้คนต่างตื่นตระหนกในวินาทีแรกๆ ก่อนที่จะหลบซ่อนลงใต้โต๊ะทำงานหรือ วิ่งออกมาจากตัวอาคารไปยังที่โล่งตามที่มีการฝึกซ้อมกันไว้

 ชาวญี่ปุ่นต่างตื่นตระหนกต่อเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์จนอาจจะมีหลายคนลืมนึกไปถึงคลื่นยักษ์สึนามิที่กำลังก่อตัวในท้องทะเลชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเดินทางเข้ามายังชายฝั่งเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ และเมืองชายฝั่งอื่นๆ ทำลายอาคารบ้านเรือนของชาวบ้าน เรือประมง รถยนต์ ถูกซัดลอยไปกับกระแสน้ำราวกับเป็นวัตถุไร้น้ำหนัก เช่นเดียวกับชาวบ้านที่หนีกระแสน้ำจากคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราดไม่ทัน ต้องสังเวยชีวิตในทันที หรือไม่ก็ถูกซัดลอยไปกับกระแสน้ำอย่างไม่ทราบชะตากรรม

 แต่หากศาสตร์ด้านสถิติวิทยาของมนุษย์มีความแม่นยำอย่างที่สุด ก็อาจจะระบุได้ว่าเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และเตือนให้ประชาชนหลบเลี่ยงอันตรายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเช่นนี้ได้

 ดร.โรเจอร์ มัสสัน ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านแผ่นดินไหวชั้นนำและหัวหน้านักวิจัยการเตือนภัยแห่งองค์กรสำรวจภูมิศาสตร์อังกฤษ ยืนยันว่าเหตุการณ์คลื่นสึนามิซัดชายฝั่งเมืองเซนได เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.1412 ซึ่งมีการบันทึกไว้ว่าเป็นเหตุพิบัติภัย "โจกัง" ที่มีคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ซัดถล่มดินแดนแถบนี้ลึกเข้าฝั่งถึง 4 กิโลเมตร และมีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่าเหตุพิบัติภัยดินแดนแถบนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 1,000 ปี

 จากลักษณะทางกายภาพของคลื่นยักษ์ที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร หรือเท่าๆ กับตึก 4 ชั้น นั้นคล้ายกับสึนามิเมื่อปี 1412 เป็นอย่างมาก แม้ว่าพื้นที่ของเกาะญี่ปุ่นจะมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หลายต่อหลายครั้งเช่นที่เกิดขึ้นในปี 2476 และในทศวรรษ 2433 แต่ก็มีไม่กี่ครั้งที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ ที่มีพลังรุนแรงกว่าแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ประมาณ 10 เท่า และ 100 เท่าเมื่อเทียบกับแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์

 เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลก ยูเรเชีย แปซิฟิก และฟิลิปปินส์ และอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "วงแหวนอัคคี" หรือแนวของภูเขาไฟใต้ทะเลที่ยังมีชีวิต พร้อมที่จะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลพลังของการปะทุจะดันให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนไหวในทิศทางหนึ่งซึ่งอาจจะเบียดเข้ากับแผ่นเปลือกโลกอื่นๆ ซึ่งหากเกิดการดีดตัวของแผ่นเปลือกโลกที่ถูกเบียดสบกันใต้ทะเลก็จะเกิดคลื่นสึนามิจากแรงส่งใต้ทะเลขึ้นมาทุกครั้ง ดังที่เซอร์ไอแซก นิวตันได้อธิบายไว้ว่า แรง=ปฏิกิริยา นั่นคือเมื่อมีแรงกระทำกับวัตถุใดๆ ก็จะเกิดแรงต้านในระดับเดียวกันขึ้นเท่านั้น

 ดังนั้นเมื่อมวลของน้ำได้รับแรงส่งจากการดีดตัวของแผ่นเปลือกโลก แรงจากแผ่นเปลือกโลกก็จะส่งผ่านไปยังมวลน้ำก่อให้เกิดคลื่นแนวตั้งซัดไปยังทิศทางของแรงที่ได้รับนั่นเอง ผลลัพธ์ก็ดั่งที่ปรากฏในเมืองเซนได และจังหวัดท่องเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศไทยที่เคยถูกคลื่นสึนามิถล่มในช่วงคริสต์มาสปี 2547 นั่นเอง

 ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นแห่งมหาวิทยาลัยโตโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ได้ประเมินต้นเหตุของคลื่นสึนามิปี 1412 ว่าเกิดจากแผ่นดินไหวที่มีความแรง 8.3 ริกเตอร์ในบริเวณนอกชายฝั่งเมืองเซนได

 ทั้งยังมีหลักฐานที่ทำให้สอบย้อนกลับไปถึงการเกิดคลื่นสึนามิถล่มพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในช่วง 3,000 ปีที่ผ่านมา และพบว่าเกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ในระดับเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถึง 3 ครั้ง และหลักฐานยังยืนยันด้วยว่าขนาดของสึนามินั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่เป็นต้นกำเนิดคลื่นอย่างมีนัยสำคัญ

 ด้าน ศ.เฮอร์มานน์ ฟริทซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสึนามิแห่งมหาวิทยาลัยจอร์เจียเทค สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่าญี่ปุ่นมีการเตรียมพร้อมรับเหตุแผ่นดินไหวได้ดีที่สุดในโลก ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดแผ่นดินไหวในระดับ 7-7.5 ริกเตอร์ในทุกช่วงอายุคน แต่ไม่มีการคาดคิดกันว่าในช่วงอายุของเรานี้จะพบกับแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์

 นอกจากนั้นยังอธิบายด้วยว่าปัจจัยการเกิดสึนามิไม่ได้มีลักษณะแบบปัจจัยขนานไปกับความแรงของแผ่นดินไหว โดยจะมีปัจจัยของการดีดตัวของแผ่นเปลือกโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากการดีดตัวยิ่งสูง คลื่นสึนามิก็ยิ่งก่อตัวสูงขึ้นตามไปด้วย และนั่นก็เป็นเหตุที่อธิบายได้ว่าทำไมเมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ที่มีศูนย์กลางใต้ทะเล แต่กลับไม่มีคลื่นสึนามิซัดเข้าฝั่งแต่อย่างใด

 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะญี่ปุ่นนั้น เป็นกรณีที่ต้องจดจำไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ทำให้เปลือกโลกดีดตัวอย่างรุนแรง ทำให้มีสึนามิขนาด 9.0 ริกเตอร์ถล่มชายฝั่งญี่ปุ่น

 ไม่รู้ว่าผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ได้เผชิญพิบัติภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ที่มีวัฏจักรการกำเนิดทุกๆ 1 สหัสวรรษ แต่เชื่อว่าพวกเรายังโชคดี ที่มีชีวิตอยู่ต่อไป...มากกว่า