ข่าว

รู้จัก “มะม่วง” ราชาผลไม้ไทย

รู้จัก “มะม่วง” ราชาผลไม้ไทย

10 มี.ค. 2554

มะม่วง ผลไม้ไฮไลท์ในช่วงหน้าร้อนที่ถูกยกให้เป็นเมนูโปรดของหลายๆ คน เพราะไม่ว่าจะรับประทานดิบหรือสุกก็อร่อยถูกใจ อีกทั้งยังเป็นแหล่งวิตามินและเกลือแร่ชั้นดีสำหรับร่างกายอีกด้วย เพื่อต้อนรับฤดูกาลที่ผลผลิตมะม่วงกำลังหลั่งไหลออกสู่ตลาด ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์

  ชุติมา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท สยามรีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด เล่าถึงแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ว่า จุดเด่นของงานอยู่ที่การคัดสรรคุณภาพมะม่วงที่เน้นความสด สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานส่งออก ผ่านการตรวจสอบสารพิษตกค้างด้วยระบบ GAP (Good Agricultural Practice) คือ ตรวจสอบตั้งแต่พื้นที่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีลักษณะตรงตามความต้องการและมีความปลอดภัยต่อการบริโภค

 นอกจากความปลอดภัยและลักษณะผลที่สวยงามน่ารับประทานแล้ว รสชาติก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคประทับใจกับความหวาน หอม อร่อยกำลังพอดี เพราะผลผลิตที่นำมาจำหน่ายในงานเทศกาลมะม่วงครั้งนี้ ผ่านการเก็บเกี่ยวในระดับความแก่และสุกตามระยะเวลาที่เหมาะสม มีการวัดปริมาณน้ำตาลด้วยเครื่ององศา บริกซ์ (Refractometer) เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำตาลประมาณ 15-18 องศาบริกซ์ ทำให้มะม่วงมีรสชาติความหวานกำลังพอดี เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ เพราะไม่เพียงปริมาณน้ำตาลเหมาะสม มะม่วงยังมีวิตามินซี วิตามินอี และสารเบต้าแคโรทีนที่มีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้อีกด้วย

 อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจในงานครั้งนี้ คือการจัดนิทรรศการมะม่วงพันธุ์แปลกและหายาก 16 สายพันธุ์ อาทิ พันธุ์ขายตึก ซึ่งมีที่มาของชื่อจากรสชาติที่อร่อย จึงเปรียบเปรยว่าให้ขายตึกขายบ้านมารับประทานก็ยอมเลยทีเดียว พันธุ์อกร่องพิกุลทอง พันธุ์มันขุนศรี พันธุ์หนังกลางวัน พันธุ์ทวายเดือนเก้า พันธุ์ตลับนาค รูปทรงกลมคล้ายตลับโบราณ รสชาติหวานอมเปรี้ยว พันธุ์หัวช้าง มะม่วงสายพันธุ์โบราณ ผลขนาดใหญ่ รสชาติอมเปรี้ยว พันธุ์แฟบ ตั้งชื่อตามลักษณะรูปทรงที่แบน ยาว ออกผลผลิตเป็นพันธุ์สุดท้ายของฤดูกาล พันธุ์แก้วลืมรัง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือมีรสชาติหวานจัด เปรียบเหมือนนกแก้วกินยังหวานจนลืมรัง พันธุ์ยายกล่ำ มะม่วงพันธุ์โบราณ รูปทรงไม่ใหญ่ แบน เรียว พันธุ์ปลาตะเพียน ที่มาของชื่อมาจากรูปทรงแบน ตรงกลางป่อง คล้ายปลาตะเพียน เป็นต้น