
แบบเมรุพิธีพระราชทานเพลิงแม่ถ้วน
"ชวน"เตรียมพิมพ์หนังสือวิจัยบทบาทสตรีแม่ถ้วน ได้ข้อสรุปพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นเมรุลอยแบบ 5 ยอด 5 ชั้น พร้อมกับขบวนช้างแห่ศพจากบ้านพักบนถนนวิเศษกุลไปยังวัดควนวิเศษ
(7มี.ค.) นายเจริญ บัวเงิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์วัดคูหาใน อำเภอรัตตภูมิ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการหารือกับครอบครัวหลีกภัย และ พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้ข้อสรุปถึงพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ถ้วน หลีกภัย ในวันฌาปณกิจศพ คือ วันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้ โดยจะใช้เมรุลอย แบบ 5 ยอด 5 ชั้น ขนาดกว้าง 15 เมตร สูง 15 เมตร โดยยอดตรงกลาง 1 ยอด จะใช้เป็นที่ตั้งศพของคุณแม่ถ้วน
ส่วนอีก 4 ยอดบริวารที่เหลือจะอยู่ใน 4 มุม 4 ทิศ เพื่อให้พระสงฆ์ขึ้นไปนั่งกระทำพิธีทางศาสนา มุมละ 4 รูป อันถือเป็นการสวดส่งวิญญาณให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งแบบของเมรุดังกล่าวนี้ ทางกลุ่มได้ประยุกต์และผสมผสาน มาจากหนังสือทุ่งพระเมรุในงานพระราชพิธี ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ และถอดแบบมาจากการทำถวายรัชกาลที่ 5 ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งเป็นแบบที่มีการใช้มาอย่างยาวนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ แต่มีความแตกต่างตรงที่จะประยุกต์ให้มีเอกลักษณ์เป็นลายไทยปักษ์ใต้
นายเจริญ กล่าวอีกว่า รูปแบบเมรุลอย แบบ 5 ยอด 5 ชั้น ที่ทางกลุ่มได้นำเสนอไปยังครอบครัวหลีกภัย เป็นภาพถ่ายเมื่อครั้งจัดงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูวิจิตรธรรมวาที อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมพ้อ ซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงสะพานเปรม ติณสูลานนท์ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2553 และก่อนหน้านี้ เมรุลอยดังกล่าวซึ่งสร้างขึ้นมาและใช้ครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2553 ได้ถูกนำไปใช้ในงานพระราชทานเพลิงศพพระเถระชั้นผู้ใหญ่มาแล้ว 9 รูป และจะนำมาใช้ในงานคุณแม่ถ้วนเป็นศพที่ 10 หรือเป็นศพแรกสำหรับฆราวาสหรือบุคคลทั่วไป จึงนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องจากปกติทั่วไปเมรุลอยที่ทางกลุ่มสร้างขึ้นมานั้น จะเน้นนำไปใช้สำหรับงานพระราชทานเพลิงศพพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ส่วนฆราวาสจะมีบ้างก็เฉพาะบุคคลสำคัญที่สร้างอุปการะคุณให้แก่ชุมชน หรือสังคม โดยทางกลุ่มก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทีโอกาสรับใช้ ในงานพระราชทานเพลิงศพที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นคุณแม่ของอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย
นายเจริญ กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มออมทรัพย์วัดคูหาใน ได้รับการติดต่อจาก ผบก.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา ให้นำเสนอรูปแบบเมรุลอย เพื่อนำมาใช้ในงานศพของคุณแม่ถ้วน โดยคิดค่าเช่าเป็นเงิน 1.5 แสนบาท และค่าเดินทางอีก 1 หมื่นบาท ซึ่งนอกจากจะมีเมรุลอยแล้ว ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ในบริเวณมลฑลพิธีด้วย รวมไปถึงเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ แสงสว่าง และการผูกผ้าตามจุดต่างๆ ถือเป็นราคาที่ถูกกว่านำมาจากกรุงเทพฯ ถึง 1 แสนบาท เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าภาพภาคใต้ ซึ่งตรงแนวคิดของครอบครัวหลีกภัย ที่ต้องการใช้เมรุลอยในพื้นที่ มากกว่าต้องจัดหามาจากภาคอื่น โดยจะมาดำเนินการติดตั้งที่วัดควนวิเศษ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ในวันที่ 9-10 มีนาคม และเช้าวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์แบม พร้อมที่จะไปใช้ในงานพระราชเพลิงศพวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะมีการนำช้างจำนวนหนึ่ง มาแห่ขบวนศพของคุณแม่ถ้วน จากบ้านพักบนถนนวิเศษกุล ไปยังวัดควนวิเศษด้วย เพื่อแสดงถึงความเป็นเกียรติสูงสุดของผู้ล่วงลับ
"ชวน"เตรียมพิมพ์หนังสือวิจัยบทบาทสตรีแม่ถ้วน
นายชวน เปิดเผยว่า การจัดพิมพ์หนังสือเป็นที่ระลึกไว้แจกประชาชนในวันพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ถ้วน หลีกภัย ในวันเสาร์ที่ 12 มี.ค. ที่วัดควนวิเศษ อ.เมือง จ.ตรัง จากการหารือกับสามาชิกในครอบครัวจะตีพิมพ์หนังสือซึ่งเป็นเอกสารทางวิชาการของนักวิจัยท่านหนึ่ง ซึ่งได้เขียนบทความเรื่องบทบาทของสตรี และได้มีการหยิบยกเรื่องของแม่เป็นกรณีศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นหนังสือพ็อคเก๊ตบุ๊ค ไว้แจกเป็นที่ระลึก ประมาณ 10,000 เล่ม อกจากหนังสือวิจัยเล่มนั้นที่พูดถึงเรื่องแม่แล้ว ยังได้ยังตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งเพื่อมอบให้กับผู้มาร่วมงานด้วยอีก 1 ชิ้น ซึ่งเป็นภาพวาดงานเขียนส่วนตัวของตน ที่เรียกว่า ( Drawing ) ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลงานประมาณ 1,000 ชิ้น แต่ไม่ได้เขียนภาพแม่
โดยภาพที่เป็นปะวัติศาสตร์ อันทรงคุณค่าสำหรับตนที่สุดคือ การได้วาดภาพของกษัตริย์ฮวน คาร์ลอส และสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งเสปน ในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีแรกๆ และยังมีภาพของรัฐมนตรี นักการเมือง และ ส.ส.ซึ่งตนได้วาดในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย อาทิ เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นต้น ซึ่งในจำนวนภาพวาดทั้ง 1,000 ชิ้นนั้น จะคัดเลือกแค่ 100 ภาพที่มีความสวยงามโดเด่นที่สุด เพื่อนำไปตีพิมพ์เป็นหนังสือพ็อคเก็ตบู๊ค ประมาณ 10,000 เล่ม เช่นกัน
"ส่วนภาพล่าสุดที่ผมได้วาดเป็นภาพพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ที่ร่วมเดินทางมาสวดพระอภิธรรมศพแม่ แต่ไม่ได้รวบรวมนำไปตีพิมพ์พร้อมกับ 100 ภาพที่คัดเลือกไว้ เพราะภาพชุดแรกได้มีการส่งเข้าโรงพิมพ์ก่อนแล้ว ทำให้ภาพหลังล่าสุดจึงไม่ทันเข้าโรงพิมพ์ ส่วนสาเหตุที่ผมเลือกภาพวาดลายเส้น ตีพิมพ์แจกจ่ายในวันพระราชทานเพลิงศพมารดาร่วมกับผลงานวิจัยนั้น เนื่องจากเป็นผลงานส่วนตัว เพราะปกติตนเป็นคนชอบพกสมุดบันทึกเพื่อวาดรูปและเก็บบันทึกเรื่องราวต่างๆอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถจดจำเรื่องที่ผ่านมาได้โดยไม่หลงลืม " นายชวน กล่าว