เปิดใจ"บอล-น้องฟ้า"รับแยกกันก.ค.53 | คมชัดลึก

 กรณีรักร้าวระหว่าง "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสขวัญใจชาวไทย กับ "น้องฟ้า" นาตาลี เกลโบวา ศรีชาพันธุ์ อดีตนางงามจักรวาล ปี 2005 ชาวแคนาดา ที่ตัดสินใจแยกทางกัน หลังแต่งงานมาได้ 3 ปี ล่าสุดทั้งคู่ไปอัดเทปรายการ "ตี 10" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 โดยมี "ฮาร์ท" สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล ทำหน้าที่เป็นพิธีกร แทน นายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ ที่เดินทางไปหาลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ที่ประเทศออสเตรเลีย

 พิธีกรเปิดฉากถามว่า ข่าวการแยกทางกันเป็นมาอย่างไร ภราดรกล่าวว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2553 ได้ตกลงว่าจะแยกกันอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง เนื่องจากช่วงหลังต่างคนต่างมีธุรกิจเข้ามา ทำให้มีเวลาให้กันน้อยลง เลยลองใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงตอนนี้เป็นเวลา 8 เดือน ความจริงแล้วเรายังรักกันอยู่ ตอนแรกที่ใช้ชีวิตสามีภรรยา มีความสุขมาก ชีวิตของตนคือนักกีฬา ฝึกซ้อมและแข่งขัน แต่ตอนที่ตกลงแต่งงานกับน้องฟ้า ตอนนนั้นบาดเจ็บข้อมือ จึงมีเวลามาก จนกระทั่งตกลงแต่งงานกัน แต่หลังจากนั้นมีธุรกิจเข้ามา มีงานเยอะ น้องฟ้าก็มีงานเยอะ ทำให้มีเวลาให้กันน้อยลง และไม่มีเวลาให้กันร้อยเปอร์เซ็นต์ เหตุผลหลักคือการไม่มีเวลาให้กัน

 ด้านนาตาลี กล่าวว่า ทั้งคู่มีพื้นฐานจิตใจดีต่อกัน ไม่มีความโกรธแค้นต่อกัน แต่ว่าเรามีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน เลยลองใช้ชีวิตแบบแยกกันอยู่ดู อย่างหลายครั้งต้องเดินทางไปนานหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนอย่างไปแคนาดา ขณะที่ภราดรก็มีงานของตัวเอง ทำให้ชีวิตแต่งงานไม่ราบเรียบเท่าที่ควร เพราะไม่มีเวลาให้กัน ทำให้สุดท้ายต้องแยกทางกัน

 ต่อคำถามที่ว่าใช้เวลาเป็นสามีภรรยาจริงๆ กันกี่วันหรือกี่สัปดาห์ ภราดรกล่าวว่า ถ้าจะนับการใช้ชีวิตร่วมกันแบบธรรมเนียมตะวันตก ก็ต้องนับว่าก็ประมาณ 3 ปี แต่ด้วยตารางงานที่ไม่ตรงกัน ทำให้ทดลองแยกกันอยู่ ลงเดทกับคนอื่น แต่ไม่มีความโกรธกัน เพื่อว่าบางอย่างจะดีขึ้น แล้วกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ

 พิธีกรถามว่ารู้จักกันมาก่อนแต่งงานร่วมปี เพราะเป็นแอมบาสซาเดอร์ของเบียร์สิงห์ เพราะเจอกันตอนทำหน้าที่นั้น ซึ่งถือว่ารู้จักกันก่อนเป็นเวลาพอสมควร แล้วไม่รู้เลยหรือว่าไลฟ์สไตล์เข้ากันไม่ได้ นาตาลีกล่าวว่า ตอนนั้นทุกอย่างสดใส มีการวางแผนถึงการแต่งงาน รวมทั้งการมีลูกๆ ด้วยกัน แต่ด้วยความเป็นจริง หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันก็พบว่าไม่ใช่อย่างนั้น มีอะไรหลายอย่างไม่ตรงกัน ด้านภราดรกล่าวว่า ตอนคบกันแรกๆ เหมือนกับหลายๆ คู่ ที่ทุกอย่างดูดี แต่พออยู่กันไปมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ตอนนี้ตนกับน้องฟ้าโชคดีคือไม่ได้ทะเลาะกัน และยังมีธุรกิจทำร่วมกันอีกหลายอย่างในอนาคต และยังเป็นเพื่อนกัน

 ส่วนคำถามที่ว่ายังรักกันอยู่หรือเปล่า อดีตยอดนักเทนนิสของไทยกล่าวว่า ความรักยังมีอยู่ตอนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตกับใครสักคนหนึ่ง อยากมีลูกด้วยกัน ความรักของเรามีอยู่ แต่ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาทางอื่นต่อไป ในการทำอย่างอื่นร่วมกัน แต่ไม่ใช่สามีภรรยากัน แต่มีบางเรื่องที่เป็นรสนิยมไม่ตรงกันอย่างเช่นเรื่องบางคนชอบฟังเพลงแจ๊ส แต่บางคนชอบอย่างอื่น

 ถามว่าตอนแต่งงานก็เพื่อเป็นการทำธุรกิจ และตอนนี้เลิกกันเพื่อสร้างกระแสต่อยอดทางธุรกิจหรือไม่ ภราดร ตอบว่า จริงๆ แล้วทั้งตนและน้องฟ้าไม่เคยคิดถึงจุดนั้นเลย ตอนคบกันเราคิดคล้ายกันตลอด จนตกลงมาหมั้นและแต่งงานกัน แต่เมื่อแผนที่วางเอาไว้ไม่สำเร็จก็ต้องหาทางอื่นต่อไป ด้านนาตาลีกล่าวว่า ไม่ใช่เหมือนครั้งแรกเจอกัน เป็นความรักของหนุ่มสาว แต่พอเป็นสามีภรรยากลับไม่ใช่ จึงรู้ว่ามีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน เรายังหนุ่มสาว มีชีวิตข้างหน้าอีกมากมาย ทำให้ตัดสินแยกทางกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจอย่างใด

 จากนั้นพิธีกรถามที่ว่า ตอนเป็นสามีภรรยากัน ภราดรเคยทำหน้าที่สามีที่ดีอะไรบ้างนั้น นาตาลีกล่าวว่า ภราดรเป็นคนอ่อนโยน หลายคนมองว่าภราดรเป็นนักกีฬา มีความเข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วเป็นสุภาพบุรุษ อยู่เคียงกับตนทั้งดีและร้ายตลอด เป็นคนน่ารักกับทุกคน รวมทั้งที่บ้านยังเลี้ยงแมวอีก 3 ตัว ขณะที่ภราดรบอกกว่า ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เป็นคนเลี้ยงสัตว์ แต่ถ้ารักใครต้องรักในสิ่งเขาชอบด้วย

 ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยหรือไม่ ภราดรกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการทะเลาะ แต่เป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันมากกว่า ไม่มีการทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่สมควรทำกับผู้หญิงอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา มาสายมาช้าบ้าง ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเรื่องเวลาที่ไม่ค่อยมีให้กัน ตอนแต่งงานนาตาลีเป็นภรรยาที่ดีเราไม่ค่อยได้ออกไปกินอาหารนอกบ้านมากนัก ถ้านาตาลีมีเวลาจะทำอาหารรัสเซียให้กิน เรื่องรสชาติอาหารให้เต็มสิบ

 ส่วนเรื่องที่สื่อถ่ายรูปภราดรควงสาวไปที่ต่างๆ นั้น ภราดรตอบว่า เวลาไปไหนกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ธรรมดามีเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม แต่ตนเป็นเป้าสายตา แต่ไม่เคยมีปัญหา เพราะนาตาลีมีความไว้ใจ ทำให้ความสัมพันธ์ตอนนั้นแข็งแกร่งขึ้น ด้านนาตาลีตอบว่า ก่อนจะแต่งงานกันรู้ข่าวว่าภราดรมีข่าวเรื่องความเจ้าชู้ แต่ไม่เชื่อเลย เนื่องจากทุกครั้งที่มีข่าว ภราดรอยู่ข้างกายตลอด ที่เลิกกันไม่ใช่เพราะเรื่องเจ้าชู้แน่นอน

 ส่วนเรื่องจดทะเบียนหย่านั้น ภราดรตอบว่า ความจริงมีข้อตกลงของทั้งสองคนอยู่ คือ ทางพฤตินัยเราแยกกันอยู่ แต่ในทางกฎหมายอยู่ในขั้นตอนเวลาว่าจะสะดวกไปอำเภอเวลาไหน คาดว่าจะเป็น 1-2 สัปดาห์หน้า หรือไม่เกินเดือนมีนาคม จะจดทะเบียนหย่าอย่างเป็นทางการ และเรื่องสินสมสรนั้น เราจากกันด้วยดี คบฟ้ามา 4 ปี ก่อนแต่งรู้จักกันดี สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของใคร มีการตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีปัญหา ขณะที่นาตาลีกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เราต่างคนต่างเข้าใจกัน ทรัพย์สินที่หามาได้ก็แบ่งกันไป

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นพิธีกรให้ทั้งคู่กล่าวถึงความรู้สึกต่ออีกฝ่าย โดยภราดรกล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอกัน ซึ่งเป็นไปได้ยากที่คนเกิดคนละประเทศคนละครอบครัวจะได้มาเจอกัน ชาตินี้ทำบุญมาร่วมกันประมาณนี้ ถ้าเป็นคู่กันจริงก็คงได้อยู่กันนานกว่านี้ เมื่อกล่าวมาถึงช่วงนี้นักเทนนิสขวัญใจชาวไทยเริ่มมีน้ำตาซึม และเมื่อพิธีกรแปลให้อดีตนางงามจักรวาลฟัง นาตาลีก็มีอาการตาแดง ก่อนกล่าวว่า ไม่ต่างจากภราดร ดีใจที่ได้พบกัน แม้วันนี้จะไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แต่ยังให้กำลังใจกัน เป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปตามระยะ ช่วงแรกเหมือนความหลงใหลปนเสน่หา จนเปลี่ยนมาเป็นความรักแบบสามีภรรยา เรียนรู้ร่วมกันในหลายๆ เรื่อง ทุกวันนี้ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนมีความหวังดีต่อกันและกัน ถึงแม้จะไปด้วยกันไม่ได้ แต่เราก็จากกันด้วยดี

 ส่วนการแยกทางกันคราวนี้ได้ปรึกษาพ่อแม่บ้างหรือไม่ นาตาลีกล่าวว่า ปรึกษาพ่อแม่แล้ว แรกๆ พ่อแม่รู้สึกผิดหวัง เพราะรักภราดรเหมือนลูก ขณะที่ภราดรกล่าวว่า ปรึกษาพ่อแม่ตลอด ได้รับให้คำแนะนำว่าลองปรับตัวกันดู แต่สุดท้ายพ่อแม่บอกว่าอยู่ที่เราสองคนเป็นคนตัดสินใจ

 จากนั้นพิธีกรให้ทั้งคู่กล่าวทิ้งท้ายต่อกัน ภราดรกล่าวว่า ได้บอกกันไปแล้ว บอกนาตาลีไปแล้วว่า ดีใจ โชคดีที่ได้พบกัน ได้เป็นคู่กัน ตนเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตในชาตินี้ ถ้าเราเป็นคู่กันจริงต้องเจอกันอีก ส่วนนาตาลีกล่าวว่า แม้จะจากกัน แต่เป็นการจากแค่กาย เรายังมีหลายสิ่งที่ทำร่วมกันอยู่ ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สวมกอดกันให้ช่างภาพถ่ายรูป