ข่าว

ฝ่ายค้านขอซักฟอก5วันยันเอกสารเยอะ

ฝ่ายค้านขอซักฟอก5วันยันเอกสารเยอะ

27 ก.พ. 2554

"มิ่งขวัญ" นำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายและถอดถอน 10 รมต.ขอเวลาซักฟอก 5 วัน อ้างเอกสารเยอะและชัดเจนมาก

(27ก.พ.) เวลา14.10น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล  พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และประธานวิปฝ่ายค้าน นอ.อนุดิษฐ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นส.ฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะเลขานุการคณะทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 

 นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายฯ ขณะนี้ได้ทำงานสำเร็จลุล่วง โดยจะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อประธานวุฒิสภาในวันที่ 28 ก.พ.เวลา11.00 น. และการยื่นญัตติอภิปรายนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 มี.ค. โดยมี 10 คนที่จะถูกอภิปราย ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ

 " แบ่งเป็นนายกฯ1คน รองนายกฯ1คนรัฐมนตรีว่าการ 6คน รมต.ประจำสำนักนายกฯ 1คน และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 1คน  โดยยื่นถอดถอน ทั้งหมด 9คน เพราะมีหลักฐานการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกเว้น นายกษิต เท่านั้นที่ไม่ถูกยื่นถอดถอน"นายมิ่งขวัญ กล่าว 

 นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า   เนื้อหาสาระการอภิปรายแบ่งเป็น 3เรื่องใหญ่คือ 1.ประเด็นสลายการชุมนุม ตอน ฆาตกรรมประชาชน เนื้อหาสาระแบ่งออกเป็น5ประเด็นย่อย 2.ประเด็นการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ ทั้งเรื่องที่มีหลักฐานและมีใบเสร็จ แบ่งเป็น 15-17ประเด็นย่อย 3.การอภิปรายถึงความล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน ความล้มเหลวความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ 8ประเด็นย่อย

 นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า การเตรียมเนื้อหาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรคได้พิจารณาจาก 30ประเด็น แต่คณะทำงานตัดนำมาเฉพาะเรื่องที่มีหลักฐาน ใบเสร็จชัดเจน จึงเหลือเพียง 28เนื้อเรื่องย่อย โดยประเด็นที่หนึ่งมีผู้อภิปราย 7คน ประเด็นที่สองมีผู้อภิปราย 18คน และประเด็นที่สามมีผู้อภิปราย10คน โดยใช้ส.ส.อภิปรายถึง 30คน แม้ตัวเลขผู้อภิปรายจะเกิน เพราะบางบุคคลจะอภิปรายซ้ำในเรื่องอื่นด้วย

 เมื่อถามถึงระยะเวลาในการอภิปราย นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า มอบหมายให้ประธานวิปฝ่ายค้านไปตกลงกับประธานวิปรัฐบาล โดยพรรคต้องการอภิปราย 4วัน และลงมติในวันที่ 5  เมื่อถามว่ามีพรรคอื่นร่วมอภิปรายฯด้วยหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขอนำเรียนภายหลัง แต่ตอนนี้มีแต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค ยินดีจะร่วมในทีมอภิปรายฯ โดยมีการพูดคุยกันในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมาแล้ว  

 เมื่อถามอีกว่า การอภิปรายฯจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ นายมิ่งขวัญกล่าวว่า เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของสภาฯ ครั้งนี้มีหลักฐาน ข้อมูล และเอกสารที่อ้างอิงได้ ไม่ว่าจะตอบอย่างไร แต่เอกสารได้ระบุเช่นนั้น หลายประเด็น ชัดเจนมากๆ ดูแล้วแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้หรือไม่ คงแล้วแต่ประชาชนผู้ฟังเมื่ออภิปรายฯแล้วเป็นหน้าที่ประชาชนฟังแล้วจะเชื่อใคร ประเด็นครั้งนี้มีเรื่องราว เรียงร้อยอย่างชัดเจน ไม่วกไปวนมา ต้องเรียกว่า ‘จับให้มั่น คั้นให้ตาย โชว์เอกสาร’ โดยการอภิปรายและยื่นถอดถอน

 นายมิ่งขวัญกล่าวว่า   พรรคเพื่อไทย ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทำอย่างซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ตามหน้าที่ตัวแทนปวงชนชาวไทย  โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ จนมั่นใจว่าบุคคลที่เราจะอภิปราย และถอดถอนมีพฤติกรรมดังกล่าว เมื่อดูข้อมูลหลักฐานแล้ว ท่านคิดอย่างไร อยู่ที่ใจท่านเอง

 น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวเสริมว่า พรรคได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ประเด็นเรื่องการสังหารประชาชน เท่าที่พรรคได้ตรวจสอบมีหลักฐานชัดเจน จะได้นำมาอภิปรายฯในเรื่องการทำผิด ทั้งเรื่องทุจริตต่อหน้าที่ และการประพฤติมิชอบ ส่วนกรณีนายกรณ์ ถูกอภิปรายเรื่องใดนั้น คงระบุไม่ได้ เหมือนกับการสอบ ถ้าให้โจทย์แก่ผู้ทำข้อสอบก่อน อาจจะมีการทำอะไรเพื่อให้เปลี่ยนแปลง แต่บอกได้เบื้องต้นว่า กรณีนายกรณ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐ บริหารราชการล้มเหลว และใช้อาจรัฐทุจริตในกระทรวงการคลัง

 เมื่อถามว่าการสลายการชุมนุมทำไม ไม่มีการอภิปรายรมว.กลาโหม นอ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจาก ผอ.ศอฉ.ขณะนั้นเป็นนายสุเทพ นอกจากโดนเรื่องสลายการชุมนุมแล้วยังมีเรื่องทุจริตด้วย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรขอให้ติดตาม โดยหลักฐานที่พรรคเพื่อไทยมีเป็นเกรดเอถึงเอบวก และเมื่อแต่ละเรื่องที่อภิปรายแล้วเสร็จ จะมีการแถลงและแจกจ่ายเอกสารต่อสื่อมวลชนด้วย

 ต่อมานายวิทยา กล่าวว่า บุคคลที่ถูกกล่าวหาครั้งนี้ มีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นจำนวนวันเวลาที่จะใช้ต้องเยอะ หลักการอภิปรายฯครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งก่อน การขอไป5วัน สมัยรัฐบาลทักษิณ ก็เคยมีมาแล้ว รัฐบาลจะมาต่อรองไม่ได้ เพราะแต่และประเด็นมีเรื่องและประเด็นเยอะมาก