ข่าว

เขมรสร้างบันไดกระเช้าหวังยึดภูมะเขือ

เขมรสร้างบันไดกระเช้าหวังยึดภูมะเขือ

18 ก.พ. 2554

ชาวบ้านอุ่นใจ เอฟ 16 โฉบใกล้เขาพระวิหาร ผวจ.ศรีสะเกษ ดีเดย์ 21 ก.พ.ปูพรมสร้างหลุมหลบภัยให้ชาวบ้านใกล้เขาพระวิหารกว่า 500 จุด เพื่อให้ชาวบ้านหลบภัยสงคราม ขณะชาวบ้านเตรียมจัดงาน “เอิ้นขวัญ” ชาวบ้านภูมิซรอล ด้าน “เขมร” แอบสร้างบันได กระเช้า และ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18  ก.พ.  ที่บ้านภูมิซรอล  ต.เสาธงชัย  อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  ชาวบ้านต่างแตกตื่นออกมาดูบนท้องฟ้าหลังจากได้ยินเสียงเครื่องบินโจมตี  เอฟ  16  บินเข้ามาใกล้กับบริเวณเขาพระวิหาร  โดยบินมารอบเดียว แล้ววนกลับไปทางด้านทิศตะวันออก  เสียงเครื่องบิน  เอฟ  16  ดังกึกก้องทั่วบริเวณ  ทำให้ชาวบ้านทั้งตกใจ และพากันดีใจที่เห็นเครื่องบิน  เอฟ  16  มาโฉบเฉี่ยวที่บริเวณใกล้เขาพระวิหาร  เนื่องจากชาวบ้านคิดว่าเป็นการข่มขวัญทหารฝ่ายกัมพูชาจะได้ไม่กล้ายิงปืนใหญ่หรือจรวดเข้ามาในเขตแดนไทยอีก 

 ขณะเดียวกัน  ชาวบ้านภูมิซรอลจำนวนมาก  รวมทั้งหมู่บ้านอื่น ๆ  ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา  ด้าน  อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  หลังจากที่ในช่วงเวลากลางคืนได้พากันหลบหนีภัยสงครามที่กำลังหวาดผวาอย่างหนักเข้าไปอาศัยอยู่ในตัว  อ.กันทรลักษ์  รวมทั้งหมู่บ้านต่าง  ๆ  ที่อยู่ห่างไกลวิถีกระสุนปืนใหญ่  ได้พากันเดินทางกลับมาอยู่ที่หมู่บ้านของตนเองจนใกล้จะครบหมดแล้ว  เนื่องจากว่าช่วง  2 - 3  คืนที่ผ่านมาไม่มีเสียงปืนใหญ่หรือเสียงระเบิดดังขึ้นที่บริเวณรอบเขาพระวิหาร  ทำให้ชาวบ้านเริ่มหายจากอาการหวาดผวาภัยสงคราม   

 นายวีรยุทธ  ดวงแก้ว  กำนัน  ต.เสาธงชัย  อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  การที่มีเครื่องบิน  เอฟ  16  ของไทยบินมาที่บริเวณใกล้เขาพระวิหาร  ตนและชาวบ้านมีความอุ่นใจมาก  เช่นเดียวกับการที่มีทหารไทยตรึงกำลังเข้มรอบบริเวณเขาพระวิหาร  เนื่องจากพวกตนเชื่อว่ากองกำลังทหารไทยมีความเข้มแข็งกว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นอย่างมาก

 จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในห้วงระหว่างวันที่  4 - 16  ก.พ.54  ที่ผ่านมา  ทำให้ชาวบ้านขวัญผวาเป็นอย่างมาก  จึงได้นำเรื่องนี้หารือกับนายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผวจ.ศรีสะเกษ  และมีความคิดร่วมกันว่าจะจัดพิธี  “เอิ้นขวัญ”  หรือพิธีเรียกขวัญของชาวบ้านภูมิซรอล  เพื่อให้ขวัญกลับมาอยู่บ้านเรือน  โดยกำหนดจัดงานนี้ขึ้นในวันที่  23  ก.พ.54  เวลา  07.00  น.เป็นต้นไป  โดยกิจกรรมประกอบด้วย  การทำบุญตักบาตรหมู่บ้าน  การบายศรีสู่ขวัญ  ซึ่งจะได้มีการนิมนต์พระราชกิตติรังษี  เจ้าคณะ  จ.ศรีสะเกษ  รวมทั้งนิมนต์พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ของ  จ.ศรีสะเกษ  มาประกอบพิธีทางศาสนา  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านในเขต  ต.เสาธงชัย  ซึ่งอยู่ติดกับเขาพระวิหาร

 นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา  ด้านเขาพระวิหาร  เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  ซึ่งฝ่ายทหารได้ควบคุมดูแลสถานการณ์อย่างเต็มที่  ส่วนการปะทะกันด้านแนวหน้ารอบเขาพระวิหาร  โดยเฉพาอย่างยิ่งด้านแถวภูมะเขือก็อาจจะมีบ้างประปราย  แต่เป็นการปะทะกันด้วยอาวุธธรรมดาเท่านั้น และขณะนี้ได้รับงบประมาณมาสร้างหลุมหลบภัยเพิ่มตลอดแนวชายแดน  ด้าน อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  ทั้งสิ้น  451  จุด  และซ่อมแซมหลุมหลบภัยเดิมอีกจำนวน  297  จุด  โดยจะเริ่มทำการก่อสร้างพร้อมกันทั้งหมดในวันที่  21  ก.พ.54  เป็นต้นไป เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นใจให้กับชาวบ้านว่า  หากเกิดการปะทะกันขึ้นมาระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา  ก็จะสามารถเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยได้อย่างปลอดภัยและเพียงพอ

 แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ที่ติดตามความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า  ที่ผ่านมาหากฝ่ายกัมพูชาจะขึ้นมาบนภูมะเขือได้จะต้องขึ้นทางบันไดเหล็ก ที่มีความสูงชันจำนวนกว่า  936  ขั้น  ซึ่งต่อมาก็ได้ทำการก่อสร้างกระเช้าขึ้น 2 ขนาด คือขนาดเล็กบรรทุกได้เที่ยวละ  5 - 10 คน กระเช้าใหญ่บรรทุกได้เที่ยวละ 15 - 20 คน  ซึ่งกระเช้า 2 ตัวนี้ยังทำหน้าที่ขนเสบียงอาหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นมาสนับสนุนกำลังพลบน ภูมะเขือ

 นอกจากนี้ทหารช่างของกัมพูชากำลังดำเนินการระเบิดหน้าผาเพื่อปรับพื้นที่ตัดถนนจากหมู่บ้านโกมุย ต.กันต๊วด อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ขึ้นมาที่ภูมะเขือ โดยถนนเส้นนี้จะตัดผ่าน วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ มุ่งหน้าไปที่ ปราสาทพระวิหารด้วย ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70 %  

เขมรอ้างไทยเสริมกำลังทหารตรงข้ามจ.โพธิสัต

 แขมร์ไรเซชั่น อ้างรายงานจาก หนังสือพิมพ์รายวัน "กัมปูเจีย ทมัย " ระบุ นายกวย สะเรือน ผู้บัญชาการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 825 ซึ่งประจำการอยู่บริเวณ ต.ทมอดา (Thmor Da) จ.โพธิสัต ภาคตะวันตกกัมพูชา เปิดเผยว่า ไทยได้ทำการเสริมกำลังทหาร 3 จุด ในพื้นที่ชายแดนไทย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชา ประมาณ 200 เมตร นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้น ในพื้นที่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร พร้อมทั้งยังมีการเคลื่อนปืนใหญ่เข้าประชิดติดชายแดนอีกด้วย

 แต่อย่างไรก็ดี การเสริมกำลังทหารดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้การค้าขายชายแดน หรือความสัมพันธ์ทางการทหารของทั้งสองประเทศเปลี่ยนแปลงไป