ข่าว

 มาร์คชี้คนไทย-เขมรไม่มีปัญหากัน

มาร์คชี้คนไทย-เขมรไม่มีปัญหากัน

18 ก.พ. 2554

มาร์คชี้คนไทยกับคนเขมรไม่มีปัญหาอะไรกัน เผยไตรรงค์-อลงกรณ์รายงานผลเปิดงานสินค้าที่กัมพูชา ชี้สถานการณ์เครียดกระทบวีระ-ราตรี “สุเทพ” ปัดแสดงความเห็นกัมพูชายื่นศาลโลก

(18ก.พ.) นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกฯเปิดเผยว่านายไตรรงค์  สุวรรณคีรี รองนายกฯและนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พานิชย์ ได้รายงานผลการเปิดงานสินค้าที่กัมพูชาเมื่อวานนี้แล้วและพบว่าคนไทย-เขมรไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

ชี้สถานการณ์เครียดกระทบวีระ-ราตรี

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการขออภัยโทษของนายวีระ สมความคิดและนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ว่า ตนเข้าใจว่ายังไม่ได้ยื่น ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชาระบุว่าจะไม่ดำเนินการให้นั้นก็ต้องพยายามดำเนินการไม่ให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งต้องดูช่องทางว่ามีอะไรบ้าง ทั้งนี้นี่คือจุดที่ได้คุยกับทนายความและครอบครัวว่าจะตัดสินใจอะไรต้องประเมินให้ดี อย่างไรก็ตามในวันที่พบกันไม่ได้พูดเรื่องการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด แต่เชื่อบรรยากาศที่ตึงเครียดมีผลด้วยฉะนั้นการเลือกทำอะไรต้องระวัง

 ส่วนจะดำเนินการขออภัยโทษหลังวันที่22 ก.พ.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องที่พูดล่วงหน้า แต่ขอให้ประเมินและประสานใกล้ชิดหากทนายและครอบครัวต้องการอะไรก็จะช่วยเต็มที่ ส่วนความสัมพันธ์กับกัมพูชาในปัจจุบันจะช่วยนายวีระได้ไหม นายกฯกล่าวว่าต้องทำให้ได้

 ส่วนที่เครือข่ายคนไทยฯปลดนายณฐพร โตประยูร ออกจากการเป็นที่ปรึกษากฏหมายนั้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องแยกแยะเพราะการช่วย 2 คนเรามีแนวทางที่ตรงกัน แต่การช่วยเหลือได้ผลหรือไม่ต้องอยู่บนความเป็นจริงเป็นเอกภาพ ซึ่งผลร้ายไม่ได้เกิดกับผู้ชุมนุมแต่ตกกับคนอื่นจึงขอให้ร่วมมือ เพราะเจ้าตัวและครอบครัวเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินใจเลือกชีวิตเอง

 สำหรับประเด็นที่กัมพูชาจะนำเรื่องขึ้นศาลโลกนั้น นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะนำเรื่องขึ้นศาลโลก แต่ทั้งนี้คำวินิจฉัยศาลโลกได้ระบุขอบเขตอำนาจหน้าที่ตัวเองไว้แล้ว

สุเทพปัดให้ความเห็นเขมรยื่นศาลโลก

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก เพื่อให้พิจารณาคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ให้มีความชัดเจนเรื่องเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า ยังต้องติดตามต่อไปว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประกาศมานั้นทำได้หรือไม่ จึงไม่ขอวิจารณ์หรือแสดงท่าทีหักล้าง เพราะไม่ต้องการให้รู้สึกว่าเป็นการยั่วยุท้าท้าย

“ในชั้นนี้เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ให้ทั้งสองประเทศเจรจาโดยให้อาเซียนเข้ามาช่วยสนับสนุน ควรเดินในแนวทางนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้นำกัมพูชา พิจารณาเพราะเมื่อเป็นผู้นำเรื่องนี้ไปสู่ UNSC เอง เมื่อมีมติอย่างไรปฏิบัติตามมติจะดีกว่า” นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กัมพูชาจะยื่นเรื่องต่อศาลโลก นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้จะทำให้เกิดเป็นประเด็นถกเถียงร้าวฉานมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ที่ครอบครัวของทั้งสองคน รัฐบาลพยายามที่จะเข้าไปช่วยเท่าที่เราดำเนินการได้ ซึ่งในช่วงต้นนายวีระเลือกที่จะต่อสู้คดี จึงต้องกลับมาย้อนดูว่าถึงตอนนี้แล้ว การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ทำได้อย่างไร ถ้าครอบครัวนายวีระยื่นไว้แล้วต้องดูว่าฝ่ายกัมพูชาจะว่าอย่างไร การที่สมเด็จฮุนเซ็น บอกให้จำคุกก่อนเป็นไปตามขบวนการ

เมื่อถามว่า มีการเปรียบเทียบกับกรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ว่าไม่ได้รับโทษตามขั้นตอนแต่กลับได้รับการพระราชทานอภัยโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องหาทางเพราะต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย มีความตึงเครียดเรื่องอื่นอยู่ด้วย จังหวะไม่ค่อยดี ต้องพยายามพูดคุยคุยกับทางกัมพูชาแยกแยะเรื่องราวออกจากกัน รัฐบาลไม่ละความพยายามในการช่วยเหลือทั้งช่องทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยใช้ความสัมพันธ์เท่าที่มีอยู่ให้ดีที่สุด

"ณฐพร"ปัดกต.กดดัน"แม่วีระ"ไม่ให้อุทธรณ์ 

นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาด้านกฎหมายกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ มารดานายวีระ สมความคิด ระบุว่า ครอบครัวจะไม่ขอให้ทนายความของกัมพูชายื่นอุทธรณ์ ตนยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการกดดันจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจของมารดานายวีระ และครอบครัว ที่มองว่าหากให้ทนายกัมพูชายื่นอุทธรณ์นั้น จะทำให้ขั้นตอนการดำเนินการล่าช้า จึงตัดสินใจไม่ขออุทธรณ์ และจะทำหนังสือยื่นต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยเชื่อว่าหลังจากนี้ ครอบครัวของนายวีระ และนางราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จะมีแถลงการณ์ความชัดเจนกรณีดังกล่าว

        อย่างไรก็ตาม ความหวังที่จะนำตัวนายวีระ และนางราตรี กลับประเทศไทยอย่างปลอดภัยในขณะนี้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ภายใต้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะมีแนวทางการเจรจาอย่างไรโดยไม่นำไปโยงกับประเด็นการเมือง หากจะให้ทั้ง 2 คนรับโทษ 2 ใน 3 ก่อนจึงจะได้รับการปล่อยตัว ตามที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และที่ผ่านมามีกรณีตัวอย่างจาก นานศิวรักษ์ โชติพงษ์ แล้ว โดยในหลักการทางกฎหมาย แนวทางปฏิบัติต้องเท่าเทียมกัน และมองว่าเงื่อนไขดังกล่าวเป็นเกมต่อรองทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติได้หารือและมีมติร่วมกันที่จะปลดนายณฐพร  ออกจาก ทีมกฏหมายช่วยเหลือ  7 คนไทยที่ถูกกจับกุมและถูกขังที่กัมพูชา โดยจะเหลือนายการุณ ใสงาม  และมล.วัลวิภา  จรูญโรจน์  ทั้งนี้มติดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากไม่พอใจในท่าทีของนายณฐพร  ที่มีการแถลงข่าวว่าครอบครัวของนายวีระ สมความคิด จะขอพระราชทานอภัยโทษ