
ทบ.เผยเขมรมุ่งเจาะแนวรั้วภูมะเขือ
ทบ. เผย กัมพูชา พยายามเจาะแนวรั้วที่ตั้งทหารไทย จุด ภูมะเขือ ตลอดทั้งคืนแต่ไม่สำเร็จ ถูกไทยตอบโต้จนถอยกลับไป กัมพูชาปฏิเสธเรื่องการปะทะกับไทย ผู้ค้ากัมพูชาเริ่มมั่นใจ หลัง ฮุน เซนประกาศจำกัดวงปะทะไม่ถึงด่านอรัญประเทศ แห่สั่งสินค้าเข้ามาขายในตลาดโ
(16ก.พ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยถึงการปะทะของทหารไทยกับทหารกัมพูชาตลอดคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า การปะทะเกิดขึ้นทั้งหมดที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเริ่มขึ้นการปะทะตั้งแต่เวลา 20.00 น. โดยทหารกัมพูชาได้ขว้างระเบิดมือเข้ามาใส่ที่ตั้งของทหารไทย ต่อมาเวลา 21.00 น.ทหารกัมพูชาได้พยายามเจาะแนวรั้วของทหารไทย เราจึงใช้ระเบิดขว้างตอบโต้จนทำให้ทหารกัมพูชาที่พยายามเจาะรั้วเข้ามาในเขตเราถอยกลับไปและยุติการปฏิบัติการดังกล่าว ต่อมาเวลา 22.00 น. ทหารกัมพูชาได้ปฏิบัติการแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง พร้อมขว้างระเบิดมือมายังที่ตั้งของทหารไทย ทางเราจึงได้ขว้างระเบิดมือเพื่อเป็นการตอบโต้ตามความเหมาะสม
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเวลา 02.00 น. ทหารกัมพูชาได้พยายามแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ของทหารไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกล ปืนครก (เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง) และยิงจรวดอาร์พีจี ระดมยิงเข้ามาบริเวณที่ตั้งทหารไทยตรงภูมะเขือ ทำให้เราต้องใช้มาตรการตอบโต้ตามความเหมาะสมเพื่อเป็นการป้องกันตัว และผลักดันให้ทหารกัมพูชาล่าถอยออกไป นอกจากนี้ช่วงเวลา 03.50 – 04.00 น. ทหารกัมพูชาได้พยายามโจมตีที่ตั้งทหารไทยบริเวณภูมะเขืออีกครั้งก่อนถอยกลับ
“ทหารกัมพูชาพยายามเจาะแนวป้องกันของทหารไทยบริเวณภูมะเขือตลอดทั้งคืนแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งการปะทะกันตลอดทั้งคืนใช้เวลาแต่ละครั้งไม่นาน อย่างไรก็ตาม การปะทะของทหารไทย -กัมพูชาได้ยุติเวลา 05.25 น. เช้ามืด (16 ก.พ.) ทั้งนี้ การปะทะตลอดคืนทหารไทยไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะทหารทุกคนได้ปฏิบัติตามที่ผู้บังคับบัญชาที่ได้เน้นย้ำในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การป้องกันตำแหน่งที่ตั้ง และมาตรการตอบโต้ของทหารไทยอยู่ในระดับที่เหมาะสม ใช้แค่อาวุธเบาเท่านั้นเพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลาย” โฆษก ทบ.ระบุ
กัมพูชาปฏิเสธเรื่องการปะทะกับไทย
หนังสือพิมพ์โกลบัล ไทม์ส และสำนักข่าวซินหัว ของจีน รายงานว่า กัมพูชาได้ปฏิเสธรายงานที่ว่า ทหารกัมพูชากับทหารไทย มีการปะทะกันเล็กน้อยบริเวณชายแดน โดยพลจัตวา ตุล โสวันของกัมพูชา ระบุว่า ไม่มีการปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สื่อในไทย ได้รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในกองทัพเมื่อวันอังคารว่า มีทหารไทย5 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทหารกัมพูชาโจมตีที่มั่น
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ได้ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงถาวร และแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี นายหม่า จ้าวซื่อ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า จีนสนับสนุนความพยายามใช้สันติวิธี ภายใต้การนำของสมาคมอาเซียน และหวังว่าจะทำงานร่วมกับประชาคมนานาชาติ เพื่อแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดน
เหตุปะทะกันบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาข้อพิพาทกันเรื่องดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร โบราณสถานในศตวรรษที่ 11 โดยทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งแม้ตัวปราสาทจะอยู่ในฝั่งกัมพูชา แต่ทางขึ้นอยู่ในฝั่งไทย
นายจวง กั๊วะถู ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาของมหาวิทยาลัยเซียะเหมินให้ความเห็นต่อโกลบัล ไทม์ส ว่า สาเหตุหลักที่ไทยเสนอให้มีการเจรจาระดับทวิภาคี ก็เพราะความวิตกว่า สหประชาชาติอาจจะซ้ำรอยเดิม ด้วยการรับรองคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายกัมพูชา แต่ถ้าเป็นการเจรจาระดับทวิภาคี ไทยก็สามารถใช้ความเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า กดดันกัมพูชาได้ แต่เขาไม่คิดว่า การปะทะกันอย่างประปรายจะขยายไปสู่การปะทะกันด้วยอาวุธ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่พร้อมที่จะรับมือกับผลที่จะตามมา
แม่ทัพภาคที่2จัดทหารดูแลประชาชน
พล.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา ว่า ขณะนี้หมู่บ้านในจ.ศรีสะเกษ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งกำลังทหาร ไปประจำการจำนวนหนึ่ง โดยมีการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยได้ฝึกซ้อมประชาชนในพื้นที่ ให้มีความรู้เกี่ยวกับการหลบภัยในหลุมหลบภัยที่จัดเตรียมไว้ พร้อมยอมรับว่าประชาชนมีอาการตื่นตระหนก หวาดกลัว เนื่องจากไม่ได้ประสบเหตุการณ์เช่นนี้มานานกว่า 30 ปี จนถึงขณะนี้สถานการณ์ความตึงเครียดต่างๆ ก็เริ่มคลี่คลายตามลำดับ แต่ยังมีประชาชนบางส่วน ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทางทหารก็ต้องดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ส่วนสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ซึ่งทางทหารก็พยายามอย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชากองกำลัง ทำหน้าที่เข้าไปเจรจา แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า เราได้มีการพูดคุยเจรจาตกลงกับฝ่ายกัมพูชาหลายครั้งแล้ว แต่เหตุใดยังมีการปะทะกันอยู่ แต่เป็นส่วนน้อยที่เกิดขึ้น หรือทางกัมพูชาต้องการให้ประชาชนไทย เกิดความตื่นตระหนกตกใจ อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ทราบเหตุผลของฝ่ายกัมพูชา แต่ขอยืนยันว่าทหารไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉากที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้แน่นอน
หากการเจรจายุติปัญหา ไม่สำเร็จปล่อยให้เวลายืดเยื้อมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ในการรับมือทุกสถานการณ์ โดยเน้นวิธี ป้องกัน แจ้งเตือน และโต้ตอบตามความเหมาะสม แต่เราก็หวังว่าการเจรจาจะยุติลงโดยเร็ว ส่วนทหารไทยมีความพร้อมทุกด้านโดยเฉพาะขวัญ และกำลังใจจากประชาชนชาวไทย
ส่วนปัญหาการปักปันเขตแดนนั้นก็คงต้องยืดเยื้อไปอีกนาน กว่าจะหาข้อยุติได้ เท่าที่ทราบข้อมูลทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ต้องการให้สถานการณ์มันบานปลายไปมากกว่านี้ โดยตนได้พยายามยื่นข้อเสนอในการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังของทั้งสองฝ่ายที่มีปัญหากันก่อนหน้านี้ ออกจากพื้นที่เพื่อลดความเครียดแค้นบาดหมางกัน โดยการเปลี่ยนกองกำลังใหม่ เชื่อว่าน่าจะสามารถลดความร้อนระอุได้ในระดับหนึ่ง โดยเริ่มนับหนึ่งกันใหม่
ส่วนที่หลายฝ่ายออกวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ธวัชชัย กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเคลือบแคลงใจ เพราะตนได้เข้าโรงเรียนเตรียมทหารในปี พศ.2512 พล.ต. ปิยะ สุวรรณพิมพ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ให้โอวาท ว่า เราต้องทำตัวให้คนอื่นอิจฉา ไม่ควรทำตัวให้ใครสงสาร เพราะไม่มีใครจะไปอิจฉาขอทาน ซึ่งตนได้ฟังข้อความนี้แล้วใช้สติไตร่ตรอง ใครจะมีต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ตนก็ไม่ได้รู้สึกท้อแท้แต่อย่างใด เนื่องตนก็ไม่ได้ปฏิบัติอย่างที่คนอื่นเขาว่าอยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ตนก็ไม่อยากที่จะเสียเวลาที่จะฟ้องร้องกัน
ผู้ค้าชายแดนกัมพูชาเบาใจหลังฮุนเซนยันไม่ขยายเขตปะทะ
ที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา เปิดด่านพรมแดนเวลา 07.00 น. ได้มีผู้ค้าและกรรมกรชาวกัมพูชากว่า 10,000 คน เดินทางเข้ามาเปิดร้านค้าขายและทำงานเป็นกรรมกรรับจ้างในตลาดโรงเกลือ นอกจากนี้แล้วยังได้มีการสั่งสินค้านำเข้ามาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาขายในตลาดโรงเกลือ จำนวนมาก ทำให้ทั้งด่านพรมแดนอรัญประเทศ และตลาดโรงเกลือ กลับมาคึกคักเหมือนเดิม
พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวปราศรัยประชาชน ว่า ชายแดน ปอยเปต อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย และ ชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะไม่มีการสู้รบจะมีแต่การค้าขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อประชาชนทั้งสองประเทศ และจะจำกัดวงปะทะของทหารไทยและกัมพูชา ให้อยู่เพียงพื้นที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร เท่านั้น ทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดน ต่างสบายใจและมั่นใจว่าบริเวณชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และกรุงปอยเปต จะไม่มีการสู้รบกัน ส่งผลให้วันนี้มีชาวกัมพูชามากกว่า
10,000 คน เดินทางเข้ามาทำการค้าและรับจ้างในตลาดโรงเกลือเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ กลับมาคึกคักเหมือนเดิม เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทย ที่เดินทางออกไปฝั่งกัมพูชา เริ่มทยอยเดินทางออกไปเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้
ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา กล่าวว่า รับแจ้งมาว่า กำลังทหาร และหน่วยองค์รักษ์ผู้นำกัมพูชา ก็ได้เดินทางกลับออกไปจากพื้นที่ชายแดนปอยเปต หมดแล้ว แม้แต่รถถัง 3 คันที่ส่งมาดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่บริเวณบ้านเขาลูกช้าง อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ก็ได้ถอนกลับออกไปหมดแล้ว
120ส.ส.ปชป.-พรรคร่วมยื่นหนังสือค้านขึ้นทะเบียนพระวิหาร
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำรายชื่อส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลประมาณ 120 รายชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อขอให้ประธานสภานำความเห็นของส.ส.เสนอต่อผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งจะมีการประชุมกันในเดือนมิถุนายน โดยพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายอรรถพร กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่บริเวณโดยรอบพระวิหารยังเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาใช้พระวิหารเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารด้วย ซึ่งขัดต่อหลักการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดังนั้นหากยูเนสโกจะพิจารณารายงานของประเทศกัมพูชาเพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชาเข้าสู่ภาวะวิกฤตและอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าและภาวะสงคราม ทั้งนี้การจดเบียนพระวิหารเป็นมรดกโลกจะกระทำได้ต่อเมื่อประเทศไทยและกัมพูชาบรรลุข้อยุติเรื่องเขตแดนที่ทั้งสองชาติยอมรับบนพื้นฐานของสนธิสัญญาที่เป็นสากล และแนวเส้นสันปันน้ำ มากกว่าการยึดหลักฐานซึ่งจัดทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยปราศจากความเห็นชอบจากประเทศซึ่งเป็นคู่ขัดแย้ง
ด้านพ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งการดำเนินการจากนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยจะต้องใช้วิธีการเจรจา เพราะหากรบกันก็มีแต่จะเสียหายทุกฝ่าย ผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศจะต้องคุยกัน รมว.กลาโหมและรมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศก็ต้องพูดคุยควบคู่ไปกับการเจรจาของผู้นำทั้งสองประเทศด้วย