
เลขาสมช.ชี้มติUNSCยึดเจรจาทวิภาคี
เลขาสมช. ชี้มติ UNSC เป็นตามคาด ชี้ไทย - กัมพูชามีผลประโยชน์ร่วมกว่า 90% ต้องรักษาไว้ ยึดเจรจาทวิภาคี เตือนม็อบอย่ายั่วยุ
(15ก.พ.) เวลา 9.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงผลการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่ระบุให้ไทย - กัมพูชายุติการสู้รบอย่างถาวร และให้ใช้แนวทางการเจรจาทวิภาคีในการยุติปัญหาว่า เป็นไปตามคาดไว้ มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดังกล่าวนี้ ออกมาในลักษณะที่ 1.ขอให้หยุดยิงอย่างถาวร 2.ให้ 2 ประเทศใช้ความอดทนอดกลั้น 3.ปัญหาที่มีอยู่ก็ไปพูดคุยกันในรูปแบบทวิภาคี โดยมีอาเซียนให้ความช่วยเหลือจากด้านข้าง ทั้งนี้การทำสงครามของทั้ง 2 ประเทศ ไม่มีประโยชน์เพราะยังมีเรื่องอื่นในทางสร้างสรรค์อีกกว่า 90% ที่ต้องทำร่วมกัน ทั้งการค้า การลงทุน สาธารณสุข การศึกษา เทคโนโลยี พลังงาน ที่ยังคงต้องเดินต่อไป ดังนั้นอย่าเอาเรื่องแค่ 4-5% มาเป็นอุสรรคในเรื่องความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ
นายถวิล กล่าวว่า หลังมติดังกล่าวออกมาคงต้องรอดูท่าทีของกัมพูชาว่าจะเป็นอย่างไร หากจะเป็นเช่นขณะนี้คงไม่มีประโยชน์ ดังนั้นประเทศสมาชิกในอาเซียนต้องช่วยกันทำความเข้าใจให้มีการพูดคุยกันได้ ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารนั้นชัดเจนแล้วว่า จะเป็นชนวนให้ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน เพราะต่างฝ่ายต่างอ้างในการเป็นเจ้าของพื้นที่ 4.6 ตามรางกิโลเมตร จะไปบังคับหรือเร่งรีบไม่ได้เพราะพื้นที่ตรงนั้นไม่ชัดเจน หากเร่งรีบจะกลายเป็นการผลักดันให้เผชิญหน้ากัน อย่างไรก็ตามขณะนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสแล้วเพื่อชี้แจงต่อยูเนสโกแล้ว เชื่อว่ายูเนสโกจะรับฟังข้อชี้แจงจากประเทศไทยมากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการขณะนี้ คือ การทำให้ไทยมีความพร้อมมากที่สุดที่จะร่วมเจรจาทวิภาคีกับเขมรในกลไกที่มีอยู่ ทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (จีบีซี)
“ทางที่ดีคืออย่ายั่วยุ ให้ใช้เหตุใช้ผล เรื่องของการยั่วยุว่าไปยึดกลับมา ทำสงครามสั่งสอน ผมว่าเรื่องนี้คือยั่วยุ ยั่วยุกดดันทั้งไทย - กัมพูชา และจะเข้าทางกัมพูชาด้วยซ้ำ” เลขาสมช. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้มติยูเอ็นเอสซีจะระบุมาเช่นนี้ หากกัมพูชายังยืนยันจะฟ้องศาลโลก จะเป็นอย่างไร นายถวิล กล่าวว่า ไม่เป็นไร แม้ยูเอ็นเอสซีจะมีภาระเยอะ แต่ยังมีอาเซียน คอยประสานงาน และมีกรอบการพูดคุยเยอะ ทั้ง เจบีซี และจีบีซีที่ยังต้องเดินต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ไทย-กัมพูชา มีแนวทางที่แตกต่างกันเช่นนี้ ประชาคมโลกจะมองว่าอาเซียนไม่เป็นเอกภาพหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า ไม่ อาเซียนมีผลประโยชน์ร่วมกันเยอะแยะ อีก 8-9 ชาติ ก็เห็นร่วมกันว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา