
"เจิมศักดิ์"โต้"สนธิ"เหตุไม่วิจารณ์รบ.สงสารเมียต้องรับกรรม
"เจิมศักดิ์"โต้"สนธิ"แจงเหตุไม่วิจารณ์รบ.เขตแดนไทย-กัมพูชา สงสารเมียต้องรับกรรม หวั่นถูกกล่าวหาฉกข้อมูลโจมตีรัฐ ออกตัวแทนเมีย ยัน เกษียณ ก.ย.นี้ ไม่คิดนั่งปลัดกต. ระบุไม่เห็นด้วยข้อเรียกร้อง วิธีการแก้ปัญหาของ พธม.
(14ก.พ.) ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล และแนวร่วมพันธมิตรบางคน ระบุว่าได้ให้เสรีภาพและอิสระอิสระกับทีมงานของ ดร.เจิมศักดิ์ในการทำรายการที่ ASTV ว่า ตนถูกชวนให้มาทำรายการที่ ASTV ประมาณ 5 ปีกว่าที่ผ่านมา ยืนยันว่าได้รับเสรีภาพ และมีความเป็นอิสระจริง นายสนธิและผู้บริหาร ASTV ไม่เคยเข้ามาก้าวก่าย แทรกแซง สั่งการในเนื้อหารายการใดๆ ส่วนรายได้จากการทำรายการของบริษัทว็อชด็อก จำกัด นั้น จะเป็นการแบ่งเวลาโฆษณาในรายการบางส่วน เพื่อให้เราไปหาสปอนเซอร์เอาเอง ขณะเดียวกัน ทางสถานี ASTV ก็จะหาสปอนเซอร์โฆษณาเป็นรายได้ของทางฝ่ายตนเช่นกัน และเมื่อใครได้รายได้เท่าไหร่ ก็นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายของตน ไม่ต้องเกี่ยวข้องกัน ซึ่งฝ่ายเราก็พอจะมีรายได้จากโฆษณาบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนมากอาศัยประชาสัมพันธ์หนังสือของบริษัทว็อชด็อก ทั้งนี้ ASTV มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการออกอากาศทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ ห้องส่ง ก็เหมือนสถานีโทรทัศน์ทั่วไป และมีรายได้จากการโฆษณาในส่วนที่ทางสถานีจะหาสปอนเซอร์เข้ามาได้ทั้งหมด
"คุณสนธิ อาจจะจำและพูด เฉพาะส่วนที่แกอยากจะจำและอยากจะพูดก็ได้คนเราก็เป็นอย่างนี้ อย่าอะไรมากเลย แต่คนดูคนฟังเราก็ควรต้องระมัดระวัง ถือเป็นภาระหน้าที่ของคนฟังหรือคนรับข้อมูลก็แล้วกัน จะต้องพยายามแสวงหาข้อมูลที่ครบถ้วนเอาเอง" ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว
ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พันธมิตรกล่าวหาว่าตนไม่ยอมวิพากษ์วิจารณ์ โจมตีรัฐบาลกรณีเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ตนยอมรับเพราะภรรยาตนเป็นรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ว่าตนจะพูดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในเรื่องนี้ ตนและภรรยาก็ย่อมจะถูกโจมตี ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น ดูง่ายๆ ถ้าตนโจมตีรัฐบาลเหมือนพันธมิตร ภรรยาตนคงถูกกล่าวหาว่านำข้อมูลมาให้เล่นงานรัฐบาล เหมือนเมื่อปี 2525 ในสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตนร่วมกับ ดร.อัมมาร สยามวาลา และดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลขณะนั้นที่ไปทำสัญญาอาสาสมัครจำกัดตนเองในการส่งมันสำปะหลังไปประชาคมยุโรป
ขณะนั้น ภรรยาตนอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ก็ถูกเล่นงานว่าเอาข้อมูลมาให้ และเมื่อครั้งที่ตนวิพากษ์วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อทำให้คน “รู้ทันทักษิณ” ภรรยาตนก็ถูกโยกย้ายไปเป็นเอกอัคราชทูตที่ประเทศเหนือสุดของยุโรป ติดขั้วโลกเหนือ โดยที่เขาไม่สมัครใจ และถ้าครั้งนี้ ตนผมแสดงความเห็นด้วยกับรัฐบาล ก็คงถูกกล่าวหาว่าจงใจโต้แย้งสวนทางกับพันธมิตรที่เคยร่วมแนวทางกันมา และคงถูกกล่าวหาใส่ร้ายว่า คงอยากให้ภรรยาได้เป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศจึงเอาใจรัฐบาล ตกลงตนสงสารและเห็นใจภรรยา ซึ่งที่ผ่านมา มีแต่ตนที่เป็นฝ่ายสร้างผลกระทบให้กับเขาทั้งสิ้น
ดร.เจิมศักดิ์ ส่วนที่พันธมิตรฯระบุว่า ตนต้องการให้ภรรยาได้ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ภรรยาตนกำลังจะเกษียณราชการในเดือนกันยายนนี้แล้ว เราไม่ได้คิด ไม่เคยคิด และไม่เคยมีสันดานอย่างที่มีคนจินตนาการเอาเอง ที่ตนเสียใจ คือ เป็นการไปพูดอย่างนี้บนเวทีพันธมิตร และ ASTV ซึ่งตนมีความรู้สึกดีด้วยมาโดยตลอด
สำหรับปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา นั้น ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าจะให้ตอบตรงๆ ตนก็เคยวิพากษ์วิจารณ์คนที่บอกว่า “เป็นกลาง” คือ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงออกว่ามีความคิดเห็นอย่างไร แต่อยู่เฉยๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วที่ผ่านมา ที่เห็นว่าตนไม่จัดรายการ “รู้ทันประเทศไทย” ที่ ASTV ในเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา หรือไม่วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ ในขณะที่ ASTV ทุกรายการเล่นเรื่องนี้กันโครมๆ ตนก็ไม่เคยบอกว่าจะทำตัวเป็นกลาง แต่เป็นเพราะเหตุผลที่ตนได้บอกไว้แล้วข้างต้น ตนอยากจะบอกว่า ถ้าให้ตนแสดงความเห็นในครั้งนี้ก็ได้ แต่พันธมิตรคงไม่ชอบใจ หรือขัดใจ ตนมีบางอย่างที่เห็นด้วยกับพันธมิตร แต่ครั้งนี้ส่วนมากไม่เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องและวิธีการแก้ปัญหา