
ลูกชาย"ฮุนเซน"โผล่สยบข่าวบาดเจ็บ
ลูกชายฮุน เซน โผล่ ภูมะเขือ สยบข่าวลือบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะ ด้านแหล่งข่าวเผย ปะทะไทย-เขมร ส่วนหนึ่งแผนไล่ที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนพระวิหาร ด้านสื่อเขมรนำเสนอภาพ "อภิสิทธิ์" ในชุดนาซี มือขวาถือปืน มือซ้ายถือแผนที่ ที่มีปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตไทย โดยบรรยาย
แหล่งข่าวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต. ฮุน มาเนต รองผบ.ทบ. กองทัพกัมพูชา บุตรชายคนโตของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้มาตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ภูมะเขือซึ่งเป็นจุดปะทะ อย่างหนักระหว่างทหารกัมพูชาและทหารไทยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในการเดินทางมาครั้งนี้ของ เป็นการยุติข่าว ที่ระบุว่า พล.ต.ฮุน มาเนต ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากระดมยิงปืนใหญ่ข้ามมายังฝั่งไทยอย่างหนัก เนื่องจากโกรธแค้นที่รอง ผบ.ทบ.ที่เป็นถึงลูกชายนายกรัฐมนตรีได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกระแสข่าวลือดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายประเมินว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมสงบศึกกับไทย ดังนั้นการเดินทางมาที่ภูมะเขือเมื่อวันที่ 10 ก.พ.นั้นจึงเป็นการลดกระแสความตึงเครียดต่อข่าวลือ
ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจและนักการเมืองในประเทศกัมพูชา วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา รอบนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าทางฝ่ายกัมพูชา เหมือนจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดเหตุปะทะ จึงได้อพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน เช่น บ.สะแอม บ.สวายจรุม บ.โกมุย ต.กันต๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร 250 ครอบครัว ออกไปอยู่หมู่บ้านใหม่ที่สร้างไว้รองรับชื่อ “หมู่บ้านธรรมชาติสมเด็จเดโช” เป็นชื่อของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ซึ่งตั้งอยู่ อ.กุเลน จ.พระวิหาร ห่างจากชายแดนประมาณ 100 กม.
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเคลื่อนย้ายหรืออพยพคนที่อยู่ตามแนวชายแดน ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนตึงเครียดขณะนี้เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาทางการกัมพูชาได้กำหนดให้ชาวบ้านย้ายออกจากพื้นที่ภายในสิ้นเดือนกันยายน 53 โดยได้เสนอเงินชดเชย 2 ล้านเรียล หรือประมาณ 14,250 บาท พร้อมที่ดินแปลงใหม่พื้นที่ 50 x 100 เมตร แต่ชาวบ้านไม่ยอมอพยพออกไป เนื่องจากที่ใหม่อยู่ไกล และพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยระเบิดที่ยังไม่ได้ทำการเก็บกู้ ทำให้ล่าสุดก่อนเกิดเหตุปะทะทางการได้แจ้งเตือนชาวบ้านให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน และได้สร้างสถานการณ์ให้ชายแดนตึงเครียดอย่างหนักจนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันของกำลังทั้งสองฝ่ายขึ้นดังกล่าว
แหล่งข่าวรายเดียวกันเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางการพยายามผลักดัน และไล่ที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหาร เนื่องจากต้องการดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการปราสาทพระวิหารระหว่างรอ มติคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2554 ที่ขณะนี้มีความคืบหน้าตามลำดับเช่นการกันพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เดิมเป็นเขตกันชน การก่อสร้างอาคารสำนักงาน การตัดถนนคอนกรีตเชื่อมต่อปราสาทพระวิหารกับพื้นที่ต่าง ๆ และการย้ายชาวบ้านออกจากพื้นที่กันชนและเขตที่ตั้งสำนักงานด้วย
“ เหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับเขมร รอบนี้ มองผิวเผินคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเขตแดนระหว่างไทยกับเขมรอย่างเดียว แท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของแผนการไล่ที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนด้วยก็เป็นได้ เหมือนการยิงนกกระสุนเดียวได้นก 2 ตัว ” แหล่งข่าววิเคราะห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดปอยเปตอ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ฝั่งตรงกันข้าม กับอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวกัมพูชาในตลาดปอยเปต ต่างให้ความสนใจกับ น.ส.พ.กัมพูชาทะมัย ฉบับประจำวันที่ 12 ก.พ. 54 ที่มีภาพการ์ตูนล้อเลียนนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ของไทย ว่าเป็นนาซีกระหายสงคราม และจะยึดปราสาทพระวิหารของกัมพูชา
น.ส.พ.กัมพูชาทะมัย ได้ลงภาพการ์ตูนพาดหน้า 1 ด้านขวา มีภาพการ์ตูนรูปทหารแต่มีใบหน้าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ไว้หนวด ทรงผมเหมือนกับฮิตเลอร์ ผู้นำนาซี มือขวาถือปืน M-16 มีปลอกแขนสีเหลืองเป็นรูปนาซี ส่วนมือซ้ายถือแผนที่ชูเหนือศรีษะ โดยเขียนบรรยายว่า แผนที่โจร ในแผนที่มีภาพปราสาทพระวิหารอยู่ในพื้นสีเหลือง มีเส้นแบ่งเขตแดน เขียนกำกับว่า ประเทศไทย ส่วนพื้นที่สีน้ำเงินอยู่นอกปราสาทพระวิหาร และเส้นแบ่งเขตแดนเขียนว่าประเทศกัมพูชา กำลังไต่เชือกที่มีกองไฟอยู่ด้านล่าง
ชาวกัมพูชา ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย กล่าวว่า ภาพการ์ตูนดังกล่าวล้อเลียน ว่านายกรัฐมนตรีของไทย เป็นพวกนาซีหรือฮิตเลอร์ที่กระหายสงคราม มือขวาที่ถือปืน M-16 คือถือปืนปกป้อง แผนที่ที่อยู่ในมือซ้าย ซึ่งแผนที่ดังกล่าวเป็นแผนที่ที่ปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตไทย เสมือนว่าเป็นแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ที่นายอภิสิทธิ์ ถือปืนเพื่อปกป้องแผนที่ 1 ต่อ 50,000 เพราะจะได้ปราสาทพระวิหารเป็นของไทย ส่วนการไต่เชือกที่มีกองไฟนั้นเปรียบเสมือนนายอภิสิทธิ์ อยู่บนเชือกที่มีกองไฟ คือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ที่จะเผาเชือกให้ขาด
รายงานข่าวแจ้งวว่า ที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาทำการค้าและรับจ้างทำงานใสตลาดโรงเกลือ ตามปกติ ส่วนบรรยากาศการเดินทางออกไปฝั่งกัมพูชา ของนักพนันและนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นไปด้วยความเงียบเหงา
ส่วนบรรยากาศในตลาดโรงเกลือ ผู้ค้าชาวกัมพูชา ได้มาเปิดร้านค้าขายกันตามปกติครบ 100 % แล้วแต่บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงาเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางมาเที่ยวตลาดโรงเกลือกันน้อยกว่าวันปกติ