ข่าว

เสาธงชัยชีวิตบนเส้นด้ายชายแดนเขมร

เสาธงชัยชีวิตบนเส้นด้ายชายแดนเขมร

08 ก.พ. 2554

กว่า 46 ชั่วโมงแล้ว พื้นที่ชายแดนไทย-เขมรที่เคยเงียบสงบ เปิดฉากการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารฝ่ายกัมพูชากับกองกำลังของทหารไทย ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายลั่นกระสุนนัดแรกก่อน แต่คนที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ

เช้าตรู่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ทีมข่าวรายงานพิเศษ “คม ชัด ลึก” สำรวจสภาพความเสียหายของบ้านเรือนตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบมาอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวราว 1.5 หมื่นคน แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางคนยังเป็นห่วงบ้านเรือนและทรัพย์สินของมีค่า จึงไม่ยอมอพยพย้ายไปไหน เพราะกลัวถูกหัวขโมยมาซ้ำเติม อย่างที่เคยเกิดที่บ้านภูมิซรอล เพิ่งถูกขโมยข้าวสารไปไม่กี่วันที่ผ่านมา

 เพียงก้าวแรกที่เดินทางมาถึงพื้นที่หมู่บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้รู้สึกเงียบเหงาวังเวง จากหมู่บ้านที่เคยมีคนจำนนวนมากอาศัยอยู่ แต่ในวันนี้มีเพียงหมู หมา เป็ด ไก่ และคนชรา ที่ยังเป็นห่วงบ้านไม่ยอมขนย้ายข้าวของหนีไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

 นายวาน กิ่งเกตุ วัย 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นั่งอยู่ที่บังเกอร์ชั่วคราว ที่สร้างขึ้นไว้ในหมู่บ้านด้วยท่าทางเหม่อลอย แววตามีความหวาดกลัว แม้ว่าเขาจะเคยผ่านการปะทะของกองกำลังทหารกัมพูชาถึง 2 ครั้ง ในปี 2518 และ 2528 แล้วก็ตามที

 "ผมกลัวบ้านของตระกูลจะถูกสะเก็ดระเบิดที่ฝ่ายทหารเขมรยิงเข้ามาจนทำให้เกิดไฟไหม้ หากผมอยู่จะได้คอยช่วยดับไฟได้ทันท่วงที แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะรุนแรงที่สุด" นายวานบอกด้วยแววตาเป็นกังวล

 เช่นเดียวกับ นายชัยสินธิ์ แจ่มไธสง วัย 54 ปี ทหารปลดประจำการ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 1 บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนเกิดเหตุทหารยิงกัน ชาวบ้านต่างวิ่งเข้ามาหลบในบังเกอร์กว่า 30 คน ทั้งที่ปกติอยู่ได้เพียงแค่ 10 คน ถึงแม้เสียงปืนจะหยุดลงราวสี่ทุ่ม แต่พวกตนก็ไม่กล้าออกจากบังเกอร์ นั่งซุกตัวรอจนถึงเช้า

 “ไม่มีใครได้พูดคุยกันเลยแม้สักคำเดียว ใครที่มีลูกก็กอดลูก ใครมีพระเครื่องก็เอามากุมกราบไหว้ภาวนาว่าอย่าให้ระเบิดมาตกที่บังเกอร์เราเลย เพราะด้วยสภาพคอนกรีตและถุงทรายคงไม่สามารถจะปกป้องชีวิตของคนทั้ง 30 คนได้” นายชัยสิทธิ์เล่าถึงค่ำคืนวิกฤติของชีวิต

 นายชัยสินธิ์มองว่า การประทะกันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด ใครคิดแผนการวางแผนอะไร รู้เพียงอย่างเดียวว่า อยากให้เหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด เพราะทำให้ชาวบ้านทำมาหากินไม่ได้ แม้กระทั่งข่าวสารยังรับรู้ได้จากการพูดคุยโทรศัพท์กับญาติๆ เท่านั้น

 สำหรับบ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับบ้านภูมิซรอล ทุกครั้งที่เกิดการปะทะ หมู่บ้านแห่งนี้ก็จะได้รับผลกระทบทุกครั้งเช่นกัน วันนี้ชาวบ้านเสาธงชันกว่า 1,500 คน ได้อพยพไปอยู่ตามศูนย์อพยพชั่วคราวแล้ว เหลือเพียงชายชราและชายฉกรรจ์ราว 30 คน ปักหลักเฝ้าอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไฟไหม้จากสะเก็ดระเบิด รวมถึงตีนแมวที่อาจเข้ามาลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านต่างหันมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กราบไหว้ ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักบ้าน ให้ช่วยคุ้มครองให้หมู่บ้าน ละคนในหมู่บ้านแคล้วคลาดปลอดภัยด้วย

   ไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง
   วัชรชัย คล้ายพงษ์ : ภาพ