
บีบีซีตีข่าว"ไทย-เขมร"ทิ้งการเจรจา
BBC ระบุ การเจรจาหยุดยิงไทย-กัมพูชา ถูกละทิ้งโดยสิ้นเชิง ทหารกัมพูชาเชื่อไทยต้องการปราสาทพระวิหารเพื่อหวังกกอบโกยผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ด้านสิงคโปร์ออกแถลงการณ์วิตกต่อเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา
(7ก.พ.) ราเชล ฮาร์วี่ย์ ผู้สื่อข่าวของ BBC ประจำกรุงเทพฯ รายงานว่า ไทยและกัมพูชา ต่างกล่าวหากันว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน จนเกิดการปะทะกันและทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 คน นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา ได้กล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่ง ในกรุงพนมเปญ ในวันนี้ว่าการยิงปะทะกันได้เริ่มขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น
ฮาร์วีย์ ระบุว่า การเจรจาหยุดยิงได้ถูกละทิ้งไปโดยสิ้นเชิงในเวลานี้ และมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นังตั้งแต่องค์การยูเนสโก ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 2551 หลังจากศาลโลก ตัดสินเข้าข้างกัมพูชามาแล้ว เมื่อปี 2505 โดยระบุว่า ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แม้ว่าทางขึ้นจะอยู่ทางฝั่งไทยก็ตาม และยังมีพื้นที่ทับซ้อนโดยรอบที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาใช้พื้นที่ของโบราณสถานอันเก่าแก่ อายุ 900 ปีแห่งนี้เป็นค่ายทหาร ที่แม้จะอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นที่ราบของฝั่งกัมพูชาได้เป็นบริเวณกว้างแต่มีความเปราะบางอย่างสูง ที่จะถูกยิงโจมตีจากที่มั่นของทหารไทย ที่อยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่เมตร
ทหารกัมพูชา เปิดเผยต่อ BBC ว่า พวกเขาคิดว่า ฝ่ายไทยต้องการครอบครองปราสาทพระวิหารเพราะหวังรายได้จำนวนมหาศาลจากนักท่องเที่ยว เพราะทหารเหล่านี้ มีรายได้น้อย และเห็นความรุ่งเรืองที่เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวที่นครวัด ที่อยู่ห่างกันแค่ขับรถ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ปราสาทวิหาร ไม่ใช่สถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากเท่ากับนครวัด ด้วยเพราะมีที่ตั้งอยู่ห่างไกลและเต็มไปด้วยอันตราย และตอนนี้ ก็ไม่อาจรับนักท่องเที่ยวได้อย่างสิ้นเชิง และทหารกัมพูชากำลังเสริมกำลังทหารเพิ่มขึ้นด้วย โดยสามารถมองเห็นรถถังได้ในหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง และตลอดแนวถนน ขณะที่ปากกระบอกปืนหันทิศทางมายังแนวหน้าของไทย นอกจากนี้ ยังมีรถหุ้มเกาะวิ่งบนถนนหลัก ในช่วงสั้น ๆ ก่อนการปะทะล่าสุดจะเปิดฉากขึ้น
พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลและยากจนที่สุดของกัมพูชา ได้รับการบูรณะให้ดีขึ้น รัฐบาลได้สร้างถนนสายใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่น ๆในประเทศ แต่หลายคนมองว่า ถนนเส้นนี้ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับไทยมากขึ้น เพราะมันบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ช่วยอำนวยความสะดวกในการเสริมกำลังทหารได้รวดเร็วขึ้น
รัฐบาลกัมพูชา ได้นำรถไปอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงและเด็ก ส่วนผู้ชายไม่อยากทิ้งธุรกิของพวกเขา แม้ว่าจะอยู่ในอันตราย แม้จะมีหลายคนแสดงความไม่พอใจไทย ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นคู่สงครามกันในอดีต แต่ก็มีคนที่ไม่พอใจความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลเช่นกัน เพราะตระหนักได้ว่า สภาพของเขากำลังจะกลับไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างจากในยุคที่เขมรแดงเรืองอำนาจสักเท่าไหร่
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ได้ปะทะกันเป็นวัน 4 ที่แล้วในวันนี้อันเนื่องมาจากข้อพิพาทชายแดน บริเวณปราสาทพระวิหาร โบราณสถานเก่าแก่อายุ 900 ปี ซึ่งกัมพูชาได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้าแทรกแซง รายงานอ้างการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า มีเสียงปืนใหญ่และปืนกลดังขึ้นตั้งแต่เช้า ในเขตพื้นที่ 4.6ตารางกิโลเมตร รอบที่ตั้งปราสาทพระวิหาร ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่ไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนแห่งนี้
รายงานระบุว่า เหตุปะทะกันเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และนับเป็นการปะทะกันนองเลือดที่สุด นับตั้งแต่กัมพูชาเสนอให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2551 และกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดการยิงปะทะกันเป็นครั้งคราว
นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคง จัดการประชุมเร่งด่วน และกล่าวหาฝ่ายไทยว่าแสดงพฤติกรรมรุกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ชาวกัมพูชาเสียชีวิต และยังทำให้ปราสาทพระวิหารเสียหายเป็นบางส่วน ด้านนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติได้ออกแถลงการว่า เขาเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง และหาทางแก้ปัญหาให้ตรงจุดต่อข้อพิพาทในครั้งนี้
ฝ่ายกัมพูชา อ้างว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 2 นาย แต่สื่อของไทย รายงานอ้างแหล่งข่าวทางทหารว่า ฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิตไป 64 คน แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ส ในกัมพูชาไม่สามารถยืนยันตัวเลขนี้ได้ ส่วนกองทัพไทย รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตว่ามี 2 คน เป็นพลเรือน 1 คน และทหาร 1 นาย มีทหารบาดเจ็บอย่างน้อย 20 นาย แต่สื่อกัมพูชาอ้างว่า ไทยสูญเสียมากกว่านี้
ผู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น ระบุว่า มีชาวบ้านอย่างน้อย 2,500 คน พากันอพยพหนีภัยการสู้รบอยู่ในฝั่งไทย ส่วนฝั่งกัมพูชามีหลายร้อยคน สหรัฐได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดกลั้น ขณะที่สมาคมอาเซียน ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก ระบุว่า สถานการณ์ที่เสื่อมทรามลง จะทำลายความเชื่อมั่นในภูมิภาคและส่งผบกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
รายงานของรอยเตอร์ส ระบุว่า ความสัมพันธ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของไทยและกัมพูชา เกิดจากสองฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าล่วงล้ำดินแดน ปราสาทพระวิหารนั้น มีที่ตั้งอยู่บนแนวพรมแดนทางธรรมชาติและเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว โดยศาลโลกเคยตัดสินเข้าข้างกัมพูชามาแล้ว เมื่อปี 2505 แต่คำตัดสินก็ไม่ได้สรุปชัดเจนว่า โบราณสถานแห่งนี้เป็นของใคร และกลายเป็นช่องว่างให้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันมาจนทุกวันนี้
เว็บไซท์หนังสือสเตรท ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ หรือMFA ได้ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกอย่างลึกซึ้ง ต่อการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งสองฝาย แสดงความอดกลั้นและหาทางยุติความขัดแย้งผ่านทางการเจรจา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทั้งต่อความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างสองชาติ และต่อผลประโยชน์ของภูมิภาคอาเซียนด้วย
MFA ยังได้ยกย่องความพยายามของอินโดนีเซีย ที่จะส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค ซึ่งสิงคโปร์ยินดีและสนับสนุนที่นายมาร์ตี้ เนทาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย จะเดินทางเยือนไทยและกุมพูชา ในฐานะที่อินโดนีเซียเป็นประธานหมุนเวียนของการประชุมอาเซียนในปีนี้เพื่อให้คำปรึกษาในประเด็นพิพาท และช่วยไกล่เกลี่ยให้มีการเจรจาระหว่างสองประเทศ เพื่อให้ปัญหาข้อพิพาทได้รับการแก้ไขได้โดยสันติวิธี