
สื่อเขมรชี้ทหารปะทะไทยดับ1แค่ปืนลั่น
สื่อเขมรโต้โอ้อวดยิงปะทะไทย ทหารเขมรตายแค่ 1 เหตุปืนลั่น และชาวบ้านตาย 1 บาดเจ็บ 20 เท่านั้น จวกเละกล่าวหาไทยรุกราน เสนอภาพกำลังทหารและกองทัพรถถังที่ต่อสู้กับผู้รุกราน โชว์ภาพกองเสบียงอาหารจำนวนมากที่ชาวเขมรส่งมาช่วยเหลือเพื่อให้กองทัพ ต่อสู้กับผู้รุกราน
(6 ก.พ.) ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติพ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรชาวเขมรหลายพันคนเดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาทำการค้าและรับจ้างในตลาดโรงเกลือ ทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศขาเข้าประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้งหลัง จากตกอยู่ในสภาพเงียบเหงามาหลายวันตั้งแต่เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา ทางด้านปราสาทพระวิหาร
ส่วนบริเวณจุดตรวจขาออกด่านพรมแดนอรัญประเทศ ยังคงไม่คึกคักทั้งนักพนันและนักท่องเที่ยวชาวไทย ยังไม่กล้าเดินทางออกไปฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ที่จะพานักท่องเที่ยวชาวไทยไป นครวัด-นครทม จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ยังคงยกเลิกการเดินทาง มีแต่เพียงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยังคงเดินทางออกไปฝั่งกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศในตลาดโรงเกลือ ก็ได้กลับมาคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้งร้านค้าชาวเขมรเปิดทำการค้าแล้ว 100 % นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาหาซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือ จำนวนมาก
ส่วนบรรยากาศในตลาดปอยเปต อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ ตั้งแต่เช้าวันนี้ชาวเขมรได้ออกมาหาซื้อ น.ส.พ.กัมพูชา เพื่อติดตามดูข่าวสารสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา แต่ไม่สามารถหาซื้อ น.ส.พ.ได้เนื่องจาก น.ส.พ.ในเขมรขายดีจนไม่มีส่งมาจำหน่ายในตลาดปอยเปต ชาวเขมรจึงแห่เข้าไปตรวจสอบข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในตลาดปอยเปต โดยเฉพาะเวปไซด์ dap-news.com ของ น.ส.พ.เดิมอัมปรึล (น.ส.พ.ต้นมะขาม) ซึ่งชาวเขมรแห่เข้าไปเปิดดูมากที่สุด
เว็บไซต์ dap-news.com ของ น.ส.พ.เดิมอัมปรึล(น.ส.พ.ต้นมะขาม)ได้เสนอข่าวและภาพเหตุการณ์การยิงปะทะกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณปราสาทพระวิหาร โดย น.ส.พ.เดิมอัมปรึล อ้างว่าจากการที่ทหารไทยรุกรานเข้าไปยิงปะทะกับทหารกัมพูชาที่เฝ้าปราสาทพระ วิหารเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีชาวกัมพูชาเสียชีวิตเพียง 2 คน โดยเป็นทหารกัมพูชา 1 คน และเสียชีวิตเพราะทำปืนลั่นไม่ได้ถูกทหารไทยยิงตาย และเป็นชาวบ้านกัมพูชาเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บรวม 20 คนเท่านั้น นอกจากนี้ น.ส.พ.เดิมอัมปึล ได้ลงภาพกองทัพรถถังของกัมพูชา และทหารกัมพูชากำลังใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับทหารไทย โดยบรรยายภาพว่าทหารกัมพูชายิงต่อสู้กับผู้รุกรานด้วยความกล้าหาญ พร้อมทั้งได้นำภาพทหารกัมพูชาที่ประจำการในปราสาทพระวิหาร และภาพหางกระสุนปืน ค.ที่ทหารไทยยิงไปตกใกล้กับตัวปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ยังมีภาพกองเสบียงอาหารและน้ำดื่มจำนวนมากที่ น.ส.พ.เดิมอัมปรึล อ้างว่าเป็นเสบียงอาหารและน้ำดื่มที่ชาวกัมพูชาทั่วประเทศ ส่งมาช่วยทหารกัมพูชาเพื่อให้ต่อสู้กับผู้รุกราน
นายเอกโซ เวิร์น อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวเขมรในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เผยว่าจากการที่สื่อเขมรนำเสนอข่าวและภาพของกองทัพกัมพูชาที่กำลังต่อสู้กับ ทหารไทยและอ้างว่าเป็นผู้รุกรานนั้นยิ่งทำให้ชาวเขมรเริ่มไม่สบายใจอีกทั้ง มีชาวเขมรจำนวนมากซึ่งเป็นพวกคลั่งชาติพยายามพูดปากต่อปากว่าประเทศไทยเป็น ผู้รุกรานกัมพูชา และหวังจะยึดปราสาทพระวิหารคืนจากเขมร ซึ่งจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ทำให้ประชาชนชาวเขมรเริ่มคล้อยตามและ เริ่มไม่ไว้วางใจคนไทย เกรงว่าหากยังไม่มีการเจรจาและจับมือกันจะทำให้สถานการณ์บานปลายจนเอาไม่อยู่
ปลัดมท.ระบุข่าวปะทะซ้ำเป็นข่าวปล่อย
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.พ.นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และดูการอพยพประชาชน โดยนายวิเชียรกล่าวว่า ได้ลงมาตรวจดูความเรียบร้อยของการอพยพประชาชนด้วยตัวเอง ซึ่งเบื้องต้น มีประชาชนประมาณ 5,000 คน จากหลายตำบลใน อ.กันทรลักษ์ ต้องอพยพมายังจุดรองรับ 7 จุด อาทิ ที่หอประชุม อ.กันทรลักษ์ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา วิทยาลัยการอาชีพ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) ท่าสว่าง ซึ่งการอพยพและดูแลเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี มีพร้อมทั้งที่นอน อาหาร ยารักษาโรค ซึ่งทาง อบต.แต่ละแห่งจัดบริการ ทั้งนี้ การจะเคลื่อนย้ายประชาชนกลับไปยังภูมิลำเนานั้น ต้องรอดูสถานการณ์การเจรจาฝ่ายทหารระดับสูงของไทย และกัมพูชา ว่าต้องยืนยันได้ว่า ไม่มีการสู้รบกันแล้ว เรียกได้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความมั่นใจ เมื่อทางการยืนยัน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็สามารถแจ้งชาวบ้านให้กลับได้ ซึ่งคาดว่า อาจต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน ซึ่งถ้ายังไม่มีความมั่นใจ ก็ไม่อยากให้รีบกลับ
นายวิเชียร ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า มีการปะทะกันอีกในช่วงเที่ยงของวันนี้ว่า ข่าวเกิดจากวิทยุท้องถิ่น ซึ่งเป็นข่าวที่ยังไม่ได้กรอง กระจายเสียงออกมาว่า มีการยิงที่ชายแดน ทำให้พวกเราก็ตกใจว่า มีเหตุร้ายเกิด จึงรีบเตือนให้คนหลบภัยและรีบตรวจสอบข่าวจากฝ่ายทหารทันที ยืนยันว่า ไม่มีการปะทะ แต่ก็ต้องไม่ประมาท ซึ่งข่าวที่ออกมานั้น ไม่ใช่เรื่องการเปิดสัญญาณเตือนภัยแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความระแวงยังอยู่ เมื่อยังมีความไม่ไว้ใจ ก็ฟังต่อกันมา แล้วพูดผ่านวิทยุชุมชนในช่วงประมาณบ่ายโมงหรือบ่ายสองโมง ซึ่งขณะนั้น ตนและคณะอยู่ที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา และได้ข่าวลือเช่นกันว่า มีการปะทะ ทั้งนี้ ในวันที่ 7 ก.พ.นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จะลงพื้นที่มาตรวจดูความเรียบร้อย โดยมีนายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว
นายวิเชียรกล่าวต่อว่า ในวันนี้ ตนได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ และสั่งให้มีการจ่ายเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ผู้ว่าฯ มีอำนาจเบิกจ่ายได้ 50 ล้านบาทแล้ว โดยไม่แน่ใจว่า ได้จ่ายช่วยเหลือไปเท่าไรจากวงเงิน 50 ล้านบาท โดยเบื้องต้น ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ 50,000 บาท บ้านเรือนเสียหายได้หลังละ 30,000 บาท