ส.ส.สังกัดทหารพม่ากวาดเรียบปธ.สภา | คมชัดลึก

 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ตามที่มีการเปิดประชุมสภาพม่าสมัยแรกขึ้นที่กรุงเนย์ปิดอว์หลังจากมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมสภามีการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร , ประธานสภากลุ่มชาติพันธุ์ , ประธานสภาสหภาพ , ประธานสภารัฐ และประธานสภาภาค ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคการเมือง “จ้านพุด” ภายใต้การสนับสนุนของกองทัพพม่า ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาทุกสภาตามคาด

                   พล.อ.ตู่ระส่วยมาน อดีตผู้มีอำนาจอันดับที่ 3 ใน ทพม. ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอ่องมิ้น อดีต รมต.กระทรวงวัฒนธรรมรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภากลุ่มชาติพันธุ์ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 สภานั้น ล้วนได้รับการแต่งตั้งจาก ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมือง “จ้านพุด”

                นอกจากนี้ ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภารัฐในรัฐต่าง ๆ เช่น รัฐมอญ รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐระแข่ง นั้น ล้วนแต่เป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมือง “จ้านพุด” ทั้งหมด

                ในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภารัฐนั้น พรรคการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ พยายามเสนอรายชื่อ ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมืองของตนเข้าชิงตำแหน่ง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคะแนนเสียงของฝ่ายพรรคการเมือง “จ้านพุด” ภายใต้เสียงสนับสนุนของกลุ่มผู้แทนฝ่ายทหารจากกองทัพรัฐบาลพม่า

รัฐสภาพม่าเล็ง"เต็ง เส่ง"นั่งเก้าอี้ปธน.

 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคาร (1 ก.พ.) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่าที่ระบุว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่สมาชิกรัฐสภาพม่าจะลงคะแนนเลือกนายเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ

 มีรายงานว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ได้เสนอชื่อนายเต็ง เส่ง คนสนิทของพลเอกอาวุโส ตัน ฉ่วย ผู้นำพม่า ขณะที่กลุ่มสมาชิกรัฐสภาสายทหารได้เสนอชื่อนายอู ทิน อ่อง มิน โอ เลขาธิการอันดับหนึ่งแห่งสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (เอสพีดีซี) เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในการประชุมวันที่สองของรัฐสภาพม่าซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ กรุงเนปิดอว์ หลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน

 ขณะที่พลเอกอาวุโส ตัน ฉ่วย ผู้นำพม่าไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแม่ว่าจะมีการคาดหมายว่าเขาจะนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการพม่ารายหนึ่งเปิดเผยต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า พลเอกอาวุโส ตัน ฉ่วย จะเกษียณจากตำแหน่งหลังจากส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลชุดใหม่

 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เชื่อว่าพลเอกอาวุโส ตัน ฉ่วย จะพยายามบริหารงานอยู่เบื้องหลังคณะรัฐบาลเพื่อรักษาฐานอำนาจของตนเองต่อไป ด้านนายเมือง ซาร์นี ผู้เชี่ยวชาญด้านพม่าแห่งสถาบันเศรษฐศาสตร์ลอนดอน กล่าวว่า "คำถามสำคัญคือ ตัน ฉ่วย จะทำอะไรต่อไป" เนื่องจากพลเอกอาวุโส ตัน ฉ่วย มีทางเลือกไม่มากนัก และต้องรักษาฐานอำนาจของตนเอง ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าผู้นำพม่าวัย 77 ปี จะรักษาบทบาทหลักในการบริหารประเทศอย่างแน่นอน

 สมาชิกรัฐสภาจะลงคะแนนเสียงคัดเลือกตัวแทนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งสมาชิกรัฐสภา 388 ที่นั่งจาก 493 ที่นั่งสังกัดพรรคสหภาพเพื่อเอกภาพและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) และได้รับการลงคะแนนเสียงจากประชาชนในการเลือกตั้งปลายปีที่แล้ว นอกจากนั้นสมาชิก 1 ใน 4 ของรัฐสภา ยังเป็นตัวแทนที่มาจากกองทัพซึ่งสนับสนุนรัฐบาล

 ด้านนายซอว์ มิน นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยพม่า ให้ความเห็นว่า พม่ากำลังแสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตยในแบบของตนเอง แม้ว่าจะมีคำว่า รัฐสภา สมาชิกรัฐสภา การประชุมรัฐสภา และการเลือกตั้ง รวมทั้ง พรรคการเมืองหลายพรรค ให้ประชาชนได้ฟัง แต่ทุกอย่างเป็น "ของปลอม"

 รัฐสภาพม่าจะคัดเลือกผู้สมัครเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่สามจากสมาชิกรัฐสภา เพื่อส่งรายชื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป ซึ่งนายซาร์นีวิจารณ์ว่าโครงสร้างอำนาจของพม่าเป็นรูปแบบของเผด็จการคลาสสิก ที่เปิดโอกาสให้ทหารระดับล่างก้าวขึ้นสู่อำนาจการปกครองประเทศต่อไป