ข่าว

เผยประยุทธยันกล่อมเขมรรื้อป้ายได้

เผยประยุทธยันกล่อมเขมรรื้อป้ายได้

25 ม.ค. 2554

ทหารกัมพูชาส่งกำลังประชิดพื้นที่พิพาท ทั้งปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายสร้างบังเกอร์ พร้อมรับมือทหารไทย ด้านทหารไทยมีการเตรียมความพร้อมเต็มที่ พร้อมทั้งขอให้ชาวไทยใส่ใจปัญหาชายแดนให้มากขึ้น สร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนมากกว่าสร้างความขัดแย้ง และเชิญชว

เมื่อเวลา 09.00 น.  วันที่ 25 ม.ค. บรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก พบว่าทหารกัมพูชา ได้สร้างถนนเข้ามายังปราสาทตาเมือนธม พร้อมทั้งสร้างบังเกอร์ ประชิดเข้ามายังปราสาทตาเมือนธม โดยบังเกอร์ที่ทหารกัมูชาสร้างเข้ามา อยู่ห่างจากบันไดปราสาทตาเมือนธม เพียง 100 เมตร และมีทหารกัมพูชา เดินทางเข้ามานั่งพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ประจำฐานปฎิบัติการปราสาทตาเมือนธม  กองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 เช่นทุกวันที่ผ่านมา

 แหล่งข่าวทางทหารระบุว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชา ได้ใช้เครื่องจักรกล ในการสร้างถนน เข้ามายังปราสาทตาเมือนธม  อยู่ห่างจากตัวปราสาท เพียง 100 เมตร สามารถมองเห็นได้ นอกจากนั้นยังส่งกำลังทหาร กว่า 300 นาย พร้อมอาวุธหนัก เข้าประจำการที่ฐานปฎิบัติการบ้านตาเมือนใหม่ ห่างจากปราสาทตาเมือนธมเพียง 500 เมตร แหล่งข่าวยังได้ระบุอีกว่า ขณะนี้ ทหารกัมพูชา ทำการก่อสร้างทุกวัน ทั้งสร้างบ้านพัก สร้างบังเกอร์ ตลอดแนวชายแดนใกล้ปราสาทตาเมือนธม

 สถานการณ์ทั่วไปที่ ปราสาทตาเมือนธม ยังเป็นปกติ มีนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้และขณะนี้ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี  ยังได้คอย อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ  ที่จะเข้าปราสาทตาเมือนธม อย่างเต็มที่  พร้อมทั้งเตรียมจัดสร้างห้องน้ำ เพื่อความอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ใกล้ฐานปฎิบัติการปราสาทตาเมือนธม และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ชาวไทย คนไทย และชาวต่างประเทศ ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างแท้จริง

 ขณะที่ปราสาทตาควาย บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้กองทัพภคที่ 2 และทหารช่าง  กองพลทหาราบที่ 6  ก็ได้สร้างเส้นทาง เข้าไปยังปราสาทตาควาย ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น จากที่เคยเดินทางด้วยเท้าขึ้นเขา ระยะทาง 3 กิโลเมตร ขณะนี้ก็สามารถเดินทางด้วยทางเท้าเข้าไปยังปราสาทตาควาย ด้วยระยะเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น  จึงทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น 

 บรรยากาศ ที่ปราสาทตาควาย พบว่าพื้นที่ทั่วไปโดยรอบ ปราสาทตาควาย ถูกถากถาง ต้นไม้โดยรอบปราสาท ทำให้สามารถเที่ยวชม ปราสาทตาควาย ได้สะดวกขึ้น โดยกองร้อยทหารพราน ที่ 2602 และกองร้อยทหารพรานที่ 2606 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน เข้าดูแลพื้นที่ตลอดเวลา

 ขณะที่ทหารกัมพูชา ก็ได้สร้างถนนขึ้นเขา เข้าใกล้ปราสาทตาควาย ห่างจากปราสาทตาควายเพียง 50 เมตร พร้อมส่งกำลังทหาร และอาวุธ เข้าประจำการ ใกล้ปราสาทตาควาย กว่า 50 นาย พร้อมทั้งได้ก่อสร้างบังเกอร์ และที่พักทหารไว้ใกล้ปราสาทตาเมือนธม

 แหล่งข่าวทางทหารระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาพยายาม ในการประโคมข่าว ว่าเป็นเจ้าของปราสาทตาควาย พร้อมทั้งสร้างถนนเข้ามาใกล้ปราสาทตาควาย และเปิดให้ชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาชมปราสาทตาควายได้ เป็นผลให้ชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาเที่ยวชมปราสาทตาควาย เป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวไทยเดินทางเข้ามาเที่ยวปราสาทตาควายค่อนข้างน้อย เพราะยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบ จึงอยากเชิญชวนชาวไทย เดินทางมาเที่ยวชมปราสาทตาควาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพราน คอยอำนวยความสะดวกให้ชาวไทยทุกคนอย่างเต็มที่

พระวิหารเครียดทหาร2ฝ่ายเตรียมพร้อม

            สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังการเรียกร้องของนายอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรีของไทยให้กองทัพกัมพูชาที่ประจำอยู่พื้นที่ปราสาทพระวิหารและในวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทำลายป้ายที่เขียนเป็นภาษาเขมรว่า “กองทัพไทยรุกรานดินแดนกัมพูชา” ออกไป แต่ทางฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ชายแดนบริเวณดังกล่าวตึงเครียดขึ้นมาทันที

            แหล่งข่าวตามแนวชายแดน เปิดเผยว่า  นสพ.เกาะสันติภาพ ของกัมพูชา ระบุว่า ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่พื้นที่ปราสาทพระวิหาร  ทราบว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ส่งผลให้ทุกหน่วยงานที่ประจำอยู่ในส่วนหน้าทั้งหมดเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูง เพราะกัมพูชาได้ตอบปฏิเสธทุกข้อเรียกร้องของไทย

            เจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชา เปิดเผยอีกว่า ได้รับหนังสือเรียกร้องจากฝ่ายไทย แต่เราไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องของพวกเขาได้  และขณะนี้กองทัพกัมพูชาได้เตรียมความพร้อม หากเกิดความตึงเครียดจากข้อเรียกร้องดังกล่าว  เราพร้อมจะปกป้องอธิปไตยกัมพูชาและไม่ยอมรับว่าดินแดน 4.6 ตร.กม.เป็นของไทย

            นอกจากนี้ยังมีประเด็นใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร  หลังจากที่สภาพภูมิอากาศลดลงเหลือ 13 องศาเซลเซียส  มีการตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่กัมพูชาเราได้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษ  กองทัพฝ่ายไทยก็มีการเคลื่อนไหวกำลังอย่างผิดปกติเช่นเดียวกัน  นสพ.เกาะสันติภาพ รายงาน

            ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกองกำลังฝ่ายไทยจากการตรวจสอบแหล่งข่าวสายทหาร ทราบว่า จากการตรวจจับความเคลื่อนไหวของกองกำลังกัมพูชาพบว่ามีการเสริมกำลังเข้ามาประชิดชายแดนอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนมากกว่าปกติ   ฝ่ายไทยเองขณะนี้ได้มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด ให้เตรียมความพร้อม 100 %  และได้มีคำสั่งเรียกกำลังพลที่ลา และหยุดพักกลับเข้ารายงานตัวต่อต้นสังกัดหมดแล้ว ทั้งทหารพราน และทหารลายพราง  และมีคำสั่งสำหรับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าบนเขาพระวิหารห้ามลา  ห้ามขาดเด็ดขาด  พร้อมทั้งสั่งให้ตรวจสอบความพร้อมของอาวุธทุกชนิดทั้งอาวุธหนัก และอาวุธเบา โดยเฉพาะอาวุธประจำกาย  เพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

            แหล่งข่าว กล่าวว่า ทหารทั้งสองฝ่ายในระดับพื้นที่ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ  ทหารกัมพูชาก็บอกว่าไม่อยากจะให้เรื่องบานปลายถึงขั้นต้องรบกัน  เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองระหว่างกรุงเทพกับกรุงพนมเปญ  เรื่องป้ายที่เกิดขึ้นทหารในพื้นที่เขาก็ไม่รู้เรื่องด้วย  แต่หากมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามทันที

“ประยุทธ์”ขอเวลาคุยเขมรถอนป้าย
 
  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงคืบหน้าในการเจรจาให้ทางกัมพูชาถอนป้ายประณามไทย ว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยเจรจากันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าถามว่าเมื่อไร แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาพอสมควร หากพูดกันไปมาจะไม่จบ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมทำมาโดยตลอด รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถือเป็น 2 ช่องทางในการเจรจาพูดคุยกัน ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนมีอยู่ 3 มาตรการ คือ

 1.เจรจา 2.เพิ่มมาตรการ และ 3. การใช้กำลัง เราจะข้าม 1 ไป 3 คงไม่ได้ เราอยู่ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง และประชาชน ทั้ง 2 ฝ่ายไม่อยากเห็นการสู้รบกันตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ไม่ว่าฝ่ายใดไม่ว่า นึกจะทำอะไรก็ทำคงไม่ได้ จะต้องมีคนรับผิดชอบและมีคนสั่งการ โดยเฉพาะปัญหาระหว่างประเทศเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องสั่งการเป็นความรับผิดชอบ เป็นกรอบเป็นสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะโยนไปให้ใครรับผิดชอบ มันเป็นหน้าที่เป็นกฎหมาย จึงอยากเรียนให้สังคมทั่วไปได้รับทราบ

 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชายแดนพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่จะใช้กำลังไม่ได้ เพราะเป็นกติกา เป็นกฎหมาย และเป็นพันธะสัญญาที่คุยกันไว้ว่า หากมีปัญหาในพื้นที่ที่มีปัญหาต้องพูดจากัน ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนี้มาตลอด จนกว่าตรงนั้นจะเรียบร้อยมีเส้นแบ่งเขตที่ชัดเจน เมื่อมีความชัดเจนต่างฝ่ายก็ต่างถอย ถ้าเราไปล้ำเขตแดนก็ต้องถอยออกมา ถ้าเขาล้ำเข้ามาก็ต้องถอยออกไป ซึ่งเราอยู่ด้วยกันด้วยกติกา ไม่ใช่อยู่ด้วยความรู้สึก หากอยู่ด้วยความรู้สึกจะทะเลาะกัน และรบกันทุกวัน ประเทศเรามีเขตชายแดนทั้งหมด 5 พันกว่ากิโลเมตร   ทางบก 4 พันกว่ากม. ส่วนที่เหลือเป็นทางน้ำ และทางทะล ชายแดนไม่มีรั้ว มีแต่หลักเขตที่พังลงทุกวัน หรือขยับกันไปมา   ขอให้ใจเย็นๆ ขอให้กำลังใจทหาร
 
 ประยุทธยันมาร์คกล่อมเขมรรื้อป้ายได้

 เมื่อเวลา 18.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมอโนมา ย่านราชประสงค์ กรณีที่กัมพูชายังไม่มีการปลดป้ายหินว่า พล.อ.ประยุทธยืนยันว่ายังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามคงยังไม่เห็นความคืบหน้า

 “ถ้าเขารื้อเมื่อไหร่ก็รื้อเมื่อนั้น ทั้งนี้ผบ.ทบ.ยืนยันกับตนว่าจะดำเนินการตามนโยบายที่ให้ไว้ ท่านยืนยันกับตนว่าทำได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว