
แซมดิน-นฤมล ขึ้นเวทีเล่าติดคุกเขมร
"แซมดิน - นฤมล" ขึ้นเวทีเครือข่ายรักชาติเล่าประสบการณ์ชีวิตในคุกเขมร "แซมดิน"เผยไม่มีใครหลอกให้เข้าไปดูหลักเขตที่ 46
(23ม.ค.) เมื่อเวลา 18.10 น. ที่เวทีปราศัยกองทัพธรรม เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ทำเนียบรัฐบาล สมณะโพธิรักษ์ ได้ขึ้นเวทีจัดรายการวิถีอารยะ ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์เพื่อมนุษยชาติ หรือเอฟเอ็มทีวี ตอนหนึ่ง ว่า การมาที่เรามาชุมนุมกันครั้งนี้ เพื่อต้องการประชาธิปไตยใหม่ การเมืองใหม่ที่เป็นโลกุตตระ หลุดพ้นจากกาม ตัญหา ทิฎฐิ อวิชชา ไม่มีการอวดตน ถือดี อย่างที่เรากำลังประสบอยู่ในประชาธิปไตยแบบเก่า ที่เราใช้กว่ามากว่า 78 ปี ซึ่งมีการเมืองที่มุ่งสู่กิเลส การชุมนุมครั้งนี้เป็นจะเป็นการชุมนุมประท้วงแนวใหม่ ทุกคนเสียสละมาทำเพื่อบ้านเมือง พัฒนาประชาธิปไตย ไม่เห็นแก่หน้าตาตัวเอง ใครจะมาร่วมเราต้อนรับหมด ให้มาพักร่วมกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตรงนี้ รอทัพใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ จึงค่อยไปสมทบกัน
ต่อมา ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และนางนฤมล จิตรวะรัตนา 2 ใน 5 คนไทยเคยถูกกัมพูชาจับ ได้เข้าร่วมรายการบอกเล่าเหตุการณ์ที่อยู่ในเรือนจำ ว่า อยู่มา 10 วัน ค่อนข้างสบาย แต่แออัดต้องอยู่รวมกันกับนักโทษกัมพูชาจำนวนมาก และมีการ์ดเรือนจำควบคุมตัวตลอดเวลา มีเจ้าหน้าที่มาค้นห้องทุกวัน ทำให้ต้องไม่ต้องทำความสะอาดห้องเอง กิจวัตรประจำวันในเรือนจำเปรซอร์ไม่ต้องทำและคิดอะไรเลย ต่างจากนักโทษกัมพูชาที่ต้องหาน้ำอาบ น้ำดื่ม และทำความสะอาดห้องเอง แต่พวกเขาสามารถมีโทรศัพท์ วิทยุ และทีวี รวมทั้งไอพอด ฟังข่าวสารได้ทุกคน
นอกจากนี้ตอนกลางคืนยังมีการสังสรรค์กันทุกห้อง โดยรวมแล้วก็สะอาดปลอดภัยพอสมควร ยกเว้นห้องน้ำค่อนข้างสกปรกเวลาทำธุระส่วนตัว จะมีหนอนมีพยาธิไต่ขึ้นมา รวมทั้งหนูและแมลงสาบ ตุ๊กแกรบกวนตลอดเวลา ต้องนั่งนอนอยู่ในมุ้งตลอด จนนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ได้แมลงสาบกัดที่หัวและที่เท้า แพ้จนล้มป่วยต้องออกจากคุกไป สภาพคุกผู้หญิงค่อนข้างดีกว่าผู้ชาย เป็นห้องแยกส่วนมาต่างหาก แต่ต้องอยู่กับนักโทษหญิงชาวกัมพูชาอีก 5 คน แต่ไม่ได้ออกจากห้องขังเลย เพราะทางกัมพูชากลัวว่า เราจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากนักโทษคนอื่นๆ
นายแชมดิน กล่าวว่า การไปดูหลักเขตแดนที่ 46 ไม่มีใครหลอกใคร ตนเป็นคนตัวตั้งตัวตีเข้าไปพิสูจน์หลักเขต ในช่วงที่นายนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.ปชป. เข้ามาทำความรู้จักกับสมณะโพธิรักษ์ เพราะนายตายแน่ มุ่งมาจน ยืนยันว่า ตรงจุดที่สระแก้วมีปัญหาชาวบ้านเข้าพื้นที่ไม่ได้ เจ้าหน้าที่เข้าไปรังวัดไม่ได้ จึงได้ติดต่อนายวีระ สมความคิด ไปด้วย ให้นายวีระนำทาง เพราะเคยไปมาแล้ว ซึ่งก็ผ่านด้าน ตชด.ไปหลายด่าน ไม่มีใครทักท้วง จนกระทั่งถึงบริเวณที่ถูกจับ นายวีระถึงเพิ่งบอกว่า เป็นจุดที่เคยถูกจับ ซึ่งยังไม่เห็นหลักเขตที่ 46 จึงชวนกันเดินเลยต่อไป เพื่อหาหลักเขตที่ 46 เดินทางเปิดเผยไม่มีการจารกรรมใดๆ เดินถามชาวบ้านไปเรื่อย จนกระทั่งถูกจับ ซึ่งความจริงมารู้ภายหลังว่า หลักเขตที่ 46 และ 47 ในพื้นที่ดังกล่าว ยังไม่มีข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา ว่ามีการล้ำดินแดนกันเท่าไหร่ ซึ่งเจบีซียังไม่มีข้อสรุปว่าเขตแดนที่แท้จริงควรอยู่ตรงจุดไหน