ข่าว

ประชุมพรรคคอมเวียดนามเปิดฉากลั่นพลิกโฉมสู่ชาติอุตสาหกรรมใน 9 ปี

ประชุมพรรคคอมเวียดนามเปิดฉากลั่นพลิกโฉมสู่ชาติอุตสาหกรรมใน 9 ปี

13 ม.ค. 2554

ฮานอย-พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเริ่มประชุมสรรหาผู้นำใหม่ กำหนดทิศทางประเทศ 5 ปีข้างหน้า ยอมรับการคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาใหญ่ ตั้งเป้าเป็นชาติอุตสาหกรรมภายในปี 2563 ผลักดันประชาธิปไตยในพรรค

      พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เปิดการประชุมใหญ่ครั้งสำคัญที่ศูนย์การประชุมฮานอยเมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) และจะดำเนินต่อเนื่อง 8 วัน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด โดยบรรดาผู้นำคนสำคัญ ได้แก่นายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุง นายนง ดี๊ก หมิ่นห์ เลขาธิการพรรคประธานาธิบดีเหงียน มินห์ เจี๊ยต และนายเหงียน ฟู จง ประธานสมัชชาแห่งชาติเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียง 

      เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประกาศต่อที่ประชุมที่มีผู้เข้าร่วมเกือบ 1,400 คน ชื่นชมการพัฒนาเศรษฐกิจช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่เตือนว่าอัตราการเติบโตที่เฉลี่ยสูงถึง 7.2% ในช่วง 10 ปีนี้ยังไม่ใช่การเติบโตอย่างยั่งยืน คุณภาพ ประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันยังคงต่ำอยู่มาก ระบบข้าราชการ การทุจริต ความฟุ่มเฟือย และความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม ยังคงเป็นอุปสรรค พร้อมกับประกาศว่าจะมีการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจให้ทันสมัยแต่เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเป็นประเทศอุตสาหกรรมให้ได้ในปี 2563
 
    เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เวียดนามได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งเอเชีย แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าเงินผันผวน ขาดดุลการค้า ปัญหาต่างๆ ในกิจการของรัฐซึ่งเป็นเสาหลักเศรษฐกิจ และการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามที่ผ่านมา พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานที่ไม่มีทักษะ

      แต่นายนง ดี๊ก หมิ่นห์ กล่าวว่า เวียดนามจะต้องเน้นการผลิตที่พึ่งพาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และทรัพยากรมนุษย์ที่มีทักษะสูง ทำให้จำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบการศึกษา นอกจากนี้ เวียดนามยังต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง

     เลขาธิการพรรคคอมคอมมิวนิสต์เวียดนามกล่าวด้วยว่า จะปรับปรุงประชาธิปไตยภายในพรรค เห็นได้จากบทบาทชองสมัชชาแห่งชาติที่มีการอภิปรายถกเถียงมากขึ้น กระนั้นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบพลิกโฉมยากจะเกิดขึ้น สมาชิกคนสำคัญในคณะกรรมการกลางพรรคได้กล่าวอย่างชัดเจนในสัปดาห์นี้ว่าเวียดนามจะยังคงระบบพรรคการเมืองเดียวต่อไป 
 
    การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนผู้นำระดับสูงคนใหม่รวม 4 คน โดยประธานาธิบดีและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จะก้าวลงจากตำแหน่งเนื่องจากสูงอายุ และคาดว่า นายเหงียน ฟู จง ประธานสมัชชาแห่งชาติ วัย 67 ปี และนายจวง ตัน ซาง สมาชิกในสำนักเลขาธิการพรรค วัย 61 ปี อาจได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค หรือประธานาธิบดี ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุง อาจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 5 ปี