
เวียดนามซื้อวัวเกลี้ยงอีสานหันปลูกยาง
เวียดนามกว้านซื้อวัว เมืองเลยขายยกคอกหันปลูกยางพาราแทน เผยเห็นญาติปลูกยางได้เงินดี ส่วนคนเลี้ยงวัวมีแต่ลำบากได้ไม่คุ้มทุน ปศุสัตว์จังหวัดเลยชี้พื้นที่เลี้ยงวัวน้อยลง จนทำให้ประชากรวัวหดหาย ด้านชาวบ้านชายแดนอุบลเลี่ยงใช้เนื้อหมูแทน นรข.เผยมีวัวเถื่อนข้ามโข
ความคืบหน้ากรณีปริมาณประชากรวัวในภาคอีสานลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ปรับราคาสูงขึ้น จากราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 140 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 160 บาทและมีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นถึง กก.ละ 200 บาท ทั้งนี้มีสาเหตุจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามได้กว้านซื้อวัวมาตลอดระยะหลายปีมานี้ เพื่อไปใช้บริโภคและไว้เพาะเลี้ยง จนทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า อนาคตไทยอาจสูญเสียความเป็นครัวโลก และอาจเสียดุลย์ต้องนำเข้าวัวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาบริโภคแทนนั้น
ล่าสุดวันที่ 12 ม.ค. 54
สถานการณ์การขาดแคลนวัวได้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของภาคอีสาน นายประสิทธิ์ รัตนชวานนท์ ปศุสัตว์จังหวัดเลย เปิดเผยว่า ปี 2553 จ.เลย มีวัวลดน้อยลงมากอย่างชัดเจนลดลง 30 % ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา จากวัวจำนวน 8 หมื่นตัว คงเหลือเพียงราวๆ 5 หมื่นตัวเท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเกษตรกรหันไปปลูกยางพารา เมื่อทุ่งหญ้าป่าเขา กลายเป็นสวนยางพารา หญ้าและพืชแหล่งอาหารวัวก็ลดลง เกษตรกรจึงขายวัวทิ้งหันไปปลูกยางพาราแทน เพราะปลูกง่ายดูแลง่ายได้เงินดี
นายเทียมจันทร์ ชูไข เกษตรผู้เลี้ยงวัวและเป็นพ่อค้ารับซื้อขายวัวควาย บ้านหนองบอน ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย เปิดเผยว่า สถานการณ์การเลี้ยงวัวในปีนี้ไม่ดี ตนจึงขายออกป้อนตลาดทั้งคอก จากสาเหตุด้านการเลี้ยงต้องเอาใจใส่ต้องให้เวลาให้หญ้าและอาหาร ต้องเสียเวลาและการระวังด้านโรคระบาดพึ่งยารักษาโรคสัตว์ อีกทั้งการผสมเทียม การผสมพันธุ์ก็มีราคาสูง ติดบ้างไม่ติดบ้างเสียเวลา ที่สำคัญทุ่งหญ้าลดน้อยลงมาก เวลาขายวัวก็ไม่ได้ราคา เปรียบเทียบกับยางพาราไม่ได้เลย เห็นญาติทำมีรายได้เฉลี่ย 456 บาท/ไร่/วัน หรือ 280 กก./ไร่/ปี เมื่อเลี้ยงวัวไม่คุ้มทุนจึงขายทิ้งทั้งหมด แล้วหันมาพัฒนาพื้นที่ 15 ไร่ไว้ปลูกยางแทน
ด้าน จ.อุบลราชธานี นางตุ่น จันทร์อุตส่าห์ ชาวบ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ในห้วง 2 ปี ที่ผ่านมานี้ มีการกว้านซื้อวัวไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้วัวพื้นบ้านมีราคาสูงขึ้นมาก ประมาณ 2-3 เท่าตัว อาทิ ลูกวัวตัวเล็กสุด เดิมราคาจะอยู่ที่ ตัวละ 1 พันบาท แต่ทุกวันนี้ ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 3 พันบาท ผู้ที่มีวัวเลี้ยงต่างขายออกหมด จนเกิดการขาดแคลนเนื้อวัว ราคาหน้าเขียงก็ปรับขึ้นมากด้วยเช่นกัน
นางตุ่น กล่าวว่า ในการจัดเลี้ยงงานมงคลเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้จัดอาหารประเภทเนื้อหมูแทนเนื้อวัว เหตุเพราะหาซื้อวัวไม่ได้ ถึงจะได้ราคาก็แพงมาก อย่างเช่น เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา งานเลี้ยงขนาดนี้ ต้องใช้วัวขนาดราคา 8 พันบาท หนึ่งตัวก็พอ แต่มาปีนี้หากจะล้มวัวในปริมาณที่เท่ากัน จะต้องล้มวัวถึง 2 ตัว จึงจะพอเลี้ยงแขก ต่างกับเนื้อหมู ใช้ทุนแค่ 1 หมื่นบาท ก็จะได้เนื้อ 100 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการจัดเลี้ยงแล้ว
ร.อ.การันต์ มินวงศ์ หน.สน.เรือเขมราฐ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันนอกจากมีการส่งวัวออกอย่างถูกต้องแล้ว ในส่วนการลักลอบขนวัวข้ามแม่น้ำโขงไปขายส่งให้กับพ่อค้าเวียดนามก็มีมากเช่นกัน ส่วนมากมักจะข้ามกันที่ท่าน้ำ บ.ลาดหญ้าคา , บ.ลาดเจริญ ต.นาแวง อ.เขมราฐ ส่วนที่ อ.นาตาลก็จะข้ามกันที่ ท่าข้าม บ.นาทราย และ บ.นาหินโหง่น จากนั้นจะนำวัวไปรวมกันไว้ในเขตเมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ใช้เส้นทางหมายเลข 13 เข้าสู่เวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามออกสกัดกั้นการขนวัวเถื่อนเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ด้านนายทศพร ศรีศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4 กล่าว ปีที่แล้วราคาวัวในตลาดมีความผันผวน ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มพ่อค้าเข้ามาปั่นราคาวัวในตลาดให้สูงขึ้น เกษตรกรจึงขายวัวที่เลี้ยงไว้จนหมดคอก ส่งผลให้ราคาวัวในตลาดเกือบทุกแห่งมีราคาสูงขึ้นมาก ส่วนในปีนี้พบว่าตลาดซื้อขายวัวเริ่มปรับตัวคงที่ เพราะราคาซื้อขายในประเทศไทยใกล้เคียงกับต่างประเทศ ทำให้กลุ่มพ่อค้าสั่งซื้อลดลง
"จากสถานการณ์ความผันผวนนี้จึงได้วางแนวทางปรับยุทธศาสตร์การเลี้ยงโค โดยจัดเวทีสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงและผู้บริโภคให้มาพบปะกันให้ข้อมูลด้านการตลาดและความรู้เทคโนโลยีด้านการผลิต ทั้งการปรับปรุงพันธุ์ อาหารสัตว์ การดูแลรักษาวัวให้มีสุขภาพดี และขอเตือนเกษตรกรอย่าขายแม่พันธุ์วัวหมด ในอนาคตขาดแคลนแน่ หากซื้อเข้ามาใหม่ราคาจะแพงมาก " นายทศพรกล่าว