ข่าว

เวียดนามซื้อวัวเกลี้ยงอีสานหันปลูกยาง

เวียดนามซื้อวัวเกลี้ยงอีสานหันปลูกยาง

12 ม.ค. 2554

เวียดนามกว้านซื้อวัว เมืองเลยขายยกคอกหันปลูกยางพาราแทน เผยเห็นญาติปลูกยางได้เงินดี ส่วนคนเลี้ยงวัวมีแต่ลำบากได้ไม่คุ้มทุน ปศุสัตว์จังหวัดเลยชี้พื้นที่เลี้ยงวัวน้อยลง จนทำให้ประชากรวัวหดหาย ด้านชาวบ้านชายแดนอุบลเลี่ยงใช้เนื้อหมูแทน นรข.เผยมีวัวเถื่อนข้ามโข

 ความคืบหน้ากรณีปริมาณประชากรวัวในภาคอีสานลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ปรับราคาสูงขึ้น จากราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 140 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 160 บาทและมีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นถึง กก.ละ 200 บาท ทั้งนี้มีสาเหตุจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามได้กว้านซื้อวัวมาตลอดระยะหลายปีมานี้ เพื่อไปใช้บริโภคและไว้เพาะเลี้ยง จนทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า อนาคตไทยอาจสูญเสียความเป็นครัวโลก และอาจเสียดุลย์ต้องนำเข้าวัวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาบริโภคแทนนั้น
ล่าสุดวันที่ 12 ม.ค. 54 

 สถานการณ์การขาดแคลนวัวได้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของภาคอีสาน นายประสิทธิ์ รัตนชวานนท์  ปศุสัตว์จังหวัดเลย  เปิดเผยว่า ปี 2553 จ.เลย มีวัวลดน้อยลงมากอย่างชัดเจนลดลง 30 % ในห้วง  2 ปีที่ผ่านมา จากวัวจำนวน 8 หมื่นตัว คงเหลือเพียงราวๆ 5 หมื่นตัวเท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเกษตรกรหันไปปลูกยางพารา เมื่อทุ่งหญ้าป่าเขา กลายเป็นสวนยางพารา หญ้าและพืชแหล่งอาหารวัวก็ลดลง เกษตรกรจึงขายวัวทิ้งหันไปปลูกยางพาราแทน เพราะปลูกง่ายดูแลง่ายได้เงินดี

 นายเทียมจันทร์  ชูไข  เกษตรผู้เลี้ยงวัวและเป็นพ่อค้ารับซื้อขายวัวควาย บ้านหนองบอน ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย เปิดเผยว่า  สถานการณ์การเลี้ยงวัวในปีนี้ไม่ดี ตนจึงขายออกป้อนตลาดทั้งคอก จากสาเหตุด้านการเลี้ยงต้องเอาใจใส่ต้องให้เวลาให้หญ้าและอาหาร  ต้องเสียเวลาและการระวังด้านโรคระบาดพึ่งยารักษาโรคสัตว์ อีกทั้งการผสมเทียม การผสมพันธุ์ก็มีราคาสูง ติดบ้างไม่ติดบ้างเสียเวลา  ที่สำคัญทุ่งหญ้าลดน้อยลงมาก เวลาขายวัวก็ไม่ได้ราคา เปรียบเทียบกับยางพาราไม่ได้เลย  เห็นญาติทำมีรายได้เฉลี่ย 456 บาท/ไร่/วัน หรือ 280 กก./ไร่/ปี  เมื่อเลี้ยงวัวไม่คุ้มทุนจึงขายทิ้งทั้งหมด แล้วหันมาพัฒนาพื้นที่ 15 ไร่ไว้ปลูกยางแทน

 ด้าน จ.อุบลราชธานี นางตุ่น จันทร์อุตส่าห์  ชาวบ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า  ในห้วง 2 ปี ที่ผ่านมานี้ มีการกว้านซื้อวัวไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้วัวพื้นบ้านมีราคาสูงขึ้นมาก ประมาณ 2-3 เท่าตัว อาทิ ลูกวัวตัวเล็กสุด เดิมราคาจะอยู่ที่ ตัวละ 1 พันบาท แต่ทุกวันนี้ ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 3 พันบาท  ผู้ที่มีวัวเลี้ยงต่างขายออกหมด จนเกิดการขาดแคลนเนื้อวัว ราคาหน้าเขียงก็ปรับขึ้นมากด้วยเช่นกัน 

 นางตุ่น กล่าวว่า ในการจัดเลี้ยงงานมงคลเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้จัดอาหารประเภทเนื้อหมูแทนเนื้อวัว เหตุเพราะหาซื้อวัวไม่ได้ ถึงจะได้ราคาก็แพงมาก อย่างเช่น เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา งานเลี้ยงขนาดนี้  ต้องใช้วัวขนาดราคา 8 พันบาท หนึ่งตัวก็พอ  แต่มาปีนี้หากจะล้มวัวในปริมาณที่เท่ากัน จะต้องล้มวัวถึง 2 ตัว จึงจะพอเลี้ยงแขก  ต่างกับเนื้อหมู ใช้ทุนแค่ 1 หมื่นบาท ก็จะได้เนื้อ 100 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการจัดเลี้ยงแล้ว

 ร.อ.การันต์ มินวงศ์  หน.สน.เรือเขมราฐ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันนอกจากมีการส่งวัวออกอย่างถูกต้องแล้ว ในส่วนการลักลอบขนวัวข้ามแม่น้ำโขงไปขายส่งให้กับพ่อค้าเวียดนามก็มีมากเช่นกัน  ส่วนมากมักจะข้ามกันที่ท่าน้ำ บ.ลาดหญ้าคา , บ.ลาดเจริญ  ต.นาแวง อ.เขมราฐ ส่วนที่ อ.นาตาลก็จะข้ามกันที่ ท่าข้าม บ.นาทราย และ บ.นาหินโหง่น  จากนั้นจะนำวัวไปรวมกันไว้ในเขตเมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ใช้เส้นทางหมายเลข 13 เข้าสู่เวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามออกสกัดกั้นการขนวัวเถื่อนเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 ด้านนายทศพร  ศรีศักดิ์  ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 4  กล่าว ปีที่แล้วราคาวัวในตลาดมีความผันผวน  ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มพ่อค้าเข้ามาปั่นราคาวัวในตลาดให้สูงขึ้น   เกษตรกรจึงขายวัวที่เลี้ยงไว้จนหมดคอก    ส่งผลให้ราคาวัวในตลาดเกือบทุกแห่งมีราคาสูงขึ้นมาก ส่วนในปีนี้พบว่าตลาดซื้อขายวัวเริ่มปรับตัวคงที่  เพราะราคาซื้อขายในประเทศไทยใกล้เคียงกับต่างประเทศ ทำให้กลุ่มพ่อค้าสั่งซื้อลดลง  

 "จากสถานการณ์ความผันผวนนี้จึงได้วางแนวทางปรับยุทธศาสตร์การเลี้ยงโค   โดยจัดเวทีสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงและผู้บริโภคให้มาพบปะกันให้ข้อมูลด้านการตลาดและความรู้เทคโนโลยีด้านการผลิต ทั้งการปรับปรุงพันธุ์  อาหารสัตว์  การดูแลรักษาวัวให้มีสุขภาพดี  และขอเตือนเกษตรกรอย่าขายแม่พันธุ์วัวหมด  ในอนาคตขาดแคลนแน่ หากซื้อเข้ามาใหม่ราคาจะแพงมาก " นายทศพรกล่าว