แม่ค้าขายน้ำหอมตายปริศนาคาวีออส | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 6 เมษายน พ.ต.ท.สันติ มีศิริ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์เก๋ง ภายในซอยโปโล 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน  (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู 

ที่เกิดเหตุภายในซอยดังกล่าวพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน วศ 5425 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนนสภาพปิดเครื่องยนต์กระจกด้านหลังข้างซ้ายเปิดลงครึ่งบาน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในรถพบศพ น.ส.สุพัตรา จารุจันทร์ อายุ 28 ปี อาชีพขายน้ำหอม บนห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต นอนหงายอยู่บนเบาะหลังคนขับ สภาพสวมชุดแซกสีดำ มีเสื้อโปโลสีส้มปิดอยู่บริเวณท้อง น้ำลายฟูมปาก ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ภายในรถไม่มีการรื้อค้น และไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด  เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมง

จากการสอบสวนนายภานุวัฒน์ พันธ์เสา อายุ 24 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายบ้านอยู่ย่านรังสิตคลอง 3 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อก่อนผู้ตายเป็นผู้จัดการร้านไอศรีมสเวนเซ่น สาขาบิ๊กซีถนนเพชรเกษม ก่อนออกมาขายน้ำหอมตามตลาดนัดทั่วไป ก่อนเกิดเหตุค่ำวันที่ 6 เมษายน ได้ไปกินเหล้าวันเกิดเพื่อน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ย่านตลาด อตก. จากนั้นก็ไปดื่มต่อกันที่ผับย่านท่องหล่อ และที่ผับย่านรัชดา ซึ่งตอนนั้นผู้ตายมีอาการเมามากไม่สามารถขับรถได้ ตนจึงขับรถแทนผู้ตายมาจอดนอนที่สวนลุมไนท์พลาซ่าเวลา 09.00 น. ตอนนั้นผู้ตายก็เมายังไม่ได้สตินอนหลับอยู่ในรถตลอดเวลา

นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 6 เมษายน พวกตนก็มีอาการส่างเมาแล้ว ก็ขับพร้อมผู้ตายมาจอดไว้ที่เกิดเหตุเนื่องจากตนพักอาศัยอยู่ในซอยดังกล่าว เมื่อขับรถมาจอดที่เกิดเหตุแล้วผู้ตายยังมีอาการมึนเมาอยู่ โดยบอกว่าจะขอนอนพักในรถ ตนจึงให้ผู้ตายนอนอยู่ในรถ จากนั้นตนก็เข้าไปในบ้านอาบน้ำ และเอาผ้ามาเช็ดตัวผู้ตาย ก็เห็นนอนอยู่ เพราะปกติผู้ตายเวลาดื่มเหล้าเมาก็จะจอดรถนอนแบบนี้อยู่แล้ว จากนั้นก็ไปกินข้าวกับพวกเพื่อน จนกระทั่งกลับมาก็เข้ามาดูผู้ตายอีกรอบเวลาประมาณ 23.00 น.ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว

พ.ต.ท.สันติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลในร่างกายผู้ตาย จากการตรวจสอบในรถยนต์ผู้ตายไม่พบบัตรประจำตัวประชาชน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต จึงนำพส่งให้สถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง