ข่าว

"บอมบ์สูท”หรือ"เสื้อเกราะกันกระสุน”
หมดอายุเหมือนกับ“ล้อยางรถยนต์"

"บอมบ์สูท”หรือ"เสื้อเกราะกันกระสุน” หมดอายุเหมือนกับ“ล้อยางรถยนต์"

06 ม.ค. 2554

ชุด “บอมบ์สูท" เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงเจ้าหน้าที่เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด ที่มีการผลิตมาจากประเทศแคนาดา ซึ่งทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติภารกิจภาคสนามด้วยการเก็บกู้วัตถุระเบิดจำเป็นจะต้องสวมใส่เจ้า “บอมบ์สูท" ทุกครั้งไป

 แม้เจ้าหน้าที่จะรู้ตัวดีว่า เจ้า “บอมบ์สูท” ชุดนี้ จะไม่ได้ช่วยรักษาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม แต่เขากลับมองว่า ใส่ไว้ก็ดีกว่าไม่ได้ใส่อะไรเลย

 “บอมบ์สูท" ถูกบรรจุเข้ามาอยู่ในกองทัพนานหลายสิบปีแล้ว โดยกรมพลาธิการของแต่ละกองทัพเป็นผู้จัดหาให้แก่หน่วยเก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด ของแต่ละกองทัพ

 มีการจัดซื้อจัดหามาจากบริษัทของประเทศแคนาดา โดยไม่มีการทดสอบสนามจริงให้ดู เพียงแต่ให้ดูการทดสอบผ่านภาพวิดีโอเท่านั้น โดยมีใบรับรองผลการทดสอบ และใบผลวิจัยถึงคุณภาพ 

 การจัดซื้อที่ผ่านมาในราคาชุดละประมาณ 2-2.5 ล้านบาท ยุคแรกบริษัทในแคนาดาผลิต “บอมบ์สูท” รุ่นอีโอดี 6, และ 8 แต่ตอนหลังมีการพัฒนามาเป็นรุ่น อีโอดี 9 หรือ เอ็มเค 9 ที่ปัจจุบันกองทัพก็มีแล้ว

 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา หรือแม้แต่อิสราเอล ก็มีการจัดซื้อไว้ใช้งานแต่ละกองทัพเช่นกัน ปัจจุบันประเทศเยอรมนีมีการผลิต “บอมบ์สูท” ขึ้นมาใหม่ ราคาประมาณ 2.7-3 ล้านบาท ซึ่งหลายประเทศจับจ้องที่จะจัดซื้อ แต่ติดอยู่ที่ประเทศเยอรมนีไม่ยอมขายให้ต่างประเทศ แต่เก็บไว้ใช้งานในประเทศเอง

 การออกแบบ “บอมบ์สูท” ซึ่งเป็นชุดที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันระเบิด โดยมีคุณลักษณะพิเศษอยู่ 3 ประการ คือ 1.ป้องกันความร้อน 2.ป้องกันแรงดันของวัตถุระเบิด และ 3.ป้องกันสะเก็ดที่เกิดจากการระเบิด

 การออกแบบชุดนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้ผู้ที่สวมใส่ชุด “บอมบ์สูท” ทนความร้อนได้ ซึ่ง “บอมบ์สูท” จะมีคุณลักษณะคล้ายๆ กับ “เสื้อเกราะกันกระสุน” โดยจะมีเกราะป้องกันที่ทำจากชิ้นส่วนแข็งบริเวณหน้าอก และหน้าท้อง ป้องกันแรงอัดของระเบิดได้เพียง 1,800 เมตรต่อวินาที  

 ทั้งนี้ประสิทธิภาพของ “บอมบ์สูท” มีการทดสอบจากเครื่องวัด แต่ไม่เคยมีการนำ “บอมบ์สูท” มาทดลองกับระเบิดจริง “บอมบ์สูท” จะมีลิมิตในการป้องกันของตัวมันเอง ถ้าจะวัดเกี่ยวกับสะเก็ดระเบิดก็จะวัดความเร็วของสะเก็ดระเบิดที่จะเข้ามาปะทะกัน “บอมบ์สูท” คือความเร็วจะอยู่ที่ 600-700-800 เมตรต่อวินาที

 หากเรียกกันตามภาษาทหาร หรือตำรวจ การทดสอบจากเครื่องวัด คือ วี 50 (V-50) ความเร็วของสะเก็ดระเบิดที่วิ่งเข้ามาชนกับ “บอมบ์สูท” มีโอกาสทะลุได้ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือทะลุครึ่งหนึ่งไม่ทะลุครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานในการวัดความสามารถของ “บอมบ์สูท” อย่างไรก็ตาม หากมองในแวดวงการของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด ถือว่าดี และได้มาตรฐานที่สุด ณ เวลานี้

 หน่วยทำลายวัตถุระเบิดของกองทัพบกจะมี “บอบ์มสูท” ประจำอยู่ทุกหน่วย แต่ในส่วนของหน่วยอีโอดี หรือ หน่วยเก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิดของหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอยู่ประมาณ 7-8 ชุด จากทั้งหมดมี 18 ชุดปฏิบัติการ ทั้งนี้อายุการใช้งานของ “บอมบ์สูท” ที่มีปัญหาอยู่ในเวลานี้ หากคิดกันแบบง่ายๆ คือ มีอายุประมาณ 5 ปีเป็นอย่างต่ำ

 “การหมดอายุของบอมบ์สูท จะคิดเหมือนกับเสื้อเกราะกันกระสุน เพราะใช้วัสดุในการจัดทำเหมือนกันทั้งหมด คือมีอายุใช้งานได้ประมาณ 5 ปี แต่บริษัทของแคนาดา ที่ผลิตขายให้กองทัพไทย ระบุว่า หากเก็บ “บอมบ์สูท” ดีๆ และอยู่ในผ้าหุ้มอย่างดี จะมีอายุการใช้งานนานถึง 8 ปี แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด คงไม่ใช้กัน แต่ถ้าอายุการใช้งานถึง 5 ปีเมื่อไหร่ ก็จะต้องเปลี่ยนทันที”

 ตอนนี้ “ทหาร-ตำรวจ” หรือหน่วยต่างๆ ที่มี “บอมบ์สูท” ประจำการอยู่ จะคิดอายุการใช้งาน 5 ปีเป็นเกณฑ์ทั้งหมด เพราะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องป้องกัน หรือเซฟชีวิตของตัวเองเอาไว้ด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น “เสื้อเกราะกันกระสุน” หรือ “บอมบ์สูท” เมื่อหมดอายุการใช้งานแล้วก็ต้องทิ้ง ไม่สามารถซ่อมบำรุงเหมือนกับอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ ที่ขณะนี้มีการซ่อมบำรุงของแต่ละกองทัพอยู่

 “เสื้อเกราะกันกระสุน” หรือ “บอมบ์สูท” ถ้าหมดอายุการใช้งานแล้วก็เหมือนกับ “ล้อยางรถยนต์” ทั่วไป แม้ล้อยางจะยังมีดอกยางที่สมบูรณ์อยู่ก็ตาม เพราะหากนำมาใช้ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะลดน้อยลงไป โดยเฉพาะการป้องกันสะเก็ดระเบิดที่จะวิ่งเข้ามาปะทะกับ “บอมบ์สูท” หรือการป้องกันแรงดันของระเบิด ดังนั้นเมื่อหมดอายุแล้วก็จะต้องเลิกใช้ทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกระเบิดลูกต่อไปมันจะแรงขนาดไหน

 “เจ้าหน้าที่เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิด จะต้องการ “บอมบ์สูท” ที่อยู่ในสภาพการใช้งานสมบูรณ์ที่สุด เพราะเจ้า “บอมบ์สูท” ไม่ได้ป้องกันระเบิดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่มีไว้เพื่อป้องกันจากสะเก็ดระเบิดที่จะวิ่งเข้ามาหาเจ้าหน้าที่เท่านั้น คำว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ของวงการเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดทำให้ดีที่สุด”

 “บอมบ์สูท” อาจจะพูดได้ว่า เมื่อใส่ หรือไม่ได้ใส่ อาจจะลดความเสี่ยงของระเบิดได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ใส่ระดับของระเบิดจะทำให้เสียชีวิตแน่นอน หรือเมื่อใส่แล้วโอกาสรอดจะมีสูงกว่าคนที่ไม่ได้ใส่ “บอมบ์สูท”

ทีมข่าวความมั่นคง