
การเมืองเรื่องการพยากรณ์ (ที่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ)
ต้อนรับปี 2554 ด้วยงานนิทรรศการทางวิชาการครั้งที่ 7 ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงวันที่ 5-7 มกราคม 2554 ที่ชื่อว่า "Horopolitics-การพยากรณ์ การเมือง และเรื่องของอนาคต"
งานนิทรรศการทางวิชาการของรัฐศาสตร์นี้จัดมาเป็นปีที่ 7 แล้วครับ จัดขึ้นทุกปีที่ไม่ตรงกับงานจุฬาฯ วิชาการที่จะมีขึ้นสามปีครั้ง เพราะในงานนี้นั้นเป็นงานที่จัดอยู่แล้ว
งานนิทรรศการนี้มีทั้งส่วนที่ว่าด้วยเรื่องของการแสดงผลงานวิจัยและวิชาการของคณาจารย์และนิสิต รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าและอาหารเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความคึกคักให้แก่ชุมชนวิชาการของคณะ รวมทั้งการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีขวัญใจนิสิต-นักศึกษาในวันสุดท้ายของงานด้วยครับ (แทททู คัลเลอร์)
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของงานก็คือการที่งานนี้จะทำหน้าที่เหมือนกับการเปิดบ้าน (open house) หรือการเปิดให้คนนอกคณะเข้ามาสัมผัสกับการเรียนการสอนในคณะ ไม่ว่าจะนักเรียนที่สนใจจะมาเรียนต่อ นิสิตที่อาจจะมาลงวิชาเลือก และบุคคลที่สนใจจะมาศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอกที่คณะครับ
นอกจากในงานจะมีการจัดนิทรรศการถึงสี่ส่วนใหญ่ ตามภาควิชาทั้งสี่ภาควิชา คือ การปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐประศาสนศาสตร์ และ สังคมวิทยา-มานุษยวิทยา และยังมีเวทีกลางที่มีนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมให้ความเห็นมากมาย ตามรายละเอียดที่ http://www.polsci.chula.ac.th หรือเข้า เฟซบุ๊ก แล้วพิมพ์คำว่า รัฐศาสตร์แฟร์ ครั้งที่ 7 นะครับ
ในปีนี้หัวข้อหลักของงานก็คือ การตั้งคำถามกับสังคมและการตั้งคำถามกับวงการรัฐศาสตร์เองในเรื่องของความสัมพันธ์กันระหว่างรัฐศาสตร์ กับ โหราศาสตร์ ว่าตกลงหมอดูกับนักรัฐศาสตร์นั้นเหมือนกันไหม แล้วรัฐศาสตร์จะทำอะไรให้แก่สังคมได้บ้างโดยเฉพาะสังคมที่ดูดวงกันอย่างครึกครื้นเช่นนี้
ไม่ต้องดูที่ไหนไกลหรอกครับ ลองย้อนไปดูหนังสือพิมพ์ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาสิครับ (และในทุกๆ ปี) ก็จะพบแต่การสัมภาษณ์หมอดูสำนักต่างๆ และมีการตีพิมพ์คำทำนายเรื่องบ้านเมืองมากกว่าการสัมภาษณ์นักวิชาการที่น่าจะเชี่ยวชาญทางด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจทั้งหลาย
พูดกันง่ายๆ ว่าถ้าคำทำนายของนักโหราศาสตร์นั้นสำคัญจริงๆ ผมว่าบ้านเมืองเราก็ควรจะสนับสนุนให้มีการศึกษาอย่างจริงจัง และก็ลดความสนใจในเรื่องของวิชาการด้านอื่นลงจริงๆ
พูดแบบนี้ไม่ใช่ประชดประชันนะครับ เพราะว่าอะไรที่เป็นของจริงก็ควรจะสนับสนุนอย่างเป็นระบบ เป็นวาระแห่งชาติไป ไม่ใช่เอางบประมาณไปลงแต่เรื่องอื่นๆ ทั้งที่เรื่องโหราศาสตร์ต่างหากที่เราสนใจกันจริงจัง
หรือว่าสังคมนี้อาจจะเป็นแบบที่ผมเคยกราบเรียนอยู่บ่อยๆ ว่าจริงๆ แล้วคนทั่วไปอาจจะไม่เชื่อเรื่องโหราศาสตร์มากนัก หรือแม้ว่าจะเชื่อก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากนัก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือคนมีอำนาจในบ้านในเมืองต่างหากที่สนใจเรื่องโหราศาสตร์ และเชื่อในเรื่องนี้จนกระทั่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ตัวอย่างเช่นงานวิทยานิพนธ์ ปริญญาเอก ของ รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ทำที่ Claremont Graduate University สหรัฐอเมริกา เมื่อหลายปีก่อน ก็ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของความเชื่อทางโหราศาสตร์ของผู้นำทางทหารไทย เมื่อทำรัฐประหาร หรือหากเราลองสังเกตจะพบว่าในช่วงหลังรัฐประหารเมื่อหลายปีก่อนนั้น หากช่วงใดมีวิกฤติในบ้านเมือง ก็จะพบแต่คำสัมภาษณ์ของโหรลงตีพิมพ์ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทนที่ผลงานวิจัยหรือความเห็นของนักวิชาการ
ที่กล่าวมานี้เป็นเพียง "โหมโรง" ของงานรัฐศาสตร์แฟร์ปีนี้เท่านั้นเองครับ อยากให้มาชมงานกันที่คณะรัฐศาสตร์กันเยอะๆ นะครับ



