ข่าว

เขมรให้เยี่ยม7คนไทยช่วงหยุดปีใหม่

เขมรให้เยี่ยม7คนไทยช่วงหยุดปีใหม่

31 ธ.ค. 2553

กัมพูชาอนุญาตให้เข้าเยี่ยม 7 คนไทยในช่วงวันหยุดปีใหม่ ด้านเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เผาโลงศพและพวงหรีดหน้าสถานทูตกัมพูชา “บรรวิทย์”ผิดหวัง“กษิต”ลำเลิกบุญคุณรู้อย่างนี้ปล่อย“เสื้อแดง”กระ ทืบตาย ไม่ส่ง“นาวิกโยธิน” ไปช่วยชีวิตตอนล้มประชุมอาเซียน

(31ธ.ค.) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการของกัมพูชากรณีการจับเจ็ดคนไทย ว่า ตามขั้นตอนของกัมพูชาหลังที่ทนายความแจ้งให้ทราบจะต้องรอให้ศาลกัมพูชานัดไต่สวนคดีก่อนจึงจะสามารถยื่นเรื่องเพื่อขอประกันตัวคนไทยทั้งหมดได้ แต่ถึงขณะนี้ทางศาลยังไม่ได้นัดวันไต่สวนซึ่งกำลังรออยู่ว่าศาลจะนัดพิจารณาเมื่อใด ในส่วนการประสานงานให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด สถานเอกอัครราชทูตได้ยื่นหนังสือไปยังฝ่ายกัมพูชาแล้วเชื่อว่าน่าจะเข้าเยี่ยมได้ภายในวันสองวันนี้แม้จะเป็นวันหยุดเทศกาลปีใหม่

 นายธานี กล่าวว่า ระหว่างเข้าเยี่ยมผู้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา เขาไม่ตระหนักว่ารุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชามากขนาดนั้นเมื่อรับทราบก็ยืนยันว่าไม่มีเจตนาร้ายหรือจงใจทำผิดกฎหมายแต่เป็นการพลัดหลงเข้าไป ทั้งนี้เรือนจำเปรยซอร์ให้ความร่วมมืออย่างดีและอำนวยความสะดวกให้ในหลายๆ เรื่องทั้งยังอนุญาตให้นำอาหารทั้ง 3 มื้อเข้าไปให้ผู้ถูกจับกุมซึ่งทานอาหารมังสวิรัติขณะที่กระทรวงได้มอบหมายได้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทยเดินทางไปดูแลทุกข์สุขของผู้ที่ถูกจับกุมทุกวันด้วย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นำโดย หม่อมหลวงวัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการไทยคดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมแนวร่วมเดินทางมาชุมนุมหน้าสถานฑูตกัมพูชา ถ.ประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง พร้อมถือป้ายข้อความโจมตีกัมพูชา และนำโลงศพและพวงหรีดโดยมีรูปหน้าสมเด็จฮุนเซน ของกัมพูชา และนายยกฯอภิสิทธิของไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.วังทองหลางกว่า 20 นายคอยดูแลความปลอดภัย

 โดยผู้ชุมนุมได้ใช้รถเครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลกัมพูชา ก่อนเผาโลงและพวงหรีดพร้อมนำใข่ต้ม 14 ใบตามธรรมเนียมการเผาศพของเขมรก่อนเดินทางกลับเพื่อรอดูท่าทีรัฐบาลอีกครั้ง

 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เครือข่ายประชาชนชาวไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งปักหลักชุมนุมบริเวณ ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก ในวันนี้มีผู้ชุมนุมประมาณ 50 คน มีการผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย เร่งรัดให้รัฐบาลช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คน ที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมไปเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ให้เดินทางกลับมาโดยเร็วและปลอดภัย ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมฯได้นำป้ายผ้าติดบริเวณรั้วริมฟุตบาททั้งฝั่งทำเนียบรัฐบาล และฝั่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยาวไปจนถึงบริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) อาทิ “ทหารไปไหน” , " ทำไมไม่ไล่ผู้บุกรุกผืนแผ่นดิน" , "ผลประโยชน์ชาติทำไมไม่รักษา" เป็นต้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมได้ การปราศรัยบนเวลาตอนหนึ่งว่า"หากเขมรไม่ปล่อย 7 คนไทย พวกตนก้จะเดินทางไปที่หลักเขตที่ 46 ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ทั้ง 7 คนโดนจับ เพื่อให้ทหารเขมรจับไป จะได้ไปอยู่กับเพื่อน นอกจากนี้ มีการระดมทุนจากผู้ที่มาชุมนุมด้วยกันเอง เพื่อเป็นค่าอาหารและน้ำดื่ม โดยวันนี้ระดมทุนได้ 10,000 บาท" นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมยังได้มีการนำโลงศพคลุมด้วยผ้าสีดำ และมีรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สวมหมวกถุงยาอนามัยติดทั้ง 4 ด้านของโลงศพ และมีข้อความระบุว่า ชาตะ 3 ส.ค. 2507 มรณะ 31 ธ.ค. 2553 นายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลา 24 นาฬิกา กลุ่มผู้ชุมนุมจะมารวมตัวกันเพื่อเคาดาวน์บริเวณทำเนียบรัฐบาล และประกาศจะอยู่ยาวไปจนถึงวัน 3-4 ม.ค.

 พล.ร.อ.บรรวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 3-4 ม.ค. ทางเครือข่ายของสมัชชาจาก จ.นครราชสีมา จะมาร่วมชุมนุม ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อต่อเนื่อง จนกว่ารัฐบาลจะช่วยให้มีการปล่อยทั้ง 7 คนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งต้องนำทหารกัมพูชามาลงโทษให้ได้

 “ผมผิดหวังที่คุณกษิต ภิรมย์ (รมว.กต.) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกับผมสมัยชุมนุม 193 วัน ที่ทำเนียบ แต่วันนี้คุณกษิตไม่ใช่เพื่อนผมแล้ว เพราะไม่มีความพยายามช่วยเหลือทั้ง 7 คนแต่อย่างใด รู้อย่างนี้ไม่ส่งลูกศิษย์นาวิกโยธิน เข้าช่วยชีวิตคุณกษิตเมื่อครั้งถูกกลุ่มคนเสื้อแดงล้มการประชุมอาเซียน ถ้ารู้ว่าคุณกษิตเป็นคนอย่างนี้ ผมปล่อยให้ถูกกระทืบตายดีกว่า” พล.ร.อ.บรรวิทย์ กล่าว