
อุทยานภูกระดึงขานรับเที่ยวปลอดเหล้า
ร้านค้าบนภูกระดึงที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้รับผลกระทบ หลังกระทรวงทรัพยากรประกาศห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไปในบริเวณอุทยานแห่งชาติ ส่วนหัวหน้าภูฝอยลมขานรับ ห้ามดื่มห้ามขาย ใครส่งเสียงดังเชิญกลับ
หลังจากที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกประกาศกรมอุทยานฯ เรื่องห้ามไม่ให้นำเข้าหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทในอุทยานแห่งชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยวและรบกวนสัตว์ป่า ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมนี้ และบังคับใช้ตลอดไป หากฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายรณภพ คชมาตย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้ประกาศห้ามร้านค้าบนภูกระดึงนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปขายให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว เพื่อป้องกันการส่งเสียงดังและการทะเลาะวิวาท ซึ่งจะสร้างความรำราญให้กับนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่า
ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ต้องการนำสุราขึ้นไปดื่มบนภูกระดึง ทางอุทยานได้มีข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องเข้าร่วมโครงการพิทักษ์ภูกระดึงเพื่อลดปัญหาขยะบนยอดภูกระดึง โดยนักท่องเที่ยวต้องลงชื่อ พร้อมกับจ่ายค่ามัดจำให้ทางอุทยาน จึงจะสามารถซื้อขึ้นไปดื่มได้ แต่ไม่ให้มีการดื่มสุราหลังเวลา 22.00 น. เมื่อกลับลงมาจากภูต้องนำกระป๋องเปล่ามาคืนด้วยทุกครั้ง จึงจะได้รับค่ามัดจำคืน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้จำกัดจำนวนในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดปัญหาขยะบนภูกระดึงด้วย
นางโรนจ์ ครสิงห์ เจ้าของร้านรสเด็ด ศูนย์บริการศรีฐาน อุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ ร้านค้าบนภูกระดึงได้รับผลกระทบเพียงบางส่วน เพราะได้มีประกาศห้ามมานานแล้ว ทำให้ร้านค้าหลายร้านนำขึ้นมาขายไม่มากนัก มีเฉพาะบางร้านที่ลงทุนซื้อมาเตรียมไว้ขายในช่วงปีใหม่ ที่ต้องนำกลับลงไป โดยทุกร้านก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง
นายพรเทพ ปุณเวชสุนทร นักท่องเที่ยวจากกรุงเญ กล่าวว่า การห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นการจำกัดสิทธิ์มากเกินไป ส่วนตัวมองว่าการประกาศห้ามเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก บางคนซื้อเหล้าเบียร์นำขึ้นมาเอง ซึ่งทางอุทยานก็ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และคิดว่าวิธีห้ามดื่ม ห้ามขาย จะใช้ไม่ได้ผล เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมน่าจะหาวิธีการอื่นมาใช้แก้ปัญหา เช่นการวางมาตรการควบคุมเหตุร้าย การรักษาความสงบ ให้มีมาตรการที่เคร่งครัด
นายพิชัย วัชระวงษ์ไพบูลย์ หัวหน้าโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูฝอยลม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ภูฝอยลมตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค ซึ่งจากประกาศของทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ของภูฝอยลม เนื่องจากไม่ได้เป็นอุทยานแห่งชาติ แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ฯ ที่ตั้งขึ้นมา เพื่อแบ่งเบาภาระของอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
"ถึงแม้ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาค้างแรมในช่วงนี้จำนวนมาก แต่เมื่อทางผู้ใหญ่มีความเป็นห่วงในเรื่องของการดื่มสุราและการส่งเสียงดัง คงต้องเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องนี้ โดยจะทำป้ายห้ามนำและดื่มสุราในพื้นที่ ติดไว้ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตาม พร้อมจะตั้งเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจสอบและดูแล และตรวจรถทุกคัน ในการนำและดื่มสุราในเขตของเรา และร้านค้าก็จะไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด ถึงแม้ประกาศยังไม่ได้ครอบคลุมมาถึง"
นายพิชัย กล่าวว่า ต่อจากนี้หากบุคคลหรือกลุ่มนักท่องเที่ยว มีการส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น เราก็มีอำนาจที่จะเชิญให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนั้น ลงจากภูฝอยลมได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะทางภูฝอยลมได้ประกาศห้ามผู้ที่ขึ้นมาค้างแรม ไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ตั้งแต่เวลา 22.00 น.อยู่แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาจะทราบดี
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ นายภูดิศ ศิริภาณุภัค ประธานชมรมบ้านพักทุ่งกระเจียว และรองนายกสมาคมโรงแรมจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ปีนี้ทางอุทยานแห่งชาติทุกแห่งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ และชมรมกลุ่มบ้านพักและโรงแรมทุกแห่ง จะช่วยกันเข้มงวดในการช่วยกันให้ความสำคัญการห้ามนำสุราเข้ามาจำหน่ายในบริเวณงาน และใกล้ลานที่พัก และกางเต็นท์ของนักท่องเที่ยวโดดเด็ดขาด เพื่อไม่อยากให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยการฉลองปีใหม่กันเกินขอบเขตและเมาสุราทะเลาะวิวาทแทงกันเสียชีวิตเกิดขึ้นล่าสุดเหมือนที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมา
โดยจะมีการตรวจสอบและประสานขอความร่วมมือร้านค้าที่จะเข้ามาจำหน่ายสิ่งของในบริเวณงาน ห้ามนำสุราเข้ามาจำหน่ายโดยเด็ดขาด และการร่วมมือจากทางจังหวัด อำเภอเทพสถิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ และรปภ.ในบริเวณงานปีนี้จะมีการตรวจตราเข้มงวดอย่างต่อเนื่องและขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นและขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะเข้ามาร่วมกันจำหน่ายสิ่งของเป็นเจ้าภาพที่ดีของจ.ชัยภูมิช่วยกันอย่างจริงจังใ ห้ปีนี้เป็นเคาท์ดาวน์ชัยภูมิปลอดเหล้า