ข่าว

มิ่งขวัญ ขวัญมา

มิ่งขวัญ ขวัญมา

28 ธ.ค. 2553

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของพรรคเพื่อไทย ในการผลักดันนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยใช้เวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการเปิดสภาสมัยสามัญทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้ เป็นบททดสอบ อาจเป็นปรากฏการณ์ปกติในห้วงเวลาของการเลือกต

ก่อนหน้านี้ เมื่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และมีการโยนหินถามทางด้วยชื่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ก็ยังมีอย่างน้อย 2  ตัวเลือกในพรรค ที่เคยเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคในตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จัดอยู่ในกลุ่มม้านอกสายตา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นได้ดีที่สุดแค่ประธาน ส.ส. ส่วนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็เคยเป็นเพียงสิ่งแปลกแยกในพรรคเพื่อไทย หากแต่นาทีนี้ความแปลกแยกของนายมิ่งขวัญ บวกกับความสามารถในเชิงเศรษฐกิจ อย่างน้อยก็มีผลงานในการพลิกฟื้น อสมท ให้กลับมาเป็นองค์กรมีกำไร กลับทำให้ภาพของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นบวก

 นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย รองโฆษกพรรค เป็นหนึ่งใน ส.ส.ที่สนับสนุนนายมิ่งขวัญอย่างแข็งขัน "เมื่อคนในพรรคอย่างเช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนและประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ก็มีความรู้ความสามารถ ส่วนตัวเห็นว่าถ้าอยากให้ประเทศสงบสุข พรรคเพื่อไทยจะต้องเสนอชื่อนายมิ่งขวัญเป็นผู้นำพรรคและนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะนายมิ่งขวัญเป็นที่ยอมรับของ ส.ส.ว่ามีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจและประนีประนอม วันนี้ผมได้ถามนายมิ่งขวัญว่าพร้อมนำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายมิ่งขวัญก็ตอบว่าพร้อมเพราะถือว่าตัวเองไม่มีครอบครัว มีพี่สาวแค่คนเดียว ไม่มีโอกาสโกงชาติโกงแผ่นดิน และจะคืนความสุขให้พี่น้องประชาชนทั้งชาติ" นายสุชาติ กล่าว

 การถอยออกไปของคนในตระกูลชินวัตร และการเสนอชื่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นตัวเลือกใหม่ของพรรคเพื่อไทย ย่อมเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน พรรคการเมืองควรจะมีตัวบุคคล และนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้การยอมรับมากน้อยเพียงใด หรือมิใช่เป็นพรรคการเมืองในอุดมคติของใคร แต่พรรคเพื่อไทยก็ควรพัฒนาการไปสู่ความเป็นสถาบัน เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ควรยึดติดกับตัวบุคคล หากแต่มีแนวทาง มีอุดมการณ์เป็นหลักในการที่ประชาชนจะเลือกตัวแทนของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ในสภา นี่เป็นมิติใหม่ของปี ๒๕๕๔ ที่อาจลดการเมืองนิยมความรุนแรงลงได้บ้าง