ยึดทรัพย์"โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว"15ล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( ผบก.สส.บชน.) นำกำลังเข้าจับกุมคนร้าย"แก๊งท่าอิฐ"ที่ใช้อาวุธปืนยิงสงครามอาก้ายิงถล่มเข้าใส่ ด.ต.อรุณ แตงสมุทร ผบ.หมู่งานอำนวยการ บก.สส.บช.น. และ ส.ต.ท.นพดล เหมือนดี ผบ.หมู่กก.2 บก.สส.บช.น. ได้รับบาดเจ็บ 2 รายขณะเข้าสืบสวนคดียาเสพติดภายในซอยท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

 โดยก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ทราบว่าคนร้ายมีจำนวน 4 คนขับรถตู้ เข้าที่เติมน้ำมัน บริเวณปั้มลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ ซอยนราธิวาส 14 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าจับกุมคนร้ายแต่คนร้ายได้ต่อสู้ขัดขืนใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ตำรวจแต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ  จากนั้น 2 ใน 4 คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้เจ้าของรถ จยย.ยามาฮ่า นูโว สีขาว-เทา ยกธ-800กทม.และขับหลบหนีไปจำนวน 2 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน พร้อมทั้งสกัดจับรถจักรยายนต์ ที่กำลังหลบหนี

พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาลกำลังขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งค้ายาบ้าท่าอิฐอย่างต่อเนื่องตามคำสั่งของ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยิจนดา ผบช.น. โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย

 ภายหลังสืบสวนติดตามเกาะรอยมาตลอดโดยซุ่มโปร่งเฝ้าติดตามภายในซอยนราธิวาส 14 พบว่าคนร้ายจะจอดรถตู้หลับนอนตามปั๊มน้ำมันต่างๆ จนเจ้าหน้าที่มาพบรถตู้วิ่งบนทางด่วนและลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ จึงประกบตามใกล้ชิด จนมาปะทะกันบริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก แต่คนร้ายพยายามขัดขืนขับรถขึ้นทางเท้า

 พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ยิงยางสกัดรถไว้จับกุมพร้อมเข้าชาร์จรวบตัวคนร้ายได้สำเร็จจำนวน 2 ราย ส่วนอีก 2 คนได้ใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ยถธ 800 หลบหนีไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสกัดอยู่ โดยหลังเกิดเหตุได้รายงานความคืบหน้าการจับกุมดังกล่าวไปยังผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.จักรทิพย์และผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังมากที่สุดเนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและอาวุธสงครามอยู่ในมือ แต่หากมีการปะทะต่อสู้ขัดขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับตายได้ทันที

 ล่าสุด พล.ต.ท.จักรทิพย์ พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สืบสวนนครบาล กำลังเดินทางไปที่แฟลตเอื้ออาทร ซอยคู้บอน 27 ท้องที่ สน.คันนายาว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเครือข่ายท่าอิฐทั้ง 2 รายที่จับกุมตัวได้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาไปตรวจค้นห้องพัก ซึ่งใช้เป็นที่พักยาเสพติดและซุกซ่อนอาวุธปืนไว้คาดว่าจะมีเป็นจำนวนมาก มีการออกวิทยุนัดหมายสื่อมวลชนที่จะไปทำข่าวให้มาเจอกันที่หน้าปากซอยคู้บอน 27 ในเวลานี้ด่วน

 พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหายาเสพติด ได้ระดมกำลังกวาดล้างตรวจค้นทุกจุดทุกพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในระยะนี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ เชื่อว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดจะเพิ่มสูงขึ้น จึงสั่งการให้ตำรวจนครบาลทุกหน่วยระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจังให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อเนื่อง ไปจนถึงเดือน ม.ค. นี้พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบใช้ความระมัดระวังตัวเป็นพิเศษด้วย

ยึดทรัพย์"โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว"15ล้านบาท

 เมื่อเวลา   15.30 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำป้ายข้อความ "บ้านหลังนี้ถูกยึดและอายัด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2538" ตามคำสั่งของเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ 4585/2553 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2553 ไปติดที่หน้าบ้านเลขที่ 12/3 ม. 6 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ปลูกบนพื้นที่ราชพัสดุ เนื้อที่ประมาณ 71 ตารางวา มี นายชัยณรงค์ และ นางประยงค์ ประสงค์ศิล พ่อ- แม่ ของ นายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือ โจ๊ก ไผ่เขียว และ นายนพพล ประสงค์ศิล หรือ จิ๊บ ไผ่เขียว รออยู่ในบ้าน

 นอกจากนี้ ยังมีการตรวจยึดบ้านของ จิ๊บ ไผ่เขียว ซึ่งใช้ชื่อ นายมานะ ร้อยจำปา เป็นผู้ซื้อ เนื้อที่ 53 ตารางวา ใน ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน พร้อม รถยนต์ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กต 4161 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นของ จิ๊บ ไผ่เขียว แต่ใช้ชื่อ นายวิชาญ ประสงค์ศิล เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ รวมมูลค่าทรัพย์สินเบื้องต้นที่ยึดได้ครั้งนี้ ประมาณ 15 ล้านบาท

 นายสมโภชน์ ดาระดาษ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 เปิดเผยว่า การยึดทรัพย์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก โจ๊ก และ จิ๊บ ไผ่เขียว มีพฤติการณ์เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทั้ง 2 คน มีหมายจับของศาล จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีคำสั่งตรวจสอบและยึดหรืออายัดทรัพย์สินของ จิ๊บ ไผ่เขียว น.ส.โชติรส วงจำปา และ น.ส.วีรยา เนื่องจันทร์พัฒน์ ในฐานะผู้ต้องหา และมีคำสั่งตรวจสอบและยึดหรืออายัดทรัพย์สินของ นายอภิชาต วังประทุม นายวิบูลย์ ลารุณ และ นายณัชพล1 คำวัน ในฐานะผู้มีทรัพย์สินเกี่ยวข้องดังนี้

 เงินสด จำนวน 8,376,440 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร 13 บัญชี มูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท ทองรูปพรรณ 11 รายการ มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานทางทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการ พิจารณาเสนอเลขาธิการ ป.ป.ส. ออกคำสั่งยึด อายัดเพิ่มเติมอีก อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอาวุธปืน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารทั้งหมด 16 บัญชี ตั้งแต่ปี 2550 - 2553 มีเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท จึงมีคำสั่งอายัดบัญชี รวม 13 บัญชี ยอดเงินคงเหลือประมาณ 3.5 ล้านบาท

 นายณรงค์ อ่อนสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จะเสนอให้ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอคืนที่ดินจากผู้เช่า หากตรวจพบว่าผู้เช่ามีการปลูกสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งได้เงินมาจากการค้ายาเสพติด หรือการกระทำผิดกฎหมายในทุกกรณี โดยรายของ “ โจ๊ก - จิ๊บ ไผ่เขียว ” จะเป็นรายแรก ที่เสนอให้นำที่ดินที่ราชพัสดุกลับคืนมาให้คนอื่นเช่าแทน

 พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตำรวจยังคงติดตามไล่ล่าเครือข่ายค้ายาเสพติดรายนี้ต่อไป และพบว่าเครือข่ายบางรายหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนข้อมูลที่ระบุว่า แก๊งโจ๊ก และ จิ๊บ ไผ่เขียว เชื่อมโยงกับแก๊งสิงโต จ.ปทุมธานี ซึ่งมีนายตำรวจใหญ่ ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดด้วยนั้น ตนเองยังไม่ได้ประสานข้อมูลอย่างเป็นทางการกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี