ข่าว

แฉ'จิ๊บ ไผ่เขียว'คลุม5จว.ภาคกลาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชำแหละเครือข่ายยาบ้า "โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว" พบโยงเอเย่นต์ใหญ่นนทบุรี เผยสยายปีกค้ายา 5 จังหวัดภาคกลาง แถมมีตำรวจนอกรีต "แก๊งสิงโต" ในพื้นที่ปทุมฯ คอยเก็บส่วยแลกอำนวยความสะดวกให้ขบวนการยานรก ทั้งใน-นอกพื้นที่ ขณะที่ตำรวจอยุธยาตามล้างบางแก๊งยาบ้า เผยพ่อค้ายาไ

การวิสามัญฆาตกรรมนายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือ "โจ๊ก ไผ่เขียว" และจับกุมนายนพพล ประสงค์ศิล หรือ "จิ๊บ ไผ่เขียว ผู้ต้องหาคดียิง ด.ช. โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ วัย 12 ปี นำไปสู่การกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่สองพี่น้องร่วมขบวนการ ล่าสุดมีการเปิดเผยถึงเส้นทางการค้ายาเสพติดของกลุ่มเครือข่าย "โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว" เบื้องต้นพบว่า เครือข่ายดังกล่าวโยงใยไปใน 5 จังหวัดภาคกลาง โดยมีกลุ่มตำรวจนอกรีตเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน

เส้นทางค้ายา 5 จังหวัดภาคกลาง
 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยถึงเส้นทางขบวนการค้ายาเสพติดในเครือข่าย "โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว" ว่า เกี่ยวกับขบวนการค้ายาบ้าที่เกี่ยวพันกับ "โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว" นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและขยายผลพบว่า เครือข่ายดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดของนายดำ บางบัวทอง ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยนายดำมีเครือข่ายจากทางภาคเหนือกับพื้นที่บริเวณตะเข็บชายแดนประเทศพม่า จ.กาญจนบุรี
 แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวอีกว่า ขบวนการค้ายาบ้าดังกล่าวนำยาบ้าไปขายบริเวณรอยต่อ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.อ่างทอง และ จ.สุพรรณบุรี โดยเฉพาะเครือข่าย "โจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว" ได้แตกหน่อการค้าออกไปอีกถึง 8 สายด้วยกัน คือนายหม่อง อยู่บริเวณย่านนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.อุทัย เขตบางปะอิน, นายออย วัดสุคันธฯ อยู่ในเขต สภ.อุทัย เขตบางปะอิน, นายต่อดำ กับนายต่อขาว อยู่บริเวณ ต.พะยอม เขตวังน้อย, นายอ๊อฟ กับเต้ย คลองลำปาเสา อยู่ในเขตวังน้อย, นายเอ็ม คลองสาม อยู่บริเวณคลองหลวง จ.ปทุมธานี, นายป๊อก บางปะหัน ซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว

แฉมีตร.นอกรีตเก็บส่วย
 "วิธีการส่งยาเสพติดของแก๊งคนร้ายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า จะเป็นการส่งของกันแบบครั้งละ 2-5 ถุง ถุงละ 100 เม็ด โดยมีการทำสัญลักษณ์เอาไว้เป็นจุดสังเกต เช่น นายเอ็ม คลองสาม จะให้แก๊งของนายโจ๊ก กับนายจิ๊บ ไปส่งยาเสพติดที่ป่ากล้วย หมู่ 5 คลองสาม และจะนัดส่งเงินกันอีกสถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นจึงจะนำยาบ้าที่ได้กระจายไปขายยังชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ของนายเอ็มที่รับผิดชอบอยู่ โดยมักจะใช้เด็กนักเรียนทั้งชายและหญิงเป็นตัววิ่งยา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครสังเกต และเมื่อถูกดำเนินคดีจะไม่ถูกลงโทษหนัก โดยจะให้เงินค่าจ้างเป็นสินน้ำใจพอประมาณ หรือบางรายก็ให้ยาบ้า พร้อมกับเงินอีกนิดหน่อย" แหล่งข่าว กล่าว
 แหล่งข่าวรายเดิมยังกล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกรีต ชื่อแก๊งสิงโต เป็นผู้เก็บส่วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แก๊งค้ายาทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายแก๊งค้ายาบ้า มีการขยายตัวและมีอำนาจเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งในคดีค้างเก่าไม่ได้มีการจับตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี เนื่องจากการขยายตัวของแก๊งค้ายาดังกล่าว

ยันตร.ทำงานเต็มที่ไม่ยกเครื่อง
 วันเดียวกัน พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงขบวนการยาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนักที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าหลังจากนี้ได้วางมาตรการปราบปรามเรื่องยาเสพติดและคดีอาชญากรรมให้ทุก สภ. ส่วนการจะยกเครื่องตำรวจพระนครศรีอยุธยาทั้งหมดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทำงานกันเต็มที่ หากจะมีการยกเครื่องจริงถือเป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ส่วนการติดตามเครือข่ายค้ายาเสพติดของจิ๊บและโจ๊ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งระดมกำลังติดตามไล่ล่า ยอมรับว่าเมื่อข่าวแพร่ออกไปคนร้ายก็ไหวตัวหลบหนีไปนานแล้ว และไม่อยู่ให้ตำรวจจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ละเว้น หากพบมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใด และมีน้ำหนักเพียงพอ เจ้าหน้าที่อาจขออนุมัติหมายจับกุมตามขั้นตอน
 ส่วนพิธีฌาปนกิจศพของ โจ๊ก ไผ่เขียว ในช่วงเย็นที่หลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุวุ่นวายจากกลุ่มผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดนั้น พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะพิจารณาจัดกำลังตำรวจไปดูแลความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย

อัยการย้ำยึดทรัพย์จิ๊บไผ่เขียว
 วันเดียวกัน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เปิดเผยถึงการดำเนินดคีกับ "จิ๊บ ไผ่เขียว" ว่า  นอกจากคดีฆ่าแล้ว ยังมีคดีที่เกี่ยวกับการยึดทรัพย์จากการค้ายาเสพติดของกลุ่ม จิ๊บ ไผ่เขียว ที่จะถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงินสอบสวน จากนั้นจะส่งสำนวนมาให้อัยการฟ้องเป็นคดีฟอกเงินเพื่อริบทรัพย์ที่น่าจะได้มาจากการกระทำความผิด
 "คดีนี้จะเป็นสองส่วนคือส่วนเกี่ยวกับคดีอาญา เรื่องยาเสพติดส่วนหนึ่ง กับคดีฟอกเงิน ซึ่งจะต้องแยกกันมา หากสำนวนมาถึงอัยการ อัยการจะพิจารณาและเมื่อฟ้อง ก็จะฟ้องคดีอาญาก่อนเพื่อนำพยานหลักฐานเข้าสืบ เมื่อศาลพิพากษาแล้ว ก็จะนำพยานหลักฐานเดียวกันไปสืบในคดีฟอกเงิน ที่ผ่านมาอัยการสามารถฟ้องและยึดเงินจากกลุ่มค้ายาเสพติดตกเป็นของแผ่นดิน จำนวนมาก แม้คดีนี้เหตุเกิดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่สำนวนก็ต้องส่งมาถึงผม ซึ่งหากสำนวนมาถึงอัยการจะพิจารณาคดีนี้อย่างรอบคอบ" อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ