ข่าว

รปภ.โหด...ก่อคดีซ้ำ"ซ่อนศพ"ในตู้เสื้อผ้า

รปภ.โหด...ก่อคดีซ้ำ"ซ่อนศพ"ในตู้เสื้อผ้า

16 ธ.ค. 2553

ชายชราขาซ้ายพิการ สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ต้องมาจบชีวิตจากน้ำมือของโจรชิงทรัพย์ในคราบพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้องพักนั่นเอง!!

ความตายเริ่มโชยกลิ่นออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ขณะที่แม่บ้านทำความสะอาดประจำโรงแรมประสพโชค เขตเทศบาลหัวหิน ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง โชยออกจากห้องพักหมายเลข 10 ซึ่งอยู่ติดกับเคาน์เตอร์รับแขกเข้าพักของโรงแรม จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน มาตรวจสอบ พบศพ นายคริสตอป ซไนเซอร์ อายุ 60 ปี นักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นอืดอยู่ในตู้เสื้อผ้า โดยถูกคนร้ายใช้ไม้ตีที่ศีรษะและใช้มีดปลายแหลมแทงคอเสียชีวิต

 สภาพศพนายคริสตอปที่พบในที่เกิดเหตุ น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ เมื่อตรวจสอบภายในห้องพัก พบความผิดปกติของตู้เย็น ที่ชั้นวางทั้งหมดไปอยู่ในห้องน้ำ ส่วนฟูกบนเตียงถูกพลิกกลับด้านและพบคราบเลือดติดอยู่

 พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.อัครินทร์ กาสา รองผกก.ป. พ.ต.ต.สมคิด สระทองทรัพย์ สวป. และ ร.ต.ท.สมพงษ์ อยู่ยืน รองสว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.หัวหิน ประชุมแนวทางการติดตามคนร้ายเนื่องจากคดีฆาตกรรมคดีนี้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย

 ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า ห้องที่เกิดเหตุอยู่ติดกับหลังเคาน์เตอร์รับแขกของโรงแรม หากเกิดการทะเลาะวิวาท หรือต่อสู้ แม่บ้านหรือผู้เกี่ยวข้องกับโรงแรมที่รอต้อนรับแขกน่าจะได้ยินบ้าง เว้นแต่เหตุเกิดขึ้นในเวลากลางคืน?!!

 จนมาพบเบาะแสจากแม่บ้าน 2 ราย ซึ่งให้ข้อมูลตรงกันว่า แม่บ้านของโรงแรมมีทั้งหมด 2 คน จะทำงานในเวลากลางวัน โดยคนหนึ่งจะทำความสะอาดทางเดินและภายในห้องพัก ส่วนอีกคนหนึ่ง ทำความสะอาดบริเวณภายนอก และยังทำหน้าที่พนักงานต้อนรับ ส่วนกลางคืน ตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยสับเปลี่ยนหมุนเวียนมานั่งรักษาความปลอดภัย อีกทั้งคอยต้อนรับลูกค้า หรือแขกที่เข้ามาใช้บริการด้วย

 และในวันที่เกิดเหตุเป็นเวรรักษาความปลอดภัยของ นายสมชาย อรุโณทัย อายุ 20 ปี ซึ่งค่อนข้างมีพิรุธ เนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม่บ้านจะเข้าไปทำความสะอาดภายในห้องพักที่เกิดเหตุ แต่ นายสมชาย อ้างว่า เจ้าของห้องไม่อยู่ ออกไปกลับหญิงบริการตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับ บางครั้งวันก็บอกว่าเจ้าของห้องบอกไม่ต้องทำความสะอาดเพราะมีของสูญหาย และน่าผิดสังเกต เมื่อพบกุญแจคล้องลูกบิดจากภายนอก ซึ่งโรงแรมไม่อนุญาตให้คล้องล็อกลูกบิดจากภายนอก แต่นายสมชายบอกว่าเจ้าของพักนำมาคล้องไว้แล้วออกไปข้างนอก

 ชุดสืบสวนเริ่มมั่นใจว่า รปภ.รายนี้น่าจะมีส่วนรู้เห็นในคดีนี้ จึงเชิญตัวมาสอบสวน แต่ นายสมชาย ปฏิเสธมีส่วนรู้เห็น แล้วอ้างว่า นายยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) น่าจะเป็นคนร้าย แต่เมื่อตรวจสอบปรากฏว่านายยุทธยังอยู่ในเรือนจำ ถูกจับเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในข้อหาลักทรัพย์เงินสดในตู้บริจาคภายในวัดแห่งหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่านายสมชายเคยต้องโทษคดีพยายามฆ่า และคดีบุกรุก เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่ถึงครึ่งปี!!

 สุดท้าย นายสมชาย ยอมปริปากสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายคริสตอปแล้วอำพรางคดี โดยก่อเหตุวันที่ 7 ธันวาคม ขณะกำลังนั่งเวรยามตอนกลางคืน ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องพักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนนี้ จึงวางแผนเข้าไปขโมยเงิน แต่เหยื่อตื่นขึ้นมาก่อนจึงถูกฆ่าและอำพรางศพ

 "ตอนนั้นผมไม่มีเงิน และคิดว่านักท่องเที่ยวคงมีเงินเยอะ ผมมีกุญแจสำรองจึงไขประตูเข้าไป แต่เขาตื่นขึ้นก่อนจึงใช้ไม้หน้าสามที่เตรียมไว้ตีที่ศีรษะ แล้วหยิบมีดปอกผลไม้แทงซ้ำที่คอขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงนอน หลังจากนั้นผมพยายามเอาตัวเขาใส่ในตู้เย็น แต่ไม่ได้ เพราะตัวเขาใหญ่ จึงอุ้มเขาโยนทิ้งในตู้เสื้อผ้า แล้วไปพลิกฟูกกลับด้าน หลังจากนั้นรื้อค้นทรัพย์สินได้เงินสดจำนวนหนึ่ง ก่อนออกจากห้องไป เพื่อไปซื้อกาวตราช้างมาหยอดที่ลูกบิดประตูไม่ให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด หลังจากนั้นแม่บ้านมาถามทุกวัน ผมก็แสร้งบอกไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ จนกระทั่งไปซื้อกุญแจคล้องลูกบิดจากภายนอกมาคล้องไว้" นายสมชาย สารภาพ

 จากคำรับสารภาพของนายสมชาย ถูกนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านที่ไปซื้อกาวตราช้าง รวมถึงร้านที่ไปซื้อกุญแจคล้องลูกบิด ทำให้ตำรวจทำสำนวนการสอบสวนทั้งหมดเสนอผู้พิพากษาออกหมายจับนายสมชาย ในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา