ข่าว

 จัด"อีหนู"คลายเมื่อยจับพระครู...นอกกิจสงฆ์

จัด"อีหนู"คลายเมื่อยจับพระครู...นอกกิจสงฆ์

13 ธ.ค. 2553

เช้าวันที่ 5 ธันวาคม ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณสถานีขอนแก่น ต่างพานพบภาพที่น่าสังเวชใจ เมื่อพระภิกษุเมาหลับหมดสภาพอยู่ริมทางรถไฟ...ถัดมาอีกเพียงวันเดียวต้องรับรู้ข่าวพระภิกษุแก่พรรษามั่วสีกาอยู่ในโรงแรมม่านรูดใกล้สถานีรถไฟขอนแก่น!!

ชายชราร่างเล็กหัวโล้น ขับรถยนต์หรูโตโยต้าสปอร์ตไรเดอร์ เลี้ยวปรู๊ดเข้าไปที่ช่องจอดรถของห้องหมายเลข 5 อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะตระกองกอดหญิงสาววัยเบญจเพสนางหนึ่ง เดินหัวร่อต่อกระซิกเข้าห้องไปและปิดล็อกทันทีที่พนักงานของโรงแรมเพลย์บอยรูดม่านปิด และมันคงผ่านไปครรลองตามปกติ เหมือนที่ชายหญิงคู่นี้ซึ่งเข้าออกม่านรูดแห่งนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ทว่าความลับไม่มีในโลก

 เมื่อชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้าไปแจ้งกับผู้ดูแลม่านรูดว่า ชายหัวโล้นคือ "พระครูโกวิทย์ คำวาง" รองเจ้าอาวาสวัดมรรคสำราญ เป็นเจ้าคณะตำบลบ้านท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้าโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาดำเนินการทันที เมื่อมาถึงก็ได้เคาะประตูให้คนในห้องเปิด แต่กลับไม่มีการตอบรับ จนตำรวจต้องใช้กุญแจสำรองไขประตูเข้าไป

 ภาพแรกที่ทุกคนเห็นแทบไม่เชื่อสายตาคือ คนทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เสื้อผ้ากองไว้ปลายเตียง และมีสีหน้าตื่นตระหนก ฝ่ายหญิงถึงกับร้องไห้โฮพยายามคว้าหมอนหรือสิ่งใกล้ตัวปกปิดร่างกาย และที่พื้นห้องพบถุงยางอนามัยใช้แล้วตกอยู่ที่พื้น 1 ชิ้น

 "ป๋าไม่น่าโกหกหนู" เป็นคำพูดที่หญิงสาวพูดต่อว่าต่อขานชายชราซ้ำๆ หลายครั้ง ทั้งพูดทั้งร้องไห้ ด้วยความเจ็บใจ เสียใจ อับอายและละอายแก่ใจที่เพิ่งรู้ว่า ชายคนที่ร่วมหลับนอนด้วยเป็นพระภิกษุ และเพิ่งเห็นกับตาเมื่อตำรวจค้นพบจีวรซ่อนอยู่ในกระเป๋าบนรถ จึงเอามาให้นุ่งห่มก่อนพาตัวไปสึกที่วัดใกล้เคียง

 พระครูโกวิทย์ อายุ 70 ปี บวชมาแล้ว 40 พรรษา ยังกล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้!!

 พระครูโกวิทย์ หรือนายโกวิทย์ บอกเล่าว่า รู้จักกับ น.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงราย มานาน 2 เดือนแล้ว เมื่อครั้งที่แต่งตัวเป็นฆราวาสหลบออกจากวัดมาใช้บริการนวดแผนโบราณที่ร้านหนึ่งบริเวณบึงแก่นนคร เพราะท่องสวดมนต์จนรู้สึกปวดหลัง จากนั้นก็สานสัมพันธ์กันเรื่อยมา กระทั่งจบลงที่โรงแรมม่านรูด จนมาถูกจับ

 "ไม่เป็นไร สึกแล้วก็ออกไปทำมาหากิน" นายโกวิทย์บอกด้วยสีหน้าระรื่น

 ด้าน พระครูอรรถสารเมธี วุฒิธาราม เจ้าคณะอำเภอเมือง จ.ขอนแก่น ยอมรับว่า พระรูปนี้เป็นคนมุทะลุไม่เชื่อคำสอนของพระผู้ใหญ่ และมักจะขับรถไปทำกิจนิมนต์อยู่เสมอจนทำให้ญาติโยมเกิดความแคลงใจ บางครั้งก็เห็นใส่ชุดฆราวาสจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งจับได้คาหนังคาเขาในครั้งนี้

 พระเทพกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดธาตุพระอารามหลวง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สาเหตุที่ปัจจุบันนี้พระทุกระดับชั้นประพฤติผิดวินัยสงฆ์อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากสังคมเปลี่ยนแปลงอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ทำให้เกิดล่อตาล่อใจพระ จึงทำให้พระที่ไม่สามารถควบคุมจิตได้หลงใหลไปตามวัตถุนั้นๆ ที่เห็นจึงเกิดตบะแตก อย่างไรก็ตาม เรื่องการทำผิดวินัยสงฆ์ของพระนั้นมีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่เห็นเด่นชัดในปัจจุบันนี้ คือ การประพฤติผิดในกาม ฉ้อราษฎร์บังหลวง กินข้าวกินปลาไม่อยู่ในกุฏิของการปฏิบัติ เรื่องการเดินทาง เรื่องไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน เรื่องค้าขายทำตัวเป็นพ่อค้าเอง สร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาจัดจำหน่าย ซึ่งเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่พระทุกวันนี้ประพฤติผิดทำกันมามากมาย

 "เมื่อพระทำผิด กฎเกณฑ์ของพระทำได้แค่ตักเตือนจับสึก เรื่องการลงโทษหนักกว่านั้นไม่มี นอกจากว่าพระรูปนั้นจะทำผิดกฎหมาย ฉ้อโกงคนอื่น หรือทำผิดในรูปแบบของฆราวาสก็ต้องรับผิดตามกฎหมายที่บัญญัติไว้เหมือนฆราวาสทั่วไป เมื่อโทษเบาเลยไม่มีคนกลัว ดังนั้นอยากให้องค์กรสงฆ์ ร่างกฎหมายออกมาควบคุมพระมากกว่านี้ จะเป็นการห้ามไม่ให้ละเมิดอะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้พระไม่กล้าทำผิด หากทำผิดจะถูกลงโทษที่หนัก เช่นยึดทรัพย์ หรือริบเงินเดือนย้อนหลัง หรือมากกว่านั้น จะทำให้พระไม่กล้าที่จะทำผิดวินัยมากกว่านี้ " เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นกล่าว

 ส่วนมาตรการในการควบคุมดูแลพระในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อไม่ให้ประพฤติผิดนั้น พระเทพกิตติรังษี ย้ำว่าต่อไปนี้การควบคุมดูแลจะเพิ่มมากขึ้น จะให้เถรสมาคมในระดับชั้นวางกรอบสายงานหรือ "นักสืบพระ" ซึ่งจะมีทั้งพระทั้งชาวบ้าน คอยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าคณะจังหวัด หรือผู้ควบคุมดูแล รายงานพฤติกรรมพระนอกแถวให้ทราบ เมื่อพบพระรูปใดทำความผิดก็จะสั่งปลดจากตำแหน่งหรือจับสึกทันที

 -  สมโภชน์ สมบัติ -