
จนท.รัฐ...ชักศึกเข้าบ้านสวมเลข13หลักให้ต่างด้าว
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการต่ออายุ ใบรับรอง ทร.38/1 หรือ แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่กรณีพิเศษ กลายเป็นผลงานชิ้นสำคัญของ สตม.ที่สามารถขยายผลการจับกุมแก๊งสวมสิทธิ์แรงงานต่างด้าว!!
เมื่อ "คนสวน" สัญชาติพม่า ลูกจ้างในบ้านหลังงามของ "กัปตัน" บริษัทการบินไทย เดินทางไป จ.ระนอง เพื่อต่ออายุ ใบรับรอง ทร.38/1 แต่กลับต้องพบกับความผิดปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลหมายเลขประจำตัว 13 หลัก รวมถึงชื่อ-นามสกุล ซึ่งปีที่แล้วข้อมูลทุกอย่างยังถูกต้อง แต่ปีนี้กลับปรากฏเป็นใบหน้าของคนอื่น และระบุว่าเป็น สัญชาติกัมพูชา?
แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของระบบออนไลน์ จึงพยายามแก้ไขข้อมูลทั้งหมด รวมถึงถ่ายรูปทำบัตรใหม่ โดยใช้หมายเลขประจำตัว 13 หลัก ชื่อ-นามสกุล และสัญชาติที่ถูกต้องให้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ข้อพิรุธในเรื่องนี้ถูกร้องเรียนไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.1 บก.สส.สตม. จึงรายงาน พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รองผบช.สตม. และ พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. ทราบ ก่อนได้รับคำสั่งให้สืบสวนสอบสวนในทางลับ
พ.ต.ท.สมชาย เดชแพ รองผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.ท.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด สว.กก.1 บก.สส.สตม. พร้อมชุดสืบสวน ได้รับคำสั่งให้กระจายกำลังหาเบาะแสจากสายลับที่มีทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งไม่นานนักสายลับของ ด.ต.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ ผบ.หมู่ กก.1 บก.สส.สตม. แจ้งให้ทราบว่า ขบวนการปลอมแบบรับรอง ทร.38/1 มีมาค่อนข้างนานแล้ว โดยมีนายหน้าเป็นคนไทย ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนปกครอง โดยใช้วิธีสวมรูปถ่าย และแก้ไขสัญชาติให้แก่บุคคลต่างด้าวที่ต้องการทำ
รายงานการสืบสวนของชุดสืบสวนพบว่า ข้อมูลกลุ่มขบวนการสวมทะเบียนต่างด้าว ทร.38/1 ที่ศูนย์บริการร่วม จ.นนทบุรี และที่ว่าการอำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และสถานที่อื่นๆ จึงวางแผนจับ โดยกำลังชุดสืบสวนชุดแรกวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการสวมสิทธิ์แรงงานต่างด้าว บริเวณศูนย์บริการร่วม จ.นนทบุรี ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชา 10 คน ซึ่งบางส่วนสวมเลขประจำตัวคนต่างด้าวชาวพม่าแทน โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการร่วม จ.นนทบุรี บางคนให้การช่วยเหลือ และผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ต้องเสียเงินให้แก่กมขบวนการปลอมแบบรับรอง คนละ 16,500-20,000 บาท จึงจะได้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา พร้อมได้รับการตรวจลงตราด้วย
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนชุดสองวางแผนจับกุมหน้าที่ว่าการอำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 5 คน โดยมี นายวรินทร ทองศิริ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่เป็นนายหน้า และนายสมบูรณ์ พูนสุข อายุ 42 ปี ทำหน้าที่ขับรถแท็กซี่พาบุคคลต่างด้าวไปทำใบ ทร.38/1 โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองร่วมประสานงานตรวจสอบข้อมูลในทางลึกและตรวจสอบประวัติทะเบียนบุคคลต่างด้าว
พ.ต.อ.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า กลุ่มขบวนการนี้ จะให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ออกใบ ทร.38/1 โดยจะสวมเลขประจำตัวคนต่างด้าวสัญชาติพม่าแทน เนื่องจากเป็นเลขที่ไม่ซ้ำกับเลขประจำตัวบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ทำให้บุคคลสัญชาติพม่าเสียสิทธิ์ดังกล่าว หากมีเรื่องร้องเรียนก็สามารถกลับไปแก้ไขข้อมูลให้เหมือนเดิมได้ ด้วยวิธีถ่ายภาพบุคคลต่างด้าวใหม่ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และสัญชาติให้ถูกต้องเท่านั้น แต่หากมาตรวจสอบทางคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครอง ซึ่งเป็นแม่ข่าย จะพบว่า หมายเลขประจำตัว 13 หลัก ชื่อ-นามสกุล และสัญชาติบุคคลต่างด้าวบางคนมีการสวมรูปถ่ายและแก้ไขข้อมูล ซึ่งทางกรมการปกครองกำลังตรวจสอบจากรายชื่อและรหัสผ่านของเจ้าหน้าที่รัฐบางคนว่าทำในลักษณะแบบนี้ได้อย่างไร
"การสืบสวนครั้งนี้ มีการบันทึกภาพทุกขั้นตอนของขบวนการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย คอยตรวจสอบให้ในแต่ละขั้นตอน จนกระทั่งจับกุมขบวนการปลอมแบบรับรองได้บางส่วน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง จะส่งผลกระทบภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เร่งกวาดล้างขบวนการนี้อย่างเด็ดขาด" พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าว