ข่าว

ด่ายับไทยพ่ายชวาตกรอบแรกซูซูกิคัพ

ด่ายับไทยพ่ายชวาตกรอบแรกซูซูกิคัพ

08 ธ.ค. 2553

แฟนบอลไทยอาศัยสื่อสาธารณะระบายหลังบอลไทยสิ้นลาย พ่าย "อิเหนา" อินโดนีเซีย 1-2 ร่วงรอบแรกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ ครั้งที่ 8 เรียกร้องผู้บริหารสมาคมฟุตบอลรับผิดชอบ จ่อนัดรวมตัวประท้วง ด้าน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ชี้เหตุสุดวิสัยมีอุปสรรคเยอะก่อนเตะ

การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งที่ 8 รอบแรก นัดสุดท้ายของกลุ่ม เอ ที่สนามเสนายัน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ทีมชาติไทยลงสนามด้วยเหตุผลเดียวคือต้องการ 3 แต้ม เพื่อการันตีตาม “อิเหนา” อินโดนีเซีย คู่ปรับ ที่มี 6 แต้มเต็ม ลอยลำเป็นที่ 1 ของสายแน่นอนแล้ว เกมนี้ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ของไทย ทำเรื่องประหลาดใจอีกหนเมื่อปรับทีมขนานใหญ่ 11 คนแรก ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, แบ็กขวา สุทธินันท์ พุกหอม, เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กับ ภาณุพงศ์ วงศ์ษา, แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ, กองกลางที่ปรับแทบยกแผง สุรีย์ สุขะ, ดัสกร ทองเหลา, นฤพล อารมณ์สวะ, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค และคู่กองหน้า กีรติ เขียวสมบัติ กับ ธีรศิลป์ แดงดา ขณะที่อินโดนีเซีย ปรับแค่ 3 ตำแหน่งเท่านั้น ยังคงมี คริสเตียน กอนซาเลซ กองหน้าชาวอุรุกวัย และกราบซ้ายตัวจี๊ด ออคโตเวียนนุส มาเนียนี ลงค้ำ แต่พัก ไฟมาน อูตินา กัปตันทีมจอมทัพ

 เริ่มเกมครึ่งแรก แค่ 2 นาทีเศษ อินโดนีเซียที่กดดันทันที เปิดจากกราบขวา สินทวีชัย ออกมาชกบอลชนกับกองหลังและกองหน้าอิเหนาถึงกับศีรษะแตกต้องปฐมพยาบาลกว่า 2 นาที จากนั้นยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้แฟนบอลเข้าชมหนาแน่นกว่าทุกวันยังคงกดดันอย่างหนัก แต่ผ่านไป 10 นาที ไทยเริ่มยึดแนวรับแน่นขึ้น และหาโอกาสสวนกลับด้วยเกมริมเส้น สุรีย์ ทำความปั่นป่วนได้ดี นาทีที่ 15 กีรติ ตัวพักบอลในแดนหน้าพลิกหนีเข้าไปในกรอบผ่านให้ ดัสกร ชาร์จแต่ มาร์คัส ฮาริสัน รีฮิฮินา นายทวารอิเหนาตัดรับได้ก่อน

 หลังเจ้าถิ่นเปิดเกมได้ดุ แต่ผ่าน 20 นาทีไป ไทยเริ่มกลับมาครองแดนกลางบุกได้ดีกว่า นาทีที่ 26 ณัฐพร วางบอลออกด้านขวา สุรีย์ ผ่านมาเสาแรก กีรติ ทะยานขวิดหลุดเสาไกล แต่ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น ซาโตะ เรียวจิ ให้เตะมุมกับไทยด้านซ้าย เกมของเจ้าถิ่นเริ่มไปไม่ถึงคู่หน้าอย่าง กอนซาเลซ และเออร์ฟาน ฮาร์รี บัคดิม นักเตะลูกครึ่งอินโดนีเซีย-ฮอลแลนด์ ขณะที่ไทยชักพาบอลไปป้วนเปี้ยนหน้ากรอบได้มากขึ้น โดย กีรติ เก็บบอลได้เด่นเหลือเกิน นาทีที่ 31 รังสรรค์ ทิ่มบอลให้ กีรติ พลิกดีดในกรอบแต่โดนปลายเท้าไปหน่อย ท้ายเกมนาทีที่ 42 ดัสกร เปิดเตะมุมด้านซ้ายไปเสาไกล สุทธนันท์ เขกติดนักเตะอินโดนีเซียเซฟบนเส้น จังหวะเก็บตกสุรีย์ลุยแต่ไปพุ่งล้มเจอใบเหลืองคนแรก หมดครึ่งแรก สกอร์ยังไม่ขยับ 0-0

 กลับมาเริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 50 เป็นโอกาสใกล้เคียงที่จะได้ประตูขึ้นนำเมื่อรังสรรค์ เปิดจากซ้ายนายทวารเจ้าถิ่นออกมารับหลุดบอลไปเข้าทางดัสกร บรรจงปั่นซ้ายลอยเข้าสู่ปากประตู แต่ มามาน อับดูรัคมาน โหม่งสกัดปฏิเสธประตูของไทย อีก 2 นาทีโอกาสเป็นของอินโดนีเซียบ้าง เอกา รามดานี หยอดให้กอนซาเลซ ดีดผ่านปากประตูแบบลุกฮือทั้งสนาม

 อินโดนีเซีย ถอยไปรับแล้วโต้กลับ นาทีที่ 56 สุรีย์ ลุยไปเปิดให้ กีรติ ตีลังกายิง รีฮิฮินา นายทวารอิเหนาผวาชนอกบอลย้อยตกหลังคาเส้นยาแดง ไทยยังไม่ได้ประตูที่ต้องการ อีก 6 นาทีจากลูกสูตรลูกโทษหน้ากรอบ รังสรรค์ หยอดเสาไกล ภาณุพงศ์ หนีมาเขกไปหน้าประตูหลุดไปถึงณัฐพร แตะคืน กีรติอัดตุงตาข่ายแต่ณัฐพรไปยืนล้ำหน้าเสียก่อน

 นาทีที่ 68 ร็อบสัน ปรับเกมหนแรก ดัสกร ออกแล้วให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ลงไปแทน อีกนาทีเดียวณัฐพงษ์ เปิดจากซ้าย กีรติ พักอกคืนให้ สุรีย์ เอี้ยวตัววอลเลย์บอลพุ่งวาบเสียบตาข่าย ไทยนำ 1-0  จากนั้นทีมไทยถอดกีรติออกให้ ศรายุทธ ชัยคำดี แทนนาทีที่ 72 อีก 5 นาที สุรีย์ เจ็บเข่าซ้ายไม่ไหวต้องส่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม มาลุยกราบขวาแทน นาทีที่ 78 สินทวีชัย ออกมาตัดบอลพลาดตกในกรอบ อาริฟ ซูโยโน ดีดยิงโชคดีที่ ภาณุพงศ์ ปราดมาบล็อกข้ามคาน นาทีที่ 80 กลายเป็นประตูปัญหา กอนซาเลซ เข้าฮอสไม่โดนบอลชนเสา จังหวะซ้ำเปาวินิจฉัยว่า ภาณุพงศ์ ไปดึงกองหน้าเจ้าบ้าน กรรมการชี้ที่จุดโทษ บัมบัง ปามุงกัส สังหารไม่พลาด สกอร์เสมอ 1-1 หลังถูกตีเสมอไทยไม่อาจยกระดับเกมกลับมาได้ นาทีที่ 88 ภาณุพงศ์ พุ่งบล็อกลูกยิงไปโดนมือ กรรมการชี้ที่จุดโทษพร้อมให้ใบแดงจากใบเหลืองที่ 2 บัมบัง สังหารไม่พลาด หมดเวลา อินโดนีเซีย เขี่ยไทยตกรอบ 2-1 เป็นการกระเด็นรอบแรกแบบไม่ชนะใคร และตกรอบหนที่ 2 หลังเคยทำไว้เมื่อครั้งที่ 5 ปี 2547

 ส่วนอีกคู่ มาเลเซีย ชนะ ลาว 5-1 เข้ารอบเป็นที่ 2 ของสาย เอ 

บังยีชี้เหตุุสุดวิสัย

 "บังยี" วีรวีย์ มะกูดี ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการตกรอบของทีมฟุตบอลไทยในรายการ "เจาะสนามบอลไทย" ทางเอฟเอ็ม 99 ว่ามีอุปสรรคหลายสาเหตุที่ทำให้ทีมชาติไทยฟอร์มไม่ดีในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองที่มีการชุมนุม รวมทั้งเรื่องของสภาพอากาศที่มีน้ำท่วม ส่งผลให้ฟุตบอลไทยลีกไม่สามารถดำเนินการได้ตามตารางที่วางเอาไว้ ดังนั้นนักเตะมีเวลาเตรียมทีมน้อย และมีอาการล้าในทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งจากการตั้งเป้าจะทำให้ไทยลีก เป็นลีกชั้นยำของเอเชีย อาจจะต้องส่งผลกระทบบ้าง และสุดท้ายเป็นปัญหาเรื่องผู้ตัดสินที่ตัดสินไม่เข้าทางทีมชาติไทยทั้งในเกมกับ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย  ขณะที่ก้าวต่อไปของทีมชาติไทยนั้นจะยังให้ ไบรอัน ร็อบสัน ทำหน้าที่โค้ชต่อไป

 ส่วนกับคำถามที่ว่าจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือไม่นั้น บังยี บอกว่าสมาคมฟุตบอลเป็นของทุกคนอยู่แล้ว หากใครคิดว่าสามารถทำงานได้ดีกว่า ก็สามารถมาลงเลือกตั้งแข่งได้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องลาออก

 ด้านอนุชา นาคาศัย ผู้จัดการทีม กล่าวว่า เสียใจมาก และเสียใจแทนแฟนบอลทุกคน ไม่รู้จะพูดอย่างไร ตนสงสารนักฟุตบอลมากที่สุด พวกเขาทุ่มเทเพื่อทีมเต็มที่ ไม่อยากโทษการตัดสิน แต่นี่คือจุดเปลี่ยนของเกม ส่วนอนาคตยอมรับว่ามีความผูกพันกับเด็กชุดนี้ คงไม่เป็นเรื่องที่เหมาะสมหากจะทิ้งทีมตอนนี้ คงต้องขอเวลากลับไปตัดสินใจอีกครั้ง

 ขณะที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น กล่าวว่า เราทำดีที่สุดแล้ว จากการเตรียมทีมที่น้อย แพ้คือแพ้ ถึงตรงนี้ขออำลาทีมชาติเสียที แม้จะเป็นการจบที่ไม่สวย แต่นี่คือ ธรรมชาติของฟุตบอลที่มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว

 ทั้งนี้นักเตะไทยจะเดินทางกลับด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 434 เวลา 13.00 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 16.40 น.

แฟนบอลร้องความรับผิดชอบ

 แฟนบอลมากมายออกมาให้ความคิดเห็นถึงทีมชาติไทยทางสื่อสาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บบอร์ดต่างๆ หรือว่าเฟซบุ๊ก โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเป็นเพราะความผิดพลาดในการบริหารงานของนายก และผู้บริหารสมาคมฟุตบอล ที่บริหารงานย่ำแย่ เรื่องข้อแก้ตัวจากปัญหาการเมือง และสภาพอากาศนั้นฟังไม่ขึ้น เนื่องจากหลังจากจบปัญหาดังกล่าวแล้ว สมาคมฟุตบอลยังบรรจุการแข่งขันโตโยต้า ลีก คัพ เอาไว้ในโปรแกรมของสโมสรต่างๆ ที่แม้ว่าจะห้ามนักเตะทีมชาติเล่นแต่ก็ยังส่งผลกับโปรแกรมของทีมในรายการอื่นๆ อยู่ดี ผู้เล่นจึงมีเวลาพักน้อยออกอาการล้า อีกทั้งยังทำให้ ไบรอัน ร็อบสัน มีเวลาเตรียมทีมก่อนไปทำศึกเอเชี่ยนเกมส์ ที่กวางโจวเพียง 6 วัน และมีเวลาเพียง 1 วันก่อนไปทำศึกซูซูกิ คัพ ทั้งๆ ที่จุดนี้เคยเป็นปัญหามาแล้วก่อนศึกซีเกมส์ ที่ลาว แต่ไม่มีการแก้ไข

นัดประท้วงหน้าสมาคม-ช่อง3

 ขณะเดียวกันแฟนบอลในเว็บบอร์ด www.pantip.com ในห้องศุภชลาศัย ว่าอาจจะมีการนัดชุมนุมประท้วงบริเวณสนามศุภชลาศัย อันเป็นที่ตั้งของสมาคมฟุตบอลไทย โดยอาจจะมีการนัดเวลาที่แน่นอนอีกที ซึ่งขั้นต้นคาดว่าจะเป็นวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 10.30 น. และได้มีการตอบรับแล้วหลายรายที่จะนัดกันสวมเสื้อสโมสรต่างๆ ของไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2 และในความเห็นที่เว็บบอร์ดดังกล่าวยังมีการยืนยันว่าคนที่ควรรับผิดชอบในความล้มเหลวครั้งนี้ต้องเป็นผู้บริหารสมาคมฟุตบอลไม่ใช่ ไบรอัน ร็อบสัน ตัวกุนซือ พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่าจะยังคงให้กำลังใจทีมชาติไทยต่อไป แม้ว่าจะไม่มีหวังอะไรก็ตาม

 นอกจากนี้ในหน้าเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน ไม่เอาผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยชุดนี้" ยังมีการนัดชุมนุมกันที่อาคารมาลีนนท์ หรือว่าช่อง 3 ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม เวลา 09.00 น. ซึ่งเป็นการร้องขอความรับผิดชอบของสมาคมฟุตบอลต่อหน้าสื่อ