
มท.แจกดีวีดีหนังเฉลิมพระเกียรติ
รัฐบาล เปิดทำเนียบฯ 8 ธ.ค. ให้ประชาชนเข้าชม ละครดึกดำบรรพ์ ถวายพระพรในหลวง เล่นครั้งแรก 2442 หาดูที่ไหนไม่ได้ อลังการ ! ตั้งจอ LED ยาว 42 เมตร ฉายพระราชกรณีกิจในหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดซ้อมใหญ่ให้สื่อมวลชนได้ชมการแสดงชุด “เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้า โลกล้วนสดุดี” ซึ่งจะจัดแสดงในงานสโมสรสันนิบาต เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันอังคารที่ 7 ธ.ค. 2553 เวลา 18 . 00 น. โดยการแสดงชุดนี้ใช้นักแสดง 66 คน นักดนตรีและนักร้อง 33 คน โดยผสมผสานเทคนิคพิเศษบนเวทีการแสดงขนาด 53 เมตร สูง 2.40 เมตร ฉากหลังเป็นจอภาพ LED ขนาดใหญ่ ความยาว 42 เมตร สูง 4 เมตร ฉายพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสลับกับการแสดง .
นางอัญชลี วาณิชเทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานสโมสรสันนิบาตครั้งนี้ถือว่าพิเศษกว่าทุกปีเนื่องจากจะมีการจัดแสดงระบำพัธวิสัย ซึ่งเป็นละครดึกดำบรรพ์ เคยจัดแสดงครั้งแรกในปีพ.ศ. 2442 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับรองว่าหาดูที่ไหนไม่ได้ โดยการนำมาเปิดแสดงครั้งนี้ได้นำมาผสมผสานกับวงดนตรีออเคสตร้าเรียกได้ว่าเป็นนาฎกรรมร่วมสมัย โดยจะมีการแสดงสองวันคือ 7 ธ.ค.ในงานสโมสรสันนิบาต และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 18.00 น.โดยในวันดังกล่าวจะมีการฉายภาพยนตร์ถวายพระพรในหลวง 7 เรื่องและแสดงพลุสลับกันไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระบำพัธวิสัย นั้นอยู่ในตอนท้ายของละครดึกดำบรรพ์เรื่องคาวี ตอนนางคันธมาลีหึง เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งต้องการให้ฉากจบของเรื่องมีความยิ่งใหญ่ตระการตาแบบ Grand Finale ในการแสดงอุปรากรหรือละครโอเปร่า จึงทรงนิพนธ์ให้มีระบำที่แสดงออกถึงการสรรเสริญและถวายพระพรแด่พระมหากษัตริย์ ส่วนชื่อระบำพัธวิสัย นั้นเรียกตามชื่อเมืองของท้าวสันนุราช ผู้ซึ่งถูกคาวีสังหาร
มท.แจกดีวีดีหนังเฉลิมพระเกียรติ
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานคณะทำงานคณะกรรมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 กล่าวว่า ในวันที่ 7 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ประชาชนที่เดินทางไปร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กระทรวงมหาดไทย จะได้รับดีวีดีภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ 7 เรื่อง คนละ 1 ชุด โดย 7 ผู้กำกับชื่อดังของเมืองไทย ได้แก่ แผ่นดินของเรา จากฟ้าสู่ดิน อาม่า เหรียญของพ่อ ราชประชานุเคราะห์ คนล่าเมฆ และเรื่องเดียวกัน เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย
อย่างไรก็ตาม ที่ซุ้มจัดนิทรรศการของกระทรวงมหาดไทย ในงานเฉลิมพระเกียรติ "แผ่นดินของเรา" ที่ลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจัดฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 เรื่อง พบว่ามีประชาชนทยอยเข้าชม ก่อนเวลา 17.00 น. นอกจากนี้ ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เริ่มแจกดีวีดีภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ให้ประชาชนที่ลงนามถวายพระพร โดยมีประประชาชนรอเข้าแถวยาวเหยียด ส่วนในวันที่ 7 ธันวาคม จะมีการฉายภาพยนตร์และแจกดีวีดีภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ เช่นกันจนถึงวันสุดท้ายของงาน
ถนนราชดำเนินคึกคักชมการประดับไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ ย่านบางลำภู และ ถนนข้าวสาร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 มีประชาชนพร้อมใจใส่เนื้อสีชมพู มาเที่ยวชมดูการประดับไฟ ตลอดเส้นทางตั้งแต่สนามหลวง ราชดำเนินในและราชดำเนินนอกกันอย่างคึกคัก บ้างก็มาเป็นหมู่คณะ มาเป็นครอบครัว และคู่หนุ่มสาว ต่างพากันเก็บภาพความประทับใจ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ เก็บไว้เป็นที่ระลึก อย่างไรก็ตาม ตลอดถนนข้าวสารบรรดาร้านอาหารต่างๆ ได้ติดธงเฉลิมพระเกียรติ ทำให้มีสีเหลืองอร่ามตลอดเส้นทางถนนข้าวสาร
พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามาร่วมลงถวายพระพร
ส่วนบรรยากาศการลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่างเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างเนืองแน่นตลอดทั้งวัน ทั้งบุคคลทั่วไป ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กร คณะสงฆ์ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยนำแจกันดอกไม้ พานพุ่ม และสิ่งของต่างๆ มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย อาทิ คณะครู นักเรียนโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง ชมรมผู้สูงอายุ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผู้บริหาร คณะครู และเจ้าหน้าที่วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ ชมรมลูกเสือชาวบ้าน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะครูและนักเรียน ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดไผ่ล้อม สมาคมนักแต่งเพลงแห่งประเทศไทย และคณะครู นักเรียนโรงเรียนสตรีนครสวรรค์ โดยผู้ที่มาร่วมลงนาม กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถเดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทุกวันที่ศาลาศิริราช 100 โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00น. พร้อมทั้งร่วมบริจาคโลหิตให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้อีกด้วย
ชมงานเฉลิมพระเกียรติหน้าพระที่นั่งอนันตฯแน่น
สำหรับการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่บริเวณหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม มีการแสดงบนเวที โดยเป็นการแสดงวิพิธทัศนาของเด็กพิการและด้อยโอกาส นอกจากนี้ยังมีการแสดงพื้นบ้านของภาคเหนือ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อาทิ วงสะล้อ ซอ ซึง และวงมังคละ รวมทั้งยังมีการแสดงพื้นบ้านและมหกรรมกลองนานาชาติ ตลอดจนการแสดงคอนเสิร์ตวงบิ๊กแบนด์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีการแสดงหมอลำอีสานโดยศิลปินแห่งชาติ นำโดยนางฉวีวรรณ พันธุและลูกศิษย์ ร่วมแสดงเพื่อเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งมีประชาชนเข้าชมการแสดงเป็นจำนวนมาก