"CMIS"...สะกดรอยโจรข้ามชาติ | คมชัดลึก

 ความสำเร็จของการจับกุมบรรดาอาชญากรข้ามชาติที่หนีคดีหรือเข้ามาทำความผิดในเมืองไทย คงไม่ใช่เพียงโชคเข้าข้าง แต่เป็นความรู้ ความสามารถ บวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงทำให้ทีมสืบสวน สตม.สร้างผลงานการจับกุมอาชญากรข้ามชาติได้มากมายหลายคดี โดยเฉพาะนักสืบฝีมือดีอย่าง พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.1 บก.สส.สตม. หรือ ผู้กำกับตุ้ม เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อมาปรับใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมดังแนวคิดที่เปรียบเปรยตัวเองเป็นดั่งเครื่องบินรบลำหนึ่ง ถ้าติดอาวุธได้มากขึ้นละเอียดมากขึ้น มีจอเรดาร์มากขึ้น ก็จะเห็นทุกอย่างได้มากขึ้น เฉกเช่นเดียวกับการจับกุมคนร้าย หากสามารถใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการจับกุม และมีปฏิบัติการเชิงรุกให้ได้เร็วยิ่งขึ้น

 -ตลอด 1 ปีกับการสืบสวนคดีเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติ
 พ.ต.อ.วิวัฒน์ : ส่วนใหญ่คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติจะได้รับการร้องขอมาจากสถานทูต ซึ่งเป็นพวกที่มีหมายจับระหว่างประเทศจากทั่วโลก 188 ประเทศ บ้างก็เป็นคดีที่มีหมายจับจากบ้านเราโดยตรง ส่วนปัญหาอาชญากรข้ามชาติที่เป็นปัญหาหนักๆ จะเป็นพวกแก๊งยากูซ่า ซึ่งพวกนี้มักจะคิดว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์บนดินแล้วหลบหนีเข้า หากเป็นคดีที่มีภัยต่อความมั่นคงก็จะใช้อำนาจ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองผลักดันกลับประเทศ แต่ถ้ากระทำผิดคดีอาญาในประเทศไทยก็จะมีการดำเนินคดีในประเทศไทยก่อน

 -ความแตกต่างของอาชญากรข้ามชาติกับอาชญากรไทย
 พ.ต.อ.วิวัฒน์ : อาชญากรข้ามชาติได้รับการพัฒนามาแล้ว ต้องยอมรับว่า โลกยุโรปกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มันต่างกัน อย่างคนร้ายในประเทศไทยไม่ค่อยมีวิธีการที่แยบยลเหมือนคนร้ายชาวต่างชาติ ที่มีการพัฒนาทั้งไอทีและเทคโนโลยี ทั้งในรูปแบบความคิดและวิธีการ ทั้งนี้ คนร้ายต่างชาติพวกนี้จะมีการซื้อทนายความมาช่วยในการทำคดี และยังมีอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งแบ่งหน้าที่กันโจรกรรมอย่างชัดเจด คือ กลุ่มคนที่ขโมยก็ทำหน้าที่ขโมย ส่วนของกลางก็ไปอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง หากจับกุมแล้วไม่พบของกลางก็ต้องปล่อยตัวไป ถึงแม้จะเห็นชัดๆ จากกล้องวงจรปิดว่าคนนี้เป็นคนขโมยไป คือ กลุ่มนี้จะทำเป็นขบวนการ เช่น กลุ่มหนึ่งอาจจะมีการปลอมพาสปอร์ต อีกชุดมีหน้าที่ลักทรัพย์ อีกชุดมีหน้าที่ส่งอุปกรณ์ที่ลักทรัพย์กลับไปบ้าน และอีกกลุ่มก็มีเส้นทางการหลบหนี พวกนี้จะมีองค์กรคอยดูแล เรียกว่าอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนอาชญากรไทยจะคิดแบบเช้าชามเย็นชาม

 -เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พอจะเท่าทันอาชญากรต่างชาติ
 พ.ต.อ.วิวัฒน์ : ตอนนี้มีระบบสืบค้น "PISCES" ที่อเมริกาให้ความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งจะช่วยเช็กการเข้า-ออกในประเทศไทย แค่มีรูปถ่ายที่ใช้เปรียบเทียบกับรูปหน้าคนร้ายก็จะออนไลน์ไปทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำให้สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้เร็วมากยิ่งขึ้น และผู้ที่จะเข้ามาในประเทศไทยต้องมีการแจ้งที่พักต่อเจ้าของอาคารไม่เช่นนั้นจะมีโทษปรับตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งข้อมูลตรงนี้ช่วยให้ทำงานสืบค้นจับกุมได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อมโยงกับด่านตรวจทั้ง 65 ด่านทั่วประเทศ ไม่ว่าจะหลบหนีไปที่ใดก็จะประสานข้อมูลถึงกันหมด นอกจากนี้ก็มี ระบบ "CMIS" ซึ่งเป็นระบบเก็บฐานข้อมูลการวิเคราะห์อาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การใช้โทรศัพท์ของคนร้าย เส้นทางการโอนเงิน ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สะกดรอยตามคนร้ายอย่างเดียว แต่จะมีการวิเคราะห์ทุกข้อมูลทุกอย่างร่วมด้วย 

 -ตำรวจออสเตรเลียก็เพิ่งสนับสนุนเครื่องมือสมัยใหม่มาให้ด้วย
 พ.ต.อ.วิวัฒน์ : ปกติเราได้รับการสนับสนุนเครื่องมือพิเศษอยู่เสมอ เพราะเขาต้องการให้เราจับคนร้าย และได้ใช้เครื่องมือให้มีคุณภาพ ล่าสุดได้รับการสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับสะกดรอยและติดตามคนร้าย เช่น คอมพิวเตอร์พกพา กล้องดิจิทัล กล้องวิดีโอ เครื่องบันทึกเสียง และกล้องส่องทางไกล กล้องส่องทางไกลมองกลางคืน กล้อง Pin hole (กล้องรูเข็ม) เป็นต้น จาก "AFP" คือ สถานทูต เจ้าหน้าที่สืบสวนของประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมาก็ได้รับการสนับสนุนเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ จากกลุ่ม SOCA (SERIOUS ORGANISED CRIME) คือกลุ่มแถวประเทศอังกฤษ และกลุ่ม NORDIC คือกลุ่มแถวประเทศสแกนดิเนเวีย ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในการทำงานของ สตม.มากยิ่งขึ้นด้วย

  -หลักการสืบสวนแบบ สตม.กับเทคโนโลยีสมัยใหม่
 พ.ต.อ.วิวัฒน์  :  เรามีกำลังพลประมาณ 25 คน เวลาทำงานจะแบ่งเป็น 2 ทีม เพื่อให้เกิดการแข่งขันกัน แต่ละทีมจะมีอุปกรณ์พิเศษให้แต่ละทีม ซึ่งพวกเขาต้องมีความชำนาญในการใช้ และเมื่อมีเหตุด่วน อย่างเหตุการณ์ที่มีการจับกุมเครือข่ายมือระเบิดที่สเปนนั้น พอมีคำสั่งก็ต้องพร้อมจะลากกระเป๋าที่บรรจุอุปกรณ์ไปทำงานได้ทันที อย่างไรก็ตาม แต่ละคนมีทักษะที่แตกต่างกัน บางคนอาจถนัดปลอมตัว บางคนถนัดคอมพิวเตอร์ ต้องดึงความสามารถของลูกน้องออกมา ไม่ใช่ไปโยนงานให้เลย คือต้องรู้ว่าลูกน้องแต่ละคนมีความถนัดเรื่องอะไร หรือสนใจเรื่องอะไรก็จะสนับสนุนให้ไปอบรมเรียนรู้เพิ่มเติม ที่สำคัญควรมีทักษะความกระตือรือร้น ความอยากรู้อยากเห็น การฝึกฝนการใช้เครื่องมือในการสืบสวน นั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก

 -โลกนิวมีเดีย โซเชียลมีเดีย มีส่วนทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายง่ายขึ้นหรือไม่
 พ.ต.อ.วิวัฒน์ : ก็มาช่วยเสริมการทำงานอีกทางหนึ่ง อย่างเมื่อสัปดาห์ก่อน เราได้ข้อมูลจากสถานทูตให้ติดตามคนร้ายคดีฉ้อโกงประชาชนที่หลอกเอาสินค้าที่ท่าเรือแล้วเอามาขายแล้วหนีมาซ่อนตัวอยู่ในเมืองไทย ซึ่งมีแค่ชื่อกับรูปถ่ายมา เราก็สืบค้นข้อมูลจนพบว่า คนร้ายรายนี้เล่นเฟซบุ๊ก และอัพรูปที่ถ่ายตอนไปเที่ยวเกาะสมุย เราก็แกะข้อมูลจากเฟซบุ๊ก จนพบที่อยู่และเส้นทางการโอนเงินจากเช็กไอพีแอดเดรสจนพบที่อยู่ และส่งสายสืบไปติดตามจับกุมใช้เวลาประมาณ 3 วัน จนนำตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศเขา อย่างไรก็ตาม หลักสำคัญการติดตามจับกุมคนร้ายอยู่ที่จังหวะและข้อมูล และการที่ สตม.เชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศสามารถที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์ในการจับกุมได้ นอกจากนี้ก็ทำข้อมูลลิงก์กับสถานทูตและระบบการสืบค้นของเรา จึงช่วยทำงานได้อย่างรวดเร็วได้ และไม่ได้กดดันในการทำงาน เพราะเป็นงานที่เรารัก งานที่ได้ช่วยเหลือประชาชน