ข่าว

“ในหลวง”...

“ในหลวง”...

04 ธ.ค. 2553

ข้อความต่อไปนี้ผมเอามาจากอินเทอร์เน็ตเท่าที่ได้มีผู้รวบรวมไว้ ชื่อว่า “เรื่องของในหลวงที่เรา (อาจ) ไม่เคยรู้” ซึ่งมีอยู่หลายข้อความด้วยกัน ขออนุญาตนำบางข้อความมาเรียบเรียงใหม่มีความว่าดังนี้

 “ในหลวง” เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “นายหลวง” ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็น “ในหลวง” พระนาม “ภูมิพล” ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 พระยศเมื่อแรกประสูติคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช

 ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนี หรือสมเด็จย่าอย่างธรรมดาว่า “แม่” สมัยทรงพระเยาว์แม้จะทรงได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย และเมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูก

 สมัยทรงพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิด ทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า “บ๊อบบี้”

 ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก “การให้” โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า “กระป๋องคนจน” หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก “เก็บภาษี” หยอดใส่กระปุกนี้ 10 เปอร์เซ็นต์ ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่า จะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไรบ้าง เช่น มอบให้โรงเรียนคนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า เป็นต้น

 กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวงคือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์เมื่อพระชนมายุเพียง 8 พรรษา

 สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทยโดยโปรดให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ เพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์

 ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน สนพระราชหฤทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนมายุ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองในราคา 300 ฟรังก์ มาหัดเล่นโดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้

 ทรงพระราชนิพนธ์เพลงครั้งแรกเมื่อพระชนมายุ 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ “แสงเทียน”

 นอกจากสนพระราชหฤทัยเรื่องการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระราชหฤทัยถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทยที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอ และโรคเรื้อนด้วย

 ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่โปรดเป็นพิเศษ ได้แก่ แบดมินตัน สกี และเรือใบ

 ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพง ต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการทูลเกล้าฯ ถวายของแด่ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น เครื่องประดับเช่น แหวน สร้อย ของมีค่าต่างๆ ในหลวงไม่โปรดสวมใส่ ยกเว้น นาฬิกา

 ทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปยังสถานที่ต่างๆ จะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่งคือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเองเป็นพิเศษ กล้องถ่ายรูปและดินสอที่มียางลบ ในปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่งจนกระทั่งกุด

 ในหลวงทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน...

 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษานี้ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ