
DSIค้น3โรงงานนมฮั้วประมูลนมร.ร.
ดีเอสไอบุกโรงงานผลิตนมชื่อดังขอนแก่น จับเจ้าของบริษัท-เจ้าหน้าที่ 3 แห่งฮั้วประมูลนมโรงเรียน หลังพบพิรุธยื่นเอกสารฮั้วประมูลหลาย อบต. เผยพบหลายบริษัททั่วประเทศที่ทำลักษณะนี้ ชี้รัฐเสียหายกว่าพันล้านบาท เตรียมขยายผลสอบอบต.เอี่ยวหรือไม่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดย พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ พร้อมด้วยนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายศาลจังหวัดขอนแก่นเข้าตรวจค้น บริษัท ขอนแก่นแดรี่ส์ จำกัด เลขที่ 260 หมู่ 2 ถ.มิตรภาพ ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุมนายพรชัย บุณยชีวิตานนท์ เจ้าของบริษัท
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจค้นที่บ้านพักและควบคุมตัว นางเจริญ รัตนปัญญา ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ขอนแก่นแดรี่ส์ จำกัด นางปราณี แสนแก้ว ผู้รับมอบอำนาจ บริษัท สารคามเกษตร จำกัด ส่วนนางลัดดา โมคา ผู้รับมอบอำนาจ จากบริษัททุ่งกุลา แดรี่ฟูดส์ จำกัด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักแต่ไม่พบตัวผู้ถูกออกหมายจับ จากนั้นได้ควบคุมผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 รายไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ โดยจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รอสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการฝ่ายคดีพิเศษที่กรุงเทพฯ ต่อไป
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนจากรัฐบาลว่า มีการฮั้วประมูลนมโรงเรียนในสังกัด อบต. 7,000 แห่งทั่วประเทศ จึงดำเนินการเข้าตรวจสอบข้อมูลการจัดประมูลและจัดซื้อ ในจ.ขอนแก่นพบว่ามีหลักฐานความผิดปกติการยื่นซองประมูลและการจัดซื้อของบริษัท ขอนแก่นแดรี่ส์ จำกัด บริษัท สารคามเกษตร จำกัด และบริษัท ทุ่งกุลา แดรี่ฟูดส์ จำกัด ที่ได้ยื่นเอกสารประมูลโครงการจัดซื้อนมโรงเรียนที่ อบต.หนองแดง อบต.ศรีสุข เทศบาล ต.วังเพิ่ม และ อบต.ซำยาง ในพื้นที่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น
จากการสืบสวนและตรวจสอบเอกสารของ อบต.ทั้ง 4 แห่ง พบว่า ทุกครั้งที่มีการยื่นซองประมูลราคาโครงการจัดซื้อนมโรงเรียนของบริษัท ขอนแก่นแดรี่ส์ จำกัด จะมอบอำนาจให้ นางเจริญ รัตนปัญญา เป็นผู้เข้าประมูล โดยมีคู่เทียบประมูลด้วยทุกครั้งคือ บริษัท สารคามเกษตร จำกัด มอบอำนาจให้ นางปราณี แสนแก้ว และบริษัท ทุ่งกุลา แดรี่ฟูดส์ จำกัด มอบอำนาจให้ นางลัดดา โมคา
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ข้อพิรุธในการประมูลนมโรงเรียนที่เชื่อได้ว่ามีการทุจริตฮั้วการประมูล เนื่องจากเมื่อรัฐบาลกำหนดราคากลางนมโรงเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ของ อบต.ทุกแห่งทั่วประเทศ ชนิดนมพาสเจอร์ไรส์ถุงละ 6.26 บาท นมยูเอชทีชนิดกล่องกล่องละ 7.75 บาท และนมยูเอชทีชนิดซองซองละ 7.45 บาท
จากการตรวจสอบการเสนอราคาพบว่า บริษัท ขอนแก่นแดรี่ส์ จำกัด มีการเสนอราคาเท่ากับราคากลาง ส่วนบริษัทคู่เทียบมีการเสนอราคาสูงกว่าเล็กน้อยประมาณ 1-2 สตางค์ ทำให้เชื่อว่าทั้ง 3 บริษัทมีการตกลงหรือสมยอมราคากันเพื่อให้บริษัท ขอนแก่น แดรี่ส์ จำกัด เป็นผู้มีสิทธิ์เข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นการเข้าข่ายการผิดตาม พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือการฮั้วประมูล
นอกจากนี้การตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า ผู้รับมอบอำนาจทั้ง 3 ราย คือ นางเจริญ นางปราณี และนางลัดดา มีภูมิลำเนาเดียวกัน คืออยู่ใน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น และยังมีการทำธุรกิจเชื่อมโยงกันอีกด้วย
"หลังจากนี้จะสอบสวนขยายผลว่า อบต.แต่ละแห่งมีส่วนรู้เห็นกับการฮั้วประมูลหรือไม่ หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทั้งหมด หลังจากนี้ได้นำตัวอย่างนมโรงเรียนไปตรวจสอบด้วยว่ามีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่รัฐกำหนดหรือไม่ หากพบว่ามีการปลอมปนหรือทำไม่ถูกต้อง ก็จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการต่อไป" ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษกล่าว
สำหรับการตรวจสอบฮั้วประมูลนมโรงเรียน ดีเอสไอได้ตรวจสอบเอกสารจาก อบต.กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ หากพบพื้นที่ใดต้องสงสัยจึงเข้าตรวจค้นจับกุม โดยเริ่มต้นที่ภาคใต้ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และจ.สงขลา ภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น ความเสียหายทั่วประเทศเป็นวงเงินกว่า 1 พันล้านบาท เฉพาะขอนแก่นจังหวัดเดียวกว่า 4 ล้านบาท