วิกิลีกส์ชี้จีนแผ่อิทธิพลสู่ลาว-พม่า-เขมร | คมชัดลึก

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ พนมเปญ โพสต์ ของกัมพูชา รายงานว่า เว็บไซท์วิกิลีกส์ ได้เผยแพร่เอกสารลับชุดแรกที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชา อันเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารลับทางการทูตของสหรัฐมากกว่า 250,000 ชุด ที่ถูกวิกิลีกส์ ทะยอยเผยแพร่ออกมา ซึ่งระบุว่า นายลี กวนยู รัฐบุรุษของสิงคโปร์ ได้พูดความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจีนกับกัมพูชา

ในเอกสารการทูตที่ประทับตรา " ซีเครท " ที่ถูกส่งจากสถานทูตสหรัฐในสิงคโปร์ ไปยังกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า นายลีได้ให้ความเห็นเรื่องที่จีนขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากขึ้นในโลก และพูดถึงกัมพูชาว่า ภายในไม่กี่ชั่วโมง สิ่งที่หารือกันในที่ประชุมอาเซียนก็ล่วงรู้ไปถึงปักกิ่ง ด้วยเพราะความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างจีนกับลาว กัมพูชาและพม่า

วิกิลีกส์ ได้ให้คำมั่นว่าจะปล่อยเอกสารลับทั้งหมด ที่เป็นบันทึกของสถานทูตสหรัฐทั่วโลกภายในเวลาไม่กี่เดือน ขณะที่เอกสารโดยทะยอยปล่อยออกมาตั้งแต่วันจันทร์ และจนถึงเย็นวานนี้ มีเอกสารลับปล่อยออกมาแล้ว 281 ชุด

นายมาร์ค เวนิก โฆษกสถานทูตสหรัฐ ประจำสิงคโปร์ ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลในเอกสารที่รั่วออกมา โดยระบุว่า เป็นนโยบายของกระทรวงต่างประเทศ ที่จะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลในเอกสารที่รั่วออกมา และเขาได้เขียนในอีเมล เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลต่างชาติ ไม่ควรจะเชื่อตามว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อถือข้อมูลเหล่านี้ และสหรัฐจะยังคงเดินหน้าปรับปรุงความปลอดภัยของระบบให้รัดกุมยิ่งขึ้น

เจ้าหน้าที่สถานทูตสิงโปร์ประจำกรุงพนมเปญ ไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนนายเฉียนไห่ เช่นเดียวกับโฆษกสถานทูตจีน ส่วนนายกอย ควง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า เขากำลังพยายามตรวจสอบข้อมูล ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ของนายลี กวนยู ในประเด็นการเมืองเกาหลีเหนือและจีน ที่พูดถึงกัมพูชานิดเดียวเท่านั้น ขณะที่เอกสารของสถานทูตสหรัฐ ในกรุงพนมเปญ จำนวน 777 ชุด ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน

สื่อฝรั่งเศสระบุซาร์โคซี่ชมสหรัฐส่งทหารช่วยรบอิรัก

หนังสือพิมพ์เลอ มงด์ ของฝรั่งเศส รายงานว่า ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โคซี่ พยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเชื่อตั้งแต่ก่อนจะได้รับเลือกตั้งว่า เขาเป็นผู้นำฝรั่งเศสที่เข้าข้างสหรัฐมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และยังมีความคิดส่งทหารฝรั่งเศสไปร่วมรบในสงครามอิรักด้วย รายงานของเลอ มงด์ ซึ่งแปลมาจากข้อมูลลับทางการทูตที่ถูกขโมยและถูกนำไปเผยแพร่โดยเว็บไซท์ วิกิลีกส์ ระบุด้วยว่า ซาร์โคซี่ ได้พยายามโน้มน้าวนักการทูตสหรัฐในกรุงปารีสมานานก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง เมื่อปี 2550 เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นพันธมิตรที่แท้จริง
   
สถานทูตสหรัฐในกรุงปารีส เขียนบันทึกถึงกระทรวงต่างประเทศ เมื่อปี 2549 บรรยายภาพของซาร์โคซี่ รัฐมนตรีมหาดไทยในช่วงไม่นาน ก่อนที่เขาจะประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีว่าเป็นนักการเมืองฝรั่งเศส ที่สนับสนุนบทบาทของสหรัฐในโลกมากที่สุด พร้อมกับให้ฉายาซาร์โคซี่ว่า " ซาร์โคซี่ ดิ อเมริกัน " และความรู้สึกที่มีต่ออเมริกันพิสูจน์ได้ว่า มาจากก้นบึ้งของจิตใจเขา ซึ่งทำนายได้ว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับฝรั่งเศสในยุคประธานาธิบดีฌ้าคส์ ชีรัคจะสิ้นสุดลงเสียที

ซาร์โคซี่ ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกชื่นชมสหรัฐ ตั้งแต่ตอนเริ่มเข้ารับตำแหน่ง แต่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวฝรั่งเศสบางคนที่เลือกเขา อาจประหลาดใจที่เขาสนับสนุนจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปารีส ได้เขียนในบันทึกช่วยจำเมื่อปี 2549 ว่า ความปรารถนาดีต่อสหรัฐของซาร์โคซี่มีมากถึงขั้น ที่คิดจะส่งทหารไปร่วมรบในอิรัก และประกาศว่า ฝรั่งเศสกับประชาคมนานาชาติ จะต้องช่วยเหลือสหรัฐแก้ไขสถานการณ์ในอิรัก หรือบางทีอาจต้องส่งกองกำลังนานาชาติเข้าไปแทนกองทัพสหรัฐ
 
แต่สงครามอิรัก ไม่เป็นที่พอใจของชาวฝรั่งเศสอย่างสูงสุด ทำให้ซาร์โกซี่ทำได้แค่ส่งทหารบางส่วนไปร่วมรบในอัฟกานิสถาน และฝรั่งเศสกลับไปเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือเต็มตัวอีกครั้ง  

ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวฝรั่งเศส รวมถึงนักการเมืองที่เป็นมิตรหรือศัตรูของเขา อาจต้องประหลาดใจอีกครั้ง ถ้าได้รู้ว่า เขาเปิดเผยแผนการจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อสถานทูตสหรัฐ ก่อนจะประกาศต่อสาธารณชนเสียอีก

ตอนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ไปเยือนฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกนั้น ทางสถานทูตสหรัฐประจำฝรั่งเศส เขียนบันทึกช่วยจำสั้น ๆ แจ้งต่อโอบาม่าว่า การเยือนครั้งนี้เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นิโกลาส์ ซาร์โคซี่ เป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่อยู่ข้างสหรัฐมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และตอนนี้เขากำลังเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลในยุโรป
 
แต่ในความเป็นจริง โอบาม่ากับซาร์โคซี่ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่อบอุ่น เพราะต่างก็ขัดแย้งกันในประเด็นที่โอบาม่า ไม่เห็นด้วยที่ซาร์โคซี่คัดค้านไม่ให้รับตุรกีเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป รวมถึงหนทางในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศโลก แต่สถานทูตสหรัฐในปารีส ก็ยังมองในแง่ดีว่า ถึงอย่างไรซาร์โคซี่ ก็ยังสนับสนุนสหรัฐและอิสราเอล และเขาเป็นมรดกตกทอดของยิว เนื่องจากตาของเขาเป็นชาวกรีกเชื้อสายยิว

ตำรวจสากลออกหมายจับผู้นำก่อตั้งวิกิลีกส์คดีข่มขืน

สำนักงานตำรวจสากลได้อนุมัติหมายจับนายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเวบไซต์วิกิลีกส์ เมื่อวันอังคารตามคำขอของสวีเดน ที่ต้องการตัวเขาไปสอบปากคำในคดีข่มขืนและลวนลามสตรีสวีเดน 2 คนเมื่อเดือนสิงหาคม และหมายจับนี้จะทำให้นายอัสซานจ์ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียวัย 39 ปีและเชื่อว่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอังกฤษและสวีเดน สามารถถูกจับกุมได้ทันทีที่ถูกพบเห็นในประเทศที่เป็นสมาชิกของตำรวจสากล  แต่นายอัสซานจ์ปฏิเสธข้อหา และทนายได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสวีเดนเพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งควบคุมตัวนายอัสซานจ์

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายคินต์โต ลูคัส รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเอกวาดอร์เสนอให้ที่ลี้ภัยแก่นายอัสซานจ์ ล่าสุดประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว โดยบอกว่านายลูคัสพูดไปโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเขาก่อน

นอกจากคดีข่มขืนแล้ว อัสซานจ์ยังอาจเผชิญกับคดีอื่นด้วยหลังจากล่าสุดออกมาเปิดโปงเอกสารลับทางการทูตของสหรัฐกว่า 250,000 ชิ้น โดยรัฐบาลสหรัฐฯกำลังสอบสวนว่าจะดำเนินคดีอาญากับเขาภายใต้กฎหมายจารกรรมความลับได้หรือไม่ แต่เรื่องนี้มีความซับซ้อน
เพราะนายอัสซานจ์ถือว่าตัวเองเป็นนักข่าว

ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้ตัดการเชื่อมต่อข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงฯ กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตลับของกองทัพแล้ว และลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิ์เข้าถึงรายงานการทูตสำคัญๆเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล

และผลจากการที่นายอัสซานจ์เผยพร้อมเปิดโปงข้อมูลภายในธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐฯในต้นปีหน้า ส่งผลให้ราคาหุ้นของธนาคารแห่งอเมริกา(บีโอเอ)ตกฮวบ เมื่อวานเพราะนักลงทุนกลัวว่าธนาคารใหญ่ที่สุดของสหรัฐแห่งนี้อาจเป็นเป้าหมาย
 
นอกจากนี้มีรายงานว่า เฮอร์เบิร์ต สนอร์เรสัน นักศึกษาวัย 25 ปีในไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกในวิกิลีกส์ บอกว่า เขาและอีกหลายคนที่เคยอยู่ในวิกิลีกส์ ได้แยกตัวออกมาเพราะไม่พอใจกับวิธีการทำงานของอัสซานจ์ในการเปิดโปงข้อมูลลับในขณะนี้ และพวกเขาจะตั้งเวบไซต์เปิดโปงขึ้นใหม่เพื่อเป็นทางเลือก แต่ไม่ใช่เป็นการตอบโต้ในทางส่วนตัวหรือเป็นการแข่งขันกับวิกิลีคส์

สนอร์เรสัน บอกว่า วิกิลีกส์จะรวบรวมข้อมูลรั่วแล้วนำมาเปิดเผยเอง แต่เวบไซต์ใหม่จะเป็นแหล่งให้ผู้คนนำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันได้โดยไม่มีการเปิดเผยตัว และเวบไซต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่อัพโหลด รวมทั้งจะไม่มีใครเป็นผู้ควบคุมเวบไซต์เพียงคนเดียวเหมือนวิกิลีกส์
นอกจากนี้เวบใหม่จะดำเนินงานอย่างโปร่งใส