แบรดลีย์ แมนนิงเบื้องหลังข้อมูลลับช็อกโลก | คมชัดลึก

 พื้นเพแมนนิงเป็นชาวโอคลาโฮมา ต่อมาย้ายไปอยู่ในแคว้นเวลส์ในอังกฤษ ด.ช.แมนนิงมักถูกเด็กคนอื่นๆ ล้อเป็นพวกสติเฟื่อง และต้องทนกับเสียงล้อเลียนของเพื่อนๆ ในชั้นว่าเป็นเกย์ พอเป็นหนุ่ม พ่อไล่ออกจากบ้านเมื่อรู้ว่าลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ    

 ในปี 2550 แมนนิงเข้าเป็นทหารในกองทัพบก ได้รับการฝึกเป็นนักวิเคราะห์ข่าวกรอง ก่อนเข้าประจำการในกองพลภูผาที่ 10 ใกล้กรุงแบกแดด และต้องปกปิดรสนิยมทางเพศของตนเองภายใต้นโยบาย "ไม่ถาม ไม่บอก" ที่ห้ามทหารเกย์แสดงตัวอย่างเปิดเผยในกองทัพ  

 เพื่อนๆ และคนรอบข้างที่เติบโตมาด้วยกัน เล่าว่า แมนนิงดิ้นรนแสวงหาการยอมรับ ไม่พอใจนักที่กองทัพมอบหมายให้ทำงานต่ำต้อย

        กระนั้น ตำแหน่งนักวิเคราะห์ข่าวกรองระดับล่าง เพียงพอแล้วสำหรับการเข้าถึงคลังข้อมูลอ่อนไหวมหาศาลในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตลับของกองทัพที่เรียกย่อๆ ว่า ซิปเพอร์เน็ต

 แมนนิง อวดกับนายอาเดรียน ลาโม อดีตแฮ็กเกอร์ ระหว่างสนทนากันทางออนไลน์ว่า "มีคนคนหนึ่งที่ผมรู้จักดีมาก ได้เจาะเข้าไปในเครือข่ายความลับของสหรัฐ และกำลังส่งมอบข้อมูลให้แก่ชายออสซี่ผมขาวคนหนึ่ง" แมนนิงพูดถึงนายจูเลียน อาซานจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ และยังบอกอีกว่า "ฮิลลารี คลินตัน กับนักการทูตหลายพันคนทั่วโลก จะต้องหัวใจวายเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบว่าข้อมูลที่ตอบโต้กันไปมานั้น ไม่เป็นความลับอีกต่อไป"

 แมนนิงไปทำงานตามปกติและทำทีว่า กำลังฟังเพลงจากแผ่นซีดีติดสกรีนเลดี้ กาก้าอย่างเพลิดเพลิน แต่เพลงในแผ่นถูกลบออก และดาวน์โหลดข้อมูลลับใส่แทน ต่อมานายลาโม ได้ส่งมอบบันทึกการสนทนานี้ให้แก่ทางการ และนำไปสู่การจับกุมในที่สุด           

 ปัจจุบัน แมนนิงถูกควบคุมตัวและจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดกฎหมายอาญาแห่งรัฐ 8 กระทง รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลจัดชั้นความลับไปยังบุคคลที่สาม และอีก 2 กระทงภายใต้กฎหมายทหาร หากถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจติดคุกยาวถึง 52 ปี