
ขอคารวะหนึ่งจอก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ มีงานชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ที่ชาวยุทธจักรทั้งหลายพร้อมใจกันไปร่วมงานอย่างคับคั่ง นั่นก็คืองานแซยิดกระบี่มือหนึ่งของวงการหนังสือกำลังภายในของไทย- คุณอำนวย ภิรมย์อนุกูล หรือ น.นพรัตน์
ถ้าจะกล่าวไปแล้ว นามของ น.นพรัตน์ ผาดโผนในยุทธจักรมานานยิ่ง นับตั้งแต่ พ.ศ.2509
แต่สำหรับ คุณอำนวย ภิรมย์อนุกุล 1 ใน 2 ของเจ้าของนามปากกานี้ในยุคแรกนั้น ก้าวเข้ามาสู่วงการก่อนหน้านั้น 1 ปี ในนามของ อ.ภิรมย์ ซึ่งประเดิมด้วยนิยายกำลังภายในเรื่อง “เทพบุตรเพชฌฆาต” ให้สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ก่อนจะได้รับการชักชวนให้มาทำงานที่สำนักพิมพ์เพลินจิตต์ ซึ่งมีโครงการจะออกหนังสือฉบับใหม่ที่มีนิยายกำลังภายในลงพิมพ์ด้วยหลายเรื่อง โดยคุณอำนวยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แปล 2 เรื่อง คุณอำนวยกับพี่ชายคือ คุณอานนท์ ภิรมย์อนุกูล จึงร่วมกันทำงานแปล คุณอำนวย รับหน้าที่แปลจากต้นฉบับภาษาจีนเป็นภาษาไทย และคุณอานนท์ทำหน้าที่ตรวจทานและขัดเกลาสำนวน โดยใช้นามปากการ่วมว่า “น.นพรัตน์” ด้วยการนำอักษรตัวที่สองของชื่อ คือ น หนู มาเป็นชื่อต้น ส่วนนามสกุลนพรัตน์มาจากชื่อร้านเพชรย่านบ้านหม้อ ที่นั่งรถเมล์ผ่านเป็นประจำ แต่หลังจาก คุณอานนท์ เสียชีวิตลง คุณอำนวยทำงานเพียงลำพัง แต่ยังคงใช้นามปากกา น.นพรัตน์ อยู่เช่นเดิม
คุณอำนวยชมชอบกิมย้ง และโกวเล้ง สองปรมาจารย์เรื่องกำลังภายในเป็นอย่างมาก และได้แปลผลงานของนักเขียนทั้งสองเป็นภาษาไทยไว้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้มองข้ามฝีมือของนักเขียนรุ่นใหม่อย่างหวงอี้ เจ้าของเรื่อง “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” และ “มังกรคู่สู้สิบทิศ” หรือหลี่เผิง ผู้เขียนเรื่อง “จอมใจบ้านมีดบิน” และคุณอำนวยเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไว้ว่า สำหรับนิยายจีนในดวงใจของ น.นพรัตน์ นั้น อันดับที่หนึ่ง คือ “กระบี่เย้ยยุทธจักร” รองลงไป ได้แก่ “แปดเทพอสูรมังกรฟ้า” “ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่” “ฤทธิ์มีดสั้น” และ “มังกรคู่สู้สิบทิศ” ตามลำดับ
ในด้านคุณค่าของนิยายกำลังภายใน คงไม่ใช่แค่ความสนุกสนานเท่านั้น หากยังให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมของจีน ผสมผสานด้วยคตินิยมแบบจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณธรรม มิตรภาพ ความรักชาติ ความกล้าหาญ ความเสียสละ รวมทั้งความรัก และความแค้น แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้นิยายและตัวละครเหล่านั้นอยู่ในใจของนักอ่านชาวไทยมาเป็นเวลานานกว่า 45 ปี ก็คือสำนวนแปลที่กระชับ เฉียบคม และโดนใจ ซึ่งหลายๆ วลี ได้กลายเป็นคำพูดที่ติดปากคนทั่วไป
และเนื่องในโอกาสแซยิดคุณ น.นพรัตน์ ผู้น้อยขอคารวะหนึ่งจอก
จากนิยายกำลังภายใน ก็มาถึงบันทึกจากชีวิตจริงของคนจีนโพ้นทะเล ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งทั้งจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ของไทย และบทบาทของคนจีนในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2473 จนถึงกลางทศวรรษที่ 20 รวมทั้งสภาพความเป็นไปของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ที่ผู้เขียนมีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียในยุคที่ยังเป็นอาณานิคมของฮอลันดา หรือสิงคโปร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หนังสือที่ผมพูดถึงเล่มนี้มีชื่อว่า “60 ปี โพ้นทะเล” เขียนโดย อู๋จี้เยียะ นักหนังสือพิมพ์จีนในประเทศไทย อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์จงหยวนรื้อเป้า จัดพิมพ์โดยบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง โดยมีคุณปนัดดา เลิศล้ำอำไพ ซึ่งเป็นบุตรสาวของคุณอู๋จี้เยียะ ทำหน้าที่บรรณาธิการแปล
“60 ปี โพ้นทะเล” นับเป็นหนังสือที่ช่วยให้มองเห็นภาพต่างๆ ทั้งในเมืองไทย และประเทศใกล้เคียง ได้อย่างชัดเจน และมีมิติขึ้นเป็นอย่างมากเลยละครับ