ข่าว

"ผีแดง"เฉือน'กลาสโกว์ เรนเจอร์ส'1-0เข้ารอบชปล.

"ผีแดง"เฉือน'กลาสโกว์ เรนเจอร์ส'1-0เข้ารอบชปล.

25 พ.ย. 2553

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเฉือน กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 1-0 เข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก

"ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยให้สำรองอย่าง คริส สมอลลิง,จอนนี อีแวนส์ หรือว่า ฟาบิโอ ดา ซิลวา ยืนแนวรับ แดนกลางได้ พอล สโคลส์ กับ ไรอัน กิกส์ สองตัวเก๋ากลับมาค้ำ ข้างหน้า เวย์น รูนีย์ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อีกครั้ง ด้าน วอลเตอร์ สมิธ หวังนำ เรนเจอร์ส สร้างปาฏิหาริย์พลิกเข้ารอบโดยต้องชนะนัดนี้ให้ได้ แต่เจ้าถิ่นมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอย่าง ซาซา ปาปัช กองหลัง รวมถึง ไคล ลาฟเฟอร์ตี กองหน้าที่กระดูกมือแตก ความหวังจึงต้องฝากไว้ที่ เคนนี มิลเลอร์ หัวหอกฟอร์มแรง

 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมลุยใส่ทันที ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ขาไปเกี่ยวกับ สตีเวน เดวิส ล้มในกรอบโทษ แต่ผู้ตัดสินชาวสวิส มัสซิโม บูซัคกา มองว่าเป็นอุบัติเหตุจึงไม่เป่านกหวีดให้แต่อย่างใด นาทีที่ 7 ทีมเยือนบุกมาทางซ้าย ฟาบิโอ ดา ซิลวา บรรจงเปิดเข้ากลางให้ เบอร์บาตอฟ เบียด สตีฟ วิทเทเกอร์ ขึ้นโหม่งบอลไปตรงตัว อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ผ่าน 10 นาทีแรก เรนเจอร์ส ได้ฟรีคิก เดวิด เวียร์ เติมขึ้นมาโหม่งต่อให้ เคนนี มิลเลอร์ เอี้ยวตัวโขกหนี เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่บอลพุ่งหลุดเสาไกลไป

 ครึ่งทางของครึ่งแรก "ผีแดง" ครองเกมเอาไว้เกือบทั้งหมด แต่ยังหาช่องเจาะเจ้าถิ่นที่วางขุมกำลังเล่นเกมรับในแดนตัวเองไว้อย่างแน่นหนาไม่ได้ ถัดมาผู้มาเยือนได้โอกาสอีกครั้ง เบิร์บ ถ่างไปเปิดบอลจากด้านข้างเข้ามาให้ เวย์น รูนีย์ เอี้ยวตัววอลเลย์แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลเหินไป นาทีที่ 35 หลุยส์ นานี อาศัยความสามารถเฉพาะตัวแตะหนีกองหลัง เรนเจอร์ส เข้าไปส่องด้วยขวาแต่ยังกดไม่ลง สามนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูนำเป็นที่สุด ดา ซิลวา เติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางอย่างเหมาะเหม็งให้ รูนีย์ โหนโหม่งบอลแฉลบคานออกหลัง ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านเกือบใส่สกอร์ได้เช่นกัน มิลเลอร์ หลุดไปยิงเสาแรก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปิดมุมไว้หมดแล้ว จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0

 ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกใส่ก่อนจนได้ฟรีคิก 35 หลา รูนีย์ ปั่นข้ามกำแพงบอลกระดอนพื้นไซด์หลุดกรอบไป นาที 52 ไรอัน กิกส์ แตะขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดเข้าในย้อนหลังทำให้ เบอร์บาตอฟ วอลเลย์ด้วยซ้ายไม่ถนัดบอลลอยขึ้นฟ้า แม็คเกรเกอร์ กระโดดคว้าเอาไว้ได้ เจ้าบ้านสวนขึ้นมาเหมือนกันแต่ลูกส่องไกลของ ไคล ฮัตตัน ไม่ได้สร้างอันตรายแต่อย่างใด ถัดมา "ผีแดง" เกือบขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ไมเคิล คาร์ริค ได้สับเต็มข้อด้วยขวาร้อนถึง แม็คเกรเกอร์ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟตบออกมา เบิร์บ จะซ้ำก็โดนบล็อกได้อีก หนึ่งชั่วโมงพอดี เรนเจอร์ส ชวดโอกาสทอง จอนนี อีแวนส์ พลาดพยายามบังแต่โดน สตีเฟน เนย์สมิธ แตะเข้าไปยิงทว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาใช้มือป้องกันได้ไว

 ทีมเยือนลุยขึ้นมาอีกครั้ง เบอร์บาตอฟ แตะเข้ากรอบโทษยิงเรียดด้วยขวา แม็คเกรเกอร์ ยังไม่พลาด เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจถอด พอล สโคลส์ ออกมาพักพร้อมกับให้ อันเดอร์สัน ลงมาไล่แดนกลางแทน เกมเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างสิ้นเชิง กิกส์ เปิดให้ เบิร์บ ได้ยิงเน้นๆ แต่ชนตัว สตีเวน เดวิส ออกมา ท้ายเกม ท่านเซอร์ ถอด เบอร์บาตอฟ กับ นานี ออกมาพักให้โอกาส ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ และ กาเบรียล โอแบร์กต็อง ลงไปยืดเส้นยืดสาย ก่อนหมดเวลา 3 นาที "ผีแดง" ได้จุดโทษเมื่อ เนย์สมิธ ไปเตะเข้าที่ยอดอก ดา ซิลวา ก่อนที่ รูนีย์ จะรับหน้าที่สังหารให้ทีมชนะ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน นำฝูงกลุ่มซี พร้อมกับเข้ารอบต่อไป ขณะที่ เรนเจอร์ส มี 5 แต้มจาก 5 นัด รั้งอันดับ 3 ได้ไปเตะยูโรปา ลีก เป็นการปลอบใจ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เรนเจอร์ส : อัลลัน แม็คเกรเกอร์ , ริชาร์ด ฟอสเตอร์ , สตีฟ วิทเทเกอร์ , เดวิด เวียร์ , เคิร์ค บอร์ดฟุต , สตีเฟน เนย์สมิธ , ไคล ฮัตตัน , สตีเวน เดวิส , ลี แม็คคัลลอช , วลาดิเมียร์ ไวสส์ , เคนนี มิลเลอร์

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น โอเชีย , คริส สมอลลิง , จอนนี อีแวนส์ , ฟาบิโอ ดา ซิลวา , หลุยส์ นานี , พอล สโคลส์ , ไมเคิล คาร์ริค , ไรอัน กิกส์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์


ผลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำคืนวันพุธ

กลุ่มเอ
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 1-0 เอฟซี ทเวนเต (ฮอลแลนด์)
[1-0 : เอสเตบัน กัมบิอาสโซ (น.55)]

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ) 3-0 แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี)
[1-0 : ยูเนส กาบูล (น.6) , 2-0 : ลูกา โมดริช (น.45) , 3-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.79)]

(หมายเหตุ : สเปอร์ส กับ อินเตอร์ฯ เข้ารอบ)

กลุ่มบี
ฮาโปเอล เทล อาวีฟ (อิสราเอล) 3-0 เบนฟิกา (โปรตุเกส)
[1-0 : เอราน ซาฮาวี (น.24) , 2-0 : ดักลาส ดา ซิลวา (น.74) , 3-0 : เอราน ซาฮาวี (น.90)]

ชาลเก 04 (เยอรมนี) 3-0 โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)
[1-0 : เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน (น.14) , 2-0 : คลาส แยน ฮุนเตลาร์ (น.20) , 3-0 : คลาส แยน ฮุนเตลาร์ (น.89)]

(หมายเหตุ : ชาลเก กับ ลียง เข้ารอบ)

กลุ่มซี
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
[0-1 : เวย์น รูนีย์ (จุดโทษ น.87)]

บาเลนเซีย (สเปน) 6-1 บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี)
[1-0 : ฆวน มาตา (จุดโทษ น.17) , 2-0 : โรเบร์โต โซลดาโด (น.21) , 3-0 : อาริทซ์ อาดูริซ (น.30) , 4-0 : โจอากิน ซานเชซ (น.36) , 5-0 : โรเบร์โต โซลดาโด (น.55) , 5-1 : ปาโบล บาตายา (น.69) , 6-1 : อเลฮานโดร โดมิงเกซ (น.78)]

(หมายเหตุ : แมนฯ ยูไนเต็ด กับ บาเลนเซีย เข้ารอบ)

กลุ่มดี
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 1-0 เอฟซี โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)
[1-0 : คริสเตียน โนบัว (จุดโทษ น.45)]

พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-3 บาร์เซโลนา (สเปน)
[0-1 : เปโดร โรดริเกซ (น.27) , 0-2 : ลิโอเนล เมสซี (น.62) , 0-3 : เปโดร โรดริเกซ (น.70)]

(หมายเหตุ : บาร์เซโลนา เข้ารอบ)