ย้อนรอย"เครื่องประดับกาย"ในร้านภูฟ้าผสมผสาน | คมชัดลึก

 เหล่านี้ก่อกำเนิดและมีเส้นทางยาวนานตั้งแต่ในอดีตยุคก่อนประวัติศาสตร์โน่น อีกทั้งในห้วงเวลาที่ผ่านมานั้น ใช่ว่าการสวมใส่เครื่องประดับของผู้คนในสมัยต่างๆ ก็ใช่ว่าจะเน้นเฉพาะแค่ตกแต่งเรือนกายให้สวยงามอย่างเดียว แต่ยังใช้บ่งบอกสถานะทางสังคมของผู้สวมใส่ รวมถึงสะท้อนด้านความเชื่อและจินตนาการทางศิลปะของมนุษย์ ในแต่ละสังคมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับ "เครื่องประดับ" อย่างใกล้ชิด จึงเป็นที่มาของการจัดนิทรรศการหมุนเวียน ครั้งที่ 8 "เครื่องประดับกาย : ความเชื่อ ความงาม ความคิดสร้างสรรค์" ขึ้นตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงต้องการส่งเสริมให้เกิดแหล่งวัฒนธรรมในรูปแบบใหม่ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปวัฒนธรรม โดยนำเข้ามาไว้ในแหล่งช็อปปิ้งแทนที่จะรอให้คนเดินเข้าไปหาศิลปะถึงแหล่งภายในร้านภูฟ้าผสมผสาน ชั้น 4 สยามพารากอน

 ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน และทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์ "ช้างสีน้ำเงินถือดอกไม้" เป็นที่ระลึก โดยมี ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ประธานคณะทำงานดำเนินงานร้านภูฟ้า ท่านผู้หญิงอิศรา บุรณศิริ ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี คุณหญิงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี  คุณหญิงมาลินี สารสิน เกตุวลี  นภาศัพท์ วัลลิยา ปังศรีวงศ์ พาสินี  ลิ่มอติบูลย์ ชฎาทิพ จูตระกูล สุวิมล-อุษณา มหากิจศิริ และคณะผู้ดำเนินงานร้านภูฟ้าผสมผสาน เฝ้ารับเสด็จ โดยระหว่างทอดพระเนตรนิทรรศการ มีพระราชกระแสรับสั่งถาม ผศ.มยุรี วีระประเสริฐ ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เกี่ยวกับความเป็นมาของเครื่องประดับกายแต่ละชิ้น ความหมาย และความสำคัญด้วยความสนพระทัย

 สำหรับผู้ที่มีหัวใจรักและสนใจงานด้านศิลปะ ก้าวเท้าเข้าชมได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งในนิทรรศการครั้งนี้ยังมีการฉายภาพวีดิทัศน์การทำเครื่องทองโบราณ ของกาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง รวมถึงการจำหน่ายสินค้าต่างๆ อาทิ เสื้อยืดคอกลม กระเป๋าผ้า พวกกุญแจ ปลอกหมอน ซึ่งเชิญภาพวาดฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "ช้างตาโต" จัดพิมพ์ไว้ด้วย