แฉดาราอักษรย่อ"ต"-"ท"เคยทำแท้ง | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้(17พ.ย.)พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รองผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัต มิลินท จินดา ผกก.สส.น.5 และพ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร นำกำลังฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจค้นตึกแถวเลขที่ 72/148 ถ.เพชรเกษม ระหว่างซอย 81/2-81/3 เนื่องจากนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงิน ให้การว่า คลินิกดังกล่าวส่งศพเด็กมาให้ทำลายที่วัด ตรวจสอบพบมีคราบเลือดบนที่นอนในห้องที่แบ่งไว้บนชั้น 4 นอกจากนี้ยังพบเตียงขาหยั่ง 1 เตียง ส่วนที่ชั้น 2 พบอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับทำแท้ง จึงคุมตัว น.ส.รัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี อดีตผู้ช่วยแพทย์คลินิกแห่งหนึ่งซึ่งดูแลสถานที่ดังกล่าว ไปสอบปากคำที่ สน.วัดพระยาไกร

 น.ส.รัญฉกร ให้การว่า อาคารดังกล่าวเคยเปิดเป็นคลินิกและปิดกิจการไป แต่ตนมารับทำแท้งเพราะรู้จักเครือข่ายแพทย์ในระหว่างที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ ก่อนหน้านี้ตนจะติดต่อและไปรับหญิงสาวที่ตั้งท้องแล้วอยากทำแท้งจากพื้นที่ต่างๆ เช่น ย่านรังสิต คลองตัน จตุจักร และปริมณฑล เนื่องจากบางรายท้องแก่ บางรายมีโรคประจำตัว และที่อื่นไม่รับทำ ประกอบกับมีราคาแพง

 โดยตนลักลอบทำแท้งมาแล้ว 3 ปี คนที่มาทำแท้งส่วนใหญ่เป็นเด็กสาวและวัยรุ่นอายุ 13-20 ปี คนที่อายุมากสุดที่มาทำแท้งอายุ 38 ปี ล่าสุดที่ทำไปคือวันที่ 11 พฤศจิกายน ได้ทำแท้งหญิงสาวอายุครรภ์ 7 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ยังตระเวนรับศพเด็กจากคลินิกที่รับทำแท้งมาทิ้งด้วย โดยจะได้ค่าจ้างศพละ 500 บาท แบ่งให้นายสุเทพ 200 บาท ในการส่งศพทารกจะใช้เวลาตำรวจไม่ตั้งด่าน ขี่จักรยานยนต์นำไปส่งที่วัดไผ่เงิน แต่บางครั้งก็เรียกนายสุเทพมารับไปเอง

 น.ส.รัญฉกร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีคนมาทำแท้งแต่ไม่สำเร็จ 8 ราย ซึ่งทางแม่เด็กไม่แยแส ตนจึงรับเลี้ยงเด็กไว้ทั้ง 8 คน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพถ่ายศพเด็กที่ระบุอายุครรภ์ 7 เดือนครึ่งให้ น.ส.รัญฉกรดู ซึ่ง น.ส.รัญฉกรยืนยันว่าเป็นเด็กที่รับทำแท้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว น.ส.รัญฉกร ไปดำเนินคดี

 น.ส.ลัญฉกร ยังให้การอีกว่า สำหรับดารานักแสดง และนางแบบชื่อดัง เคยมาทำแล้ว 3 คน ประกอบด้วย ดาราชื่อดัง 2 คน อักษรย่อ "น.ส.(ต. )",และ น.ส.(ท)ส่วนนางแบบชื่อดังมี 1 คน อักษรย่อ "น.ส.(น)"

 ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศทั้งเอเอฟพี บีบีซี ในอังกฤษ ซีเอ็นเอ็น หรือเว็บไซต์ฟอกซ์นิวส์ในสหรัฐ รายงานข่าวพบซากทารกในวัดของประเทศไทย จนกลายเป็นข่าวติดอันดับมีผู้อ่านมากที่สุดอันดับต้นๆ บนเว็บไซต์บีบีซีอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อคืนวันอังคาร ส่วนมากพาดหัวและโปรยคล้ายกันว่า "พบศพทารกกว่า 340 ศพ ในวัดพุทธแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย" โดยให้รายละเอียดเรื่องการพบทารก 348 ศพ อยู่ในถุงพลาสติกมัด หรือห่อหนังสือพิมพ์ไว้ สัปเหร่อรับสารภาพได้รับการว่าจ้างให้กำจัดทารกเหล่านั้นจากคลินิกทำแท้งผิดกฎหมายหลายแห่ง ก่อนปิดท้ายด้วยการให้ข้อมูลว่า การทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย ยกเว้นกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าการตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อมารดา ทารกในครรภ์ผิดปกติ หรือกรณีตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน