แอบฟังกลุ่ม20เขาประชุมกันที่กรุงโซล | คมชัดลึก

กลุ่ม 20 นั้นประกอบด้วยประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่แต่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศที่ร่ำรวย สมาชิกของกลุ่ม 20 นี้มีอินโดนีเซีย อินเดีย และตุรกี เป็นสมาชิกอยู่ด้วย ทั้ง 3 ประเทศนี้ไม่ถือว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย

 นอกจากนี้ทุกครั้งเขาจะเชิญประเทศเป็นผู้สังเกตการณ์ เช่น เมืองไทยก็ได้รับเชิญในปีที่แล้ว เพราะเผอิญประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนอยู่ ในปีนี้เขาเชิญประเทศเวียดนามไปแทนและยังได้เชิญประเทศอื่นอีก เช่น สิงคโปร์ก็ได้รับเชิญในปีนี้

 และตามธรรมเนียมก็มีองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการเงินและการเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ เข้าร่วมประชุมด้วยเป็นปกติ

 ก่อนจะมีการประชุมก็มีการคาดการณ์กันต่างๆ สื่อสากลส่วนใหญ่ก็คาดว่าประธานาธิบดีโอบามา จะนำขบวนพวกฝรั่งด้วยกัน “รุมยำ” จีนในเรื่อง 2 เรื่อง คือ ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนโดยค่ายฝรั่งหาว่าจีนกดค่าเงินหยวนของตนให้อ่อนกว่าความเป็นจริงทำให้ได้เปรียบในการค้าขายระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องที่ 2 นั้นก็หาว่าจีนมี “ดุลการค้า” ได้เปรียบประเทศอื่นโดยเฉพาะกับอเมริกามากเกินไป

 แต่เอาเข้าจริงตัวประธานาธิบดีโอบามากลับหน้าแตกเสียเองเพราะก่อนหน้าที่จะมีการประชุมนี้ไม่กี่วัน แบงก์ชาติของอเมริกาบอกว่าจะพิมพ์ธนบัตรให้รัฐบาลกู้ยืมถึง 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ (หยาบๆ เท่ากับ 18 ล้านล้านบาท) และถึงแม้ประธานาธิบดีโอบามาจะพยายามอธิบายว่าเงิน 18 ล้านล้านบาทที่จะปั๊มออกมานั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของอเมริกาให้ชาวบ้านมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่สมาชิกกลุ่ม 20 อื่นๆ ไม่เห็นด้วยเพราะอย่างไรก็ตามเงินก้อนนี้ย่อมท่วมท้นไปทั่วโลก ทำให้รัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องปวดหัวกับเรื่องจัดการค่าของเงินไม่ให้ผันผวนมากเกินไป

 ยิ่งกว่านั้นรัศมีส่วนตัวของท่านโอบามาก็อับแสงลงเนื่องจากพรรคของท่านแพ้การเลือกตั้งกลางเทอมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเสียหายทางการเมืองมาก

 อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการพูดกันถึงหัวข้อค่าของเงินและบัญชีเดินสะพัดระหว่างประเทศ และมีข้อสรุปกันในที่ประชุมว่าให้แต่ละชาติไปร่วมมือกันทำรายละเอียดที่มีตัวเลขเป้าหมายแน่นอนเอาไว้คุยกันในที่ประชุมคราวหน้าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2554 ในประเทศฝรั่งเศส

 เรื่องที่เปิดเผยกันในที่ประชุมก็มีเพียงแค่นี้ แต่การประชุมประเภทนี้การพบปะกันส่วนตัวระหว่างผู้นำต่างๆ นั้นมีสาระสำคัญมากกว่า ซึ่งไม่ช้าก็มีข่าวรั่วออกมา แต่ที่เป็นข่าวมาแล้วคือท่านโอบามาต้องหน้าแตกรอบสองเพราะขออะไรจากเกาหลีไม่ได้เลย ไม่ว่าเรื่องการนำเข้ารถยนต์อเมริกันหรือนำเข้าเนื้อวัว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ธรรมดาสำหรับคนที่ดวงกำลังตก

 ผมนำเรื่องนี้มาเล่าดูจะไกลตัวชาวบ้านเราๆ มาก แต่ความจริงเกี่ยวข้องกับเรามากทีเดียว โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นห่วงกันเรื่องเงินบาทแข็งเงินบาทอ่อน เกรงว่าเมืองไทยคงโดนภัยจากปลายไต้ฝุ่นครั้งนี้ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทผันผวน อนึ่ง ที่เห็นได้ชัด ก็คือ ราคาโภคภัณฑ์หลัก เช่น น้ำมัน และทอง ก็จะผันผวนไปตามกระแสการเงิน ประเทศไทยต้องพึ่งการส่งออกถึง 70%ของจีดีพี ฉะนั้นถ้าตลาดเศรษฐกิจการเงินของโลกผันผวนขึ้นเพราะมือที่มองไม่เห็นที่ควบคุมเศรษฐกิจและการเงินของโลกนอกตำราเศรษฐศาสตร์ เราก็คงหนีไม่พ้นที่จะถูกกระทบกระเทือนไปด้วย

นายหนูใหญ่ /[email protected]