ประกันชีวิต.."สื่อมรณะ" | คมชัดลึก

เมื่อเย็นวันที่ 1 พฤศจิกายน เมื่อนำมาตรวจสอบจึงทราบว่าเป็นรถยนต์ของสามี "สุจิตตา  ชนปทาธิป" อายุ 34 ปี ตัวแทนขายประกันชีวิต บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด หรือ เอไอเอ ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเธอพูดกับสามีประโยคสุดท้ายว่า "ให้ไปรับลูกที่โรงเรียนแทน เนื่องจากกำลังขายประกันให้กับลูกค้า" จนกระทั่งช่วงสายวันที่ 5 พฤศจิกายน พระสงฆ์หลายรูปที่เดินเข้าออกบริเวณทางขึ้นวัด ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง จนกระทั่งเดินตามกลิ่นไปจนพบศพเธอ!!

 พ.ต.อ.วีระ บุตรโพธิ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี โดย พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำทีมสืบสวนแกะรอยคนร้าย โดยทราบเบาะแสจากเพื่อนของเหยื่อว่า วันเกิดเหตุ สุจิตตา โทรศัพท์มาที่ทำงานบอกให้เตรียมเอกสารทำประกันให้แก่ผู้ชายอายุ 25 ปี และเด็กผู้หญิงอายุ 3 ขวบ พอช่วงบ่ายสุจิตตาเข้ามาธุระที่บริษัทแล้วรีบออกไป บอกว่าลูกค้าที่ซื้อประกันรออยู่ในรถยนต์

 "เมื่อสอบถามว่าลูกค้าที่อยู่ในรถยนต์คือใคร เพื่อนของเหยื่อบอกไม่รู้จักชื่อ แต่รู้ว่าลูกค้ารายนี้รู้จักกับผู้ตายที่โรงพยาบาลเมื่อปลายปี 2552 แล้วผู้ตายชักชวนให้ทำประกัน และติดต่อกับชายคนนี้เรื่อยมา แต่จู่ๆ ก็เลิกติดต่อไป และเพิ่งเริ่มติดต่อกลับมาอีกครั้งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้บอกว่ามีเงินสดประมาณ 4 แสนบาทต้องการทำประกันชีวิต แต่ตอนนี้มีปัญหากับภรรยาแล้วเอาลูกสาวหนีไป หากกล่อมให้มาคืนดีได้พร้อมทำประกันชีวิต " แหล่งข่าวในชุดสืบสวนระบุ

 เมื่อชุดสืบสวนพยายามหาเบาะแสในละแวกที่เกิดเหตุอีกครั้ง จนกระทั่งพบพยานแวดล้อมให้ตำหนิรูปพรรณของผู้ชายต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้ายผู้ติดยาเสพติด พยานแวดล้อมคนนี้ใช้ความพยายามอยู่หลายชั่วโมง จึงบอกถึงตำหนิรูปพรรณ เมื่อชุดสืบสวนนำแฟ้มภาพผู้ต้องหาในคดียาเสพติดมาให้ดู พยานบอกว่าชายต้องสงสัยใบหน้ารูปร่างคล้ายกับนายสมศักดิ์ สุขศรี หรือ เก่ง อายุ 25 ปี ตามประวัติอยู่บ้านเลขที่ 13/8 ซ.รังสิต-นครนายก 12 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เคยถูกตำรวจ สภ.ด่านช้าง จับข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ก่อนหน้านั้นเคยถูกจับข้อหาชิงทรัพย์แล้วทำร้ายร่างกายในพื้นที่ จ.นครปฐม ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี

 ชุดสืบสวนจึงออกติดตามจนพบแล้วเฝ้าดูพฤติการณ์ ขณะเดียวกันข้อมูลในทางลับชุดสืบสวนทราบว่านายสมศักดิ์ทะเลาะอยู่กับภรรยา แล้วนำลูกสาวหนีไปด้วย ส่วนสายข่าวใน รพ.ปทุมธานี ยืนยันว่ามีคนไข้ชื่อนายสมศักดิ์ สุขศรี มารักษาตัวเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุแขนหัก ยิ่งทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่านายสมศักดิ์น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมจึงขออนุมัติหมายจับแล้วควบคุมตัวมาสอบสวน

 "...รู้จักกับสาวพนักงานขายประกันเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมแขนหักจึงไปพบแพทย์ที่ รพ.ปทุมธานี เธอก็มาชักชวนให้ทำประกันชีวิต แต่ผมยังไม่พร้อม เนื่องจากภรรยาและลูกหนีไป จึงให้เธอช่วยตามหาภรรยาและลูก จนวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เธอพาผมไปหาหมอไสยศาสตร์ที่วัดเขาถ้ำพระ เพื่อจะดูว่าลูกเมียอยู่ที่ไหน ระหว่างจอดรถไว้ที่ทางขึ้นวัด และเดินเท้าขึ้นไป เธอหยอกล้อโดยใช้ก้อนหินปาที่เท้า ผมรู้สึกเจ็บและโมโห จึงบันดาลโทสะใช้ท่อนไม้ฟาดแต่ไม่โดน เมื่อเธอวิ่งหนีจึงตามไปใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะและใบหน้าจนเสียชีวิต แล้วกลับมาค้นหาทรัพย์สินในรถยนต์ หยิบเงินสด 20 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องหลบหนีจนกระทั่งถูกจับ... "
 
 นั่นคือคำรับสารภาพของนายสมศักดิ์ อ้างถึงสาเหตุที่ต้องฆ่าโหด?!!

 แต่ทว่า...คำรับสารภาพของนายสมศักดิ์กับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุขัดแย้งกัน...สภาพศพเหยื่อสาวรายนี้ กางเกงยีนถูกถลกลงมากองอยู่ที่หัวเข่า สภาพเบาะรถยนต์ด้านคนขับถูกปรับเอนจนเกือบสุด และยังพบเส้นผมหรือเส้นขนตกอยู่ที่เบาะรถยนต์ ทำให้ชุดสืบสวนสันนิษฐานว่า นายสมศักดิ์น่าจะมีเจตนาอย่างอื่นมากกว่าการบันดาลโทสะ ส่วนการพิสูจน์ว่าเหยื่อสาวรายนี้ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ เนื่องจากเหยื่อเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน จึงไม่อาจตรวจสอบได้ แต่คดีนี้ก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับนายสมศักดิ์ได้