แห่ชมลูกช้างแฝดคู่3ของโลกที่แม่แจ่ม | คมชัดลึก

(13พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปางเกี๊ยะ หมู่11 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวชวไทยจำนวนมาก เริ่มหลั่งไหลเข้าสัมผัสความน่ารักของลูกช้างแฝดคู่ที่ 2 ของประเทศไทย และถือเป็นคู่ที่ 3 ของโลก โดยลูกช้างแฝดคู่นี้เป็นเพศเมียทั้งคู่ ตกลูกจากแม่ช้างชื่อพังคำมูล อายุ 36 ปีเป็นช้างของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่บ้านปางเกี๊ยะ ซึ่งแม่ช้างพังคำมูลนั้นตกลูกแฝดให้เจ้าของมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม53 ถือเป็นการตกลูกครอกที่สาม

 ขณะนี้สุขภาพของช้างแฝดคู่นี้สมบูรณ์แข็งแรงมีอายุได้ 1 เดือน 5 วัน เป็นที่สนใจของทั้งชาวบ้านที่อาศัยบนดอยแห่งนี้รวมทั้งนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาเยี่ยมชม เพราะเจ้าของเปิดโอกาสให้สามารถถ่ายภาพร่วมกับช้างแม่ลูกอย่างใกล้ชิด

 นายชัตชนะ สุขเทศ ผู้ช่วยหัวหน้าโครงการหลวงปางปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่    เปิดเผยว่า ทางโครงการหลวงกำลังเร่งประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมพานักท่องเที่ยวให้เข้าชมช้างแม่ลูกแฝดคู่นี้ เพื่อให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงเป็นหลูป(loop) กับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของโครงการหลวงที่มี คือการพานักท่องเที่ยวชมไร่องุ่นไร้เมล็ด และสวนอโวคาโดรสชาติดีที่สุดของประเทศ ที่ปลูกด้วยฝีมือของชาวเขาเผ่าม้งที่เป็นสมาชิกของโครงการหลวง จากนั้นแวะชมกุหลาบพันปี และปิดท้ายด้วยการเข้าชมความน่ารักของลูกช้างคู่แฝดที่หาดูได้ยากคู่นี้ซึ่งอยู่ในป่า ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาวันละไม่ต่ำกว่า 40-50 คน และเชื่อว่าฤดูหนาวปลายปีจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก

 นายหม่อกุพอ ศักดิ์ชินธาดากุล ชาวเขาเผากะเหรี่ยง เจ้าของช้างแม่ลูกแฝดรายนี้ เปิดเผยว่า ตอนที่แม่ช้างตกลูก ตอนแรกเราไม่รู้ว่าแม่ตกลูกเป็นแฝด2 ตัว เพราะตกลูกตอนตีสามตีสี่ และแฝดเชือกแรกได้ลุกเดินโซเซเข้าไปอยู่ในป่าส่งเสียงร้องดัง ควานจึงตามไปดูและอุ้มกลับมาไว้รวมกับแม่ และแฝดอีกตัวที่คอกเลี้ยง ขณะนี้แฝดทั้งคู่กินนมแม่ได้ดีไม่มีปัญหา แต่นิสัยของทั้งคู่มีความต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 จากการสังเกตแฝดผู้น้องมีนิสัยเงียบขรึมไม่ชอบสุงสิงกับคน แต่แฝดผู้พี่ง ซึ่งแรกคลอดลุกเดินได้ก็ลุกเข้าไปในป่านั้นมีลักษณะเด่นคือ ที่ปลายหางขอดมีนิสัยขี้เล่นและซุกซนมาก เมื่อมีชาวบ้านมาดูก็จะแสดงท่าทีตื่นเต้นเข้าไปใช้งวงหยอกล้อ และใช้สีข้างลำตัวแกล้งดันคนที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ ส่งผลให้เป็นที่ถูกอกถูกใจกับนักท่องเที่ยวที่เขาทราบข่าวแล้วเดินทางมาชมอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเรามีการเปิดรับบริจาคค่าอาหารให้กับช้างตามจิตศรัทธา เพราะแม่ลูกต้องกินหญ้าวันละ 1-2 ครั้ง ซึ่งตนจะไม่นำไปขายหรือมอบให้องค์กรใดเลี้ยงดู แต่อยากให้ทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้เข้ามาช่วยตรวจสุขภาพให้ก็พอ