
จับพี่"ภาพ70ไร่"ฟอกเงินให้น้อง10ล้าน
ปส.จับพี่ชาย"ภาพ 70 ไร่"ฟอกเงินให้น้อง 10 ล้าน ปปง.เตรียมยึดทรัพย์เข้าคลัง ศาลอนุญาตฝากขังครั้งแรก ปปง.เตรียมยึดทรัพย์ ตร.ศรีราชา จับยาบ้าและยาไอซ์มูลค่ากว่า3แสน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด จำนวน 3 ราย รายแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.3 จับกุม นายสุไลมาน อาลีพูคูเซการอนี อายุ 54 ปี ชาวอิหร่าน พร้อมของกลางยาไอซ์ หนัก 4.1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยจับกุมได้บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อติเทพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวอิหร่าน ลำเลียงยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อส่งต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งผู้ต้องหาได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสารการบิน GULF AIR เที่ยวบินที่ GF 152 จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในกระเป๋าเดินทางจนพบยาไอซ์ดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ที่พื้นกระเป๋าด้านบน และด้านล่าง จึงควบคุมตัวไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 2 พล.ต.ท.อติเทพ แถลงผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.3 ร่วมกันจับกุมแก๊งค้ายาบ้าชาวเขาเผ่าม้ง จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายอะซึ เล่ายี่ป่า อายุ 28 ปี 2.นายดวงจันทร์ สินลี้ อายุ 41 ปี 3.นายอะหมี่ สินลี้ อายุ 41 ปี 4.น.ส.อำพรรณ เปียผะ อายุ 29 ปี และ5.นายอนุพงษ์ เปียผะ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 98,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 120 หมู่ 4 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องปั๊มน้ำมัน หจก.เชียงใหม่พลอยมาลัย หมู่ 3 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ จึงทำการล่อซื้อจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นจำนวนเงิน 15 ล้านบาท ก่อนจะนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อผู้ต้องหามาตามที่นัดหมาย ชุดจับกุมจึงทำการรวบเอาไว้ได้ยกแก๊ง และควบคุมตัวมาสอบสวนก่อนแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 3 พล.ต.ต.หาญพล แถลงผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.2 จับกุมตัวสองพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม คือ นายศักดิ์ชัย บุญเทียม อายุ 64 ปี และนายไชยศ บุญเทียม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 9 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด โดยจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนนิตโย ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดย พล.ต.ต.หาญพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่บริเวณจุดเกิดเหตุ จึงนำกำลังไปซุ่มสังเกตการณ์ จนกระทั่งผู้ต้องหาทั้งสองคนมาถึง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น เมื่อพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตัวของนายไชยบุญ จึงได้จับกุมตัวส่งดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ยังได้ร่วมกับสำนักป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. จับกุม นายสมนึก สีแดง หรือนายชยุต ยติคุณาพร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/106 หมู่ 3 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พี่ชายของนายสุภาพ สีแดง หรือ"ภาพ 70 ไร่" ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำบางขวาง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ได้ตรวจสอบพบว่านายสมนึก มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และยังร่วมกับภรรยาของนายสุภาพ จำหน่ายและโอนทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ไปให้กับบุคคลอื่น เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงิน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนของ บช.ปส. ให้ดำเนินคดีกับนายสมนึก แต่ขณะนั้นนายสมนึกกับพวกสามารถหลบหนีไปได้
พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อวาน (11 พ.ย.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บช.ปส. และ ป.ป.ง. ได้เข้าทำการจับกุม และตรวจยึดทรัพย์สินของนายสมนึก เอาไว้ได้ที่บ้านพัก ซึ่งปัจจุบันนายสมนึก ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น นายชยุต ยติคุณาพร พร้อมกับซื้อทรัพย์สินในนามผู้อื่น โดยหลังจากนี้สำนักงาน ป.ป.ง. จะทำการตรวจสอบ เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรมพิจารณา เพื่อมีคำสั่งให้ยึดอายัดทรัพย์สิน และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนี และถูกจับกุมได้แล้วฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ศาลฝากขังครั้งแรกพี่ชายภาพ70ไร่ฟอกเงิน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สมจิตร คำปาน พนักงานสอบสวน บช.ปส. ควบคุมตัวนายชยุต ยติคุณาพร หรือสมนึก สีแดง อายุ 56 ปี พี่ชายของนายสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ นักค้ายาเสพติดชื่อดังย่านคลองเตย อยู่บ้านเลขที่ 99/9 ม.7 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติด และความผิดฐานฟอกเงิน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 พ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 4 ปาก และรอผลตรวจประวัติการต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รวมทั้งการตรวจพิสูจน์ของกลาและข้อมูลการใช้โทรศัพท์
โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ หากได้ปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
ทั้งนี้คำร้องฝากขังสรุปว่า เมื่อเวลา 16 .00 น.วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและเจ้าพนักงาน ปปง.ทราบว่านาย ผู้ต้องหาคดีนี้ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ จ. 48/2549 ฐาน ร่วมกันฟอกเงิน โดยสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 67/106 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปซุ่มจับ เมื่อผู้ต้องหาเดินออกมาหน้าบ้านจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และพาไปตรวจค้นภายในบ้าน พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาไอซ์ 1 ถุง หนัก 1 กรัม ราคา 3 , 000 บาท พร้อมอุปกรณ์การเสพ ในห้องน้ำ ชั้น 2 จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จากการตรวจสอบและพบธุรกรรมการซื้อขายที่ดินของผู้ต้องหากับพวกรวม 8 รายการจำนวน 9 , 820 , 000 บาท ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ปปง.เตรียมยึดทรัพย์พี่ชาย"ภาพ 70 ไร่"
พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. กล่าวว่า หลังจากนี้ ปปง.จะทำการตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติมเพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรมพิจารณามีคำสั่งให้ยึดอายัดทรัพย์สิน และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังได้แจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีและถูกจับกุมได้แล้วฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ตร.ศรีราชาจับยาบ้าและยาไอซ์มูลค่ากว่า3แสน
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.ศรีราชา พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยพ.ต.อ.มนตรี รอดปราณี ผกก.สภ.ศรีราชาร่วมกันแถลงข่าว การกวาดล้างจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ โดยพ.ต.ต.ศิริศักดิ์ วงษ์วิวัฒน์ สว.สส.สภ.ศรีราชาได้นำกำลังชุดสืบสวนออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่พบว่ามีการมั่วสุมเสพยาและจำหน่ายยาเสพติดเป็นประจำ จึงเดินทางไปตรวจสอบและจับกุมนายรุ่งฤทธิ์ วงษา อายุ 21 ปี และน.ส.จันทร์ทิพย์ บุญมี อายุ 25 ปี ของกลางยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 50.17 กรัม ได้ที่บ้านร้าง พื้นที่หมู่ 4 ตำบลสุรศักดิ์
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าได้นำยาบ้าและยาไอซ์ซึ่งเป็นของนายกฤษณะ วงษา ซึ่งเป็นสามีของน.ส.จันทร์ทิพย์ มาจำหน่ายให้แก่หญิงบริการกล่มวัยรุ่นรวมทั้งผู้ใช้แรงงานในพื้นที่อำเภอศรีราชา มานานแล้ว เมื่อตรวจปัสสาวะทั้ง 2 คนก็พบเป็นสีม่วงก็สารภาพว่าได้เสพยายาบ้ามากัน หลังจากนั้นก็ได้สืบทราบว่ามีพ่อค่ายาบ้านำยาบ้ามาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นที่บริเวณซอยบ่อน้ำ จึงนำกำลังไป จับกุมนายวิวัฒน์ วงศ์โต อายุ 30 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 80 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 0.44 กรัม โดยที่ผู้ต้องหากำลังนั่งนับยาเสพติดอยู่ภายในห้องพักในซอยบ่อน้ำ หลังวัดราษฏร์นิยมธรรม เขตเทศบาลเมืองศรีราชา โดยสารภาพว่าติดยาเสพติดงอมแงมจึงต้องนำยาบ้ามาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นและหญิงบริการในพื้นที่เมื่อตรวจปัสสาวะก็พบเป็นสีม่วง
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพ ตำรวจจึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า) โดยผิดกฏหมายหลังซึ่งมูลค่ายาเสพติดทั้งหมดที่จับกุมได้ทั้งยาบ้าและยาไอซ์ถ้านำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้านั้นจะมีมูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป