ข่าว

"โบลิเวีย"เปิดบ้านถล่มอาร์เจนตินา6-1

"โบลิเวีย"เปิดบ้านถล่มอาร์เจนตินา6-1

02 เม.ย. 2552

"ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา แพ้เละสุดรอบกว่า 60 ปี ออกนอกถิ่นโดน โบลิเวีย ถล่ม 6-1 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ โซนยุโรป "สิงโตคำราม" อังกฤษ ยังรักษาสถิติชนะรวดต่อไปได้ จอห์น เทอร์รี ยิงเฉือนชนะ ยูเครน 2-1 ขณะที่"กระทิงดุ" สเปนกับ"กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ ยั

ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อคืนวันที่ 1 เมษายน ในโซนอเมริกาใต้ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา ที่มีอยู่ 19 แต้มออกไปเยือนกรุงลาปาซของ โบลิเวีย ทีมรองบ๊วยที่เพิ่งจะมีแค่ 9 แต้ม โดยเกมนี้ ดิเอโก มาราโดนา มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นจากชุดที่ชนะ เวเนซุเอลา ไปบ้าง แต่ยังมีตัวชูโรงอย่าง ลีโอเนล เมสซี กับ คาร์ลอส เตเบซ ลงสนามเหมือนเดิม

 อย่างไรก็ตาม เริ่มเกมได้ 11 นาทีเจ้าถิ่นก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก มาร์เชโล มาร์ตินส์ ก่อนที่ อาร์เจนตินา จะตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 24 จากการยิงไกลของ ลูโช กอนซาเลซ แต่หลังจากนั้นเกมตกเป็นของ โบลิเวีย เป็นส่วนใหญ่ นาทีที่ 33 มาได้จุดโทษและ โจอาคิน โบเตโร สังหารเป็น 2-1 ก่อนที่ อเล็กซ์ ดา โรซา จะมียิงให้เจ้าถิ่นเพิ่มได้อีกในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกทำให้นำอยู่ 3-1

 เข้าครึ่งหลังเกมรับของ อาร์เจนตินา ยังไม่ดีขึ้นนาทีที่ 54 ต้องเสียประตูที่ 4 จากการโหม่งที่เสาไกลของ โบเตโร เป็น 4-1 จากนั้น โบเตโร มาทำแฮตทริกนาทีที่ 65 สกอร์จึงขยับเป็น 5-1 โดยที่ทีมเยือนยังต้องเสียตัวผู้เล่นไปอีกเมื่อ อังเคล ดิมาเรีย เจตนาเตะคู่แข่งโดนใบแดงในอีก 2 นาทีต่อมา และเป็น ดิเอโก้ ทอร์ริโก้ ที่มายิงไกลปิดท้ายให้ โบลิเวีย ชนะขาด 6-1 ทำให้ อาร์เจนตินา แพ้เละที่สุดในรอบกว่า 60 ปี หลังจากที่เคยโดน เชโกสโลวะเกีย ถล่มสกอร์นี้มาในฟุตบอลโลกปี 1958

 ด้านการแข่งขันในโซนยุโรป "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดสนามเวมบลีย์พบกับ ยูเครน ซึ่ง ฟาบิโอ คาเปลโล ส่ง ปีเตอร์ เคราช์ ยืนหัวหอกตัวจริงแทนที่ เอมิล เฮสกีย์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่เกมโดยรวมยังทำได้ดีเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่องจนนาทีที่ 28 ก็ได้ประตูนำก่อนจากลูกเตะมุม จอห์น เทอร์รี โหม่งตั้งกลับมาให้ เคราช์ เข้ายิงจบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำ 1-0

 ครึ่งหลังเกมของ ยูเครน ก็ยังไม่มีอะไรมากแต่กลับกลายมาตีเสมอได้ในนาทีที่ 73 จากความผิดพลาดของ เกล็น จอห์นสัน ชนบอลไปเข้าทางให้ อังเดร เชฟเชนโก ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรองยิงเข้าไปเป็น 1-1 ทำให้ อังกฤษ ต้องเร่งกันอีกครั้งก่อนมาได้ประตูชัยนาทีที่ 85 เมื่อ เดวิด เบ็คแฮม เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ สตีเวน เจอร์ราร์ด โหม่งตั้งกลับมาให้ เทอร์รี ยิงเข้าไป จบเกม อังกฤษ จึงชนะไป 2-1 เก็บชัยชนะ 5 นัดรวดนำจ่าฝูงมี 15 แต้ม โดยมี โครเอเชีย ที่บุกไปชนะ อันดอร์รา 2-0 ตามห่างๆ อยู่ 5 แต้ม

 "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ลงเล่นในกลุ่ม 4 ด้วยการไปเยือน "มังกรแดง" เวลส์ และเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมจากการขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 11 จากการยิง 35 หลาของ มิชาเอล บัลลัค ก่อนจะได้ประตูที่ 2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ แอชลีย์ วิลเลียมส์ ทำให้ชนะไป 2-0 มีเพิ่มเป็น 16 แต้มจาก 6 นัด ตามมาด้วย รัสเซีย ที่บุกไปชนะ ลิกเทนสไตน์ 1-0 มี 12 แต้มจาก 5 นัด

 "กระทิงดุ" สเปน แชมป์ยุโรปอยู่ในกลุ่ม 5 ออกไปเยือน "ไก่งวง" ตุรกี ที่สนามอาลี ซามิเยน หลังจากที่เมื่อสุดสัปดาห์เอาชนะในบ้านตัวเองมาแล้ว 1-0 แต่มานัดนี้เป็น ตุรกี ที่ออกนำก่อนจาก ซามีห์ เซนเติร์ก นาทีที่ 26 แต่ในครึ่งหลังสเปนมาตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อถึงนาทีที่ 63 จากลูกจุดโทษของ ซาบี อลอนโซ ก่อนที่ช่วงทดเจ็บทีมเยือนได้ประตูชัยอย่างเหลือเชื่อจากเกมโต้กลับ อัลเบิร์ต ริเอรา ซัดประตูชัยให้ทีมชนะไป 2-1 จึงชนะรวดเป็นนัดที่ 6 มี 18 แต้ม โดยมี บอสเนีย ตามมาเป็นที่ 2 ที่ 12 แต้ม

 "ตราไก่" ฝรั่งเศส มีชัยเหนือ ลิทัวเนีย เป็นนัดที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ เมื่อเอาชนะในกลุ่ม 7 ด้วยสกอร์ 1-0 เท่าเดิมจากประตูของ ฟรองก์ ริเบรี นาทีที่ 75 ทำให้มีเพิ่มเป็น 10 แต้มขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ตามหลัง เซอร์เบีย เพียงแค่ 2 แต้ม

 กลุ่ม 8 "อัซซูรี่" อิตาลี จ่าฝูงของกลุ่มเล่นที่บารีพบกับ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ทีมอันดับ 2 ซึ่ง อิตาลี ต้องเล่นแค่ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 4 เมื่อ จิอัมเปาโล ปาซซินี โดนใบแดงออกจากสนามไป แต่อีก 6 นาทีต่อมายังยิงประตูออกนำได้ก่อนจาก วินเชนโซ ยาคินต้า เป็น 1-0 และก็เกือบจะชนะอยู่แล้วจนก่อนหมดเวลา 3 นาที ไอร์แลนด์ มาตีเสมอได้จาก ร็อบบี้ คีน จึงเสมอกันไป 1-1 อิตาลี มีเพิ่มเป็น 14 แต้ม ส่วน ไอร์แลนด์ มี 12 แต้ม

 "กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ ยังไร้เทียมทานในกลุ่ม 9 เปิดบ้านถล่ม มาซิโดเนีย ไปอีก 4-0 จากประตูของ เดียร์ค เคาท์ นาทีที่ 16 กับ 41, คลาส แยน ฮันเตลาร์ นาทีที่ 25 และ ราฟาเอล ฟานเดอร์ฟาท นาทีที่ 88 เก็บชัยชนะรวดเป็นนัดที่ 5 มี 15 แต้ม โดยมี สกอตแลนด์ ที่ชนะ ไอซ์แลนด์ 2-1 ตามมาห่างๆ ที่ 7 แต้ม
 

สรุปผลฟุตบอล
วันพุธที่ 1 เม.ย.2552
 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 
 โซนยุโรป
 กลุ่ม 1
ฮังการี ชนะ มอลตา 3-0
เดนมาร์ก ชนะ แอลเบเนีย 3-0
 กลุ่ม 2
แลตเวีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 2-0
กรีซ ชนะ อิสราเอล 2-1
สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ มอลโดวา 2-0
 กลุ่ม 3
โปแลนด์ ชนะ ซาน มาริโน 10-0
สาธารณรัฐเช็ก แพ้ สโลวะเกีย 1-2 
ไอร์แลนด์เหนือ ชนะ สโลวีเนีย 1-0 
 กลุ่ม 4  
ลิกเตนสไตน์ แพ้ รัสเซีย 0-1  
เวลส์ แพ้ เยอรมนี 0-2  
 กลุ่ม 5 
เอสโตเนีย ชนะ อาร์เมเนีย 1-0  
ตุรกี แพ้ สเปน 1-2
บอสเนีย ชนะ เบลเยียม 2-1 
 กลุ่ม 6 
คาซัคสถาน แพ้ เบลารุส 1-5 
อันดอร์รา แพ้ โครเอเชีย 0-2 
อังกฤษ ชนะ ยูเครน 2-1 
 กลุ่ม 7
ออสเตรีย ชนะ โรมาเนีย 2-1
ฝรั่งเศส ชนะ ลิทัวเนีย 1-0
 กลุ่ม 8
บัลแกเรีย ชนะ ไซปรัส 2-0
จอร์เจีย เสมอ มอนเตเนโกร 0-0 
อิตาลี เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1
 กลุ่ม 9
ฮอลแลนด์ ชนะ มาซิโดเนีย 4-0
สกอตแลนด์ ชนะ ไอซ์แลนด์ 2-1
 โซนเอเชีย
 กลุ่ม 1
ออสเตรเลีย ชนะ อุซเบกิสถาน 2-0
บาห์เรน ชนะ กาตาร์ 1-0
 กลุ่ม 2
เกาหลีใต้ ชนะ เกาหลีเหนือ 1-0
ซาอุดีอาระเบีย ชนะ ยูเออี 3-2  
  โซนอเมริกาใต้
โบลิเวีย ชนะ อาร์เจนตินา 6-1